'สพฐ.'ประกาศใช้ผลประเมิน CEFR ยกระดับภาษาอังกฤษ

'สพฐ.'ประกาศใช้ผลประเมิน CEFR ยกระดับภาษาอังกฤษ

วันพฤหัสบดี ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2568, 17.27 น.

สพฐ. ประกาศแนวทางการนำผลการประเมินตามกรอบมาตรฐาน CEFR ไปใช้ในสถานศึกษา ยกระดับสมรรถนะภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสารของเด็กไทย

ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2568 ตนได้ลงนามในประกาศสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง แนวทางการนำผลการประเมินตามกรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาอังกฤษที่เป็นสากล (Common European Framework of Reference for Languages : CEFR) ไปใช้ในสถานศึกษา เพื่อให้สถานศึกษาที่จัดการศึกษาโดยใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 สถานศึกษานำร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาที่จัดการศึกษาโดยใช้หลักสูตรสถานศึกษา ตามมาตรา 20 (4) และมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา พ.ศ. 2562 สถานศึกษาที่จัดการศึกษาโดยใช้หลักสูตรการศึกษาประถมศึกษาตอนต้น (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3) พ.ศ. 2568 สามารถนำผลการประเมินตามกรอบ CEFR ไปใช้วัดและประเมินผลความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของผู้เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษาแต่ละแห่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำผลการประเมินไปใช้ในการเทียบโอนความรู้ในระบบธนาคารหน่วยกิต ซึ่งในการเทียบโอนความรู้ ผู้เรียนจะต้องได้รับผลการทดสอบจากชุดข้อสอบที่เป็น Proficiency test โดยผลการประเมินตามกรอบมาตรฐาน CEFR มีระยะเวลาของการรับรองผลไม่เกิน 2 ปี นับจากวัน เดือน ปีที่ระบุในใบรับรองผลการประเมิน


“ กระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะด้านภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสาร โดยมีประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง นโยบายการปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ พ.ศ. 2557 ที่กำหนดให้ใช้กรอบมาตรฐาน CEFR เป็นกรอบความคิดหลักในการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษของประเทศไทย ทั้งในการออกแบบหลักสูตร การพัฒนาการเรียนการสอน การทดสอบ การวัดผล การพัฒนาครู รวมถึงการกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสาร เป็นเครื่องมือเข้าถึงองค์ความรู้และก้าวทันโลก เป็นพื้นฐานการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ รวมถึงพัฒนาตนเองเพื่อนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ดังนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว สพฐ.จึงออกประกาศนี้ เพื่อให้สถานศึกษามีแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียน ”

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวด้วยว่า ประกาศ สพฐ. ฉบับนี้ มีแนวทางการพิจารณาแบบทดสอบตามกรอบมาตรฐาน CEFR โดยสถานศึกษาสามารถพิจารณาคุณสมบัติของแบบทดสอบ หรือ แบบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษ ที่สอดคล้องกับบริบทสถานศึกษาและความต้องการจำเป็นของผู้เรียน ดังนี้ 1. แบบทดสอบหรือแบบวัดฯ มีผลคะแนน ระดับ หรือคำอธิบายความสามารถที่ได้รับการรับรองเทียบเคียงกับกรอบมาตรฐาน CEFR และต้องได้รับการรับรอง หรือ ผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ (Validation) ตามกรอบมาตรฐานทางภาษาจากองค์กร หรือหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือระดับสากล หรือที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบวัดผลทางด้านภาษา หรือเทียบเท่า

2. แบบทดสอบหรือแบบวัดฯ จัดสอบได้ทั้งในรูปแบบกระดาษ (Paper-based Test) รูปแบบคอมพิวเตอร์ (Computer-based Test) หรือรูปแบบออนไลน์ (Internet-based Test) โดยจัดสอบที่ศูนย์สอบ หรือ หน่วยสอบมาตรฐานที่ได้รับการรับรอง หรือ รูปแบบออนไลน์ ที่มีผู้ให้บริการทดสอบภาษารับรองแพลตฟอร์ม และมีระบบการยืนยันตัวตนของผู้สอบออนไลน์ และมีระบบการกำกับควบคุมการสอบแบบออนไลน์ (Remote Proctoring)

3. แบบทดสอบหรือแบบวัดความสามารถทางภาษาอังกฤษ ต้องวัดระดับความสามารถที่แสดงให้เห็นถึงทักษะการฟัง การอ่าน ส่วนการวัดทักษะการเขียน ต้องเขียนหรือพิมพ์เพื่อบรรยายหรืออธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ตามหัวข้อที่กำหนด ไม่ใช่การเลือกตอบแบบปรนัย หรือการเติมคำในช่องว่างของประโยคสั้น ๆ สำหรับการวัดทักษะการพูด ต้องพูดบรรยายภาพ สถานการณ์ หรือตอบคำถาม อธิบาย ตามหัวข้อที่กำหนด หรือสนทนากับบุคคลจริง หรือกับระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่การอ่านออกเสียงตามประโยคและข้อความ

4. แบบทดสอบหรือแบบวัดฯ ต้องมีคำอธิบายแบบทดสอบ ตัวอย่าง หรือรายละเอียดที่ผู้สอบสามารถดาวน์โหลดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้จากเว็บไซต์ของผู้ให้บริการทดสอบภาษาโดยตรง หรือตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ โดยผู้สอบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบผลคะแนน ระดับ และคำอธิบายความสามารถทางภาษาของผู้สอบย้อนหลังได้.

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top