มูลนิธิสืบฯ ออกจดหมายเปิดผนึก ถึง ‘อนุทิน’ ยันค้านเพิกถอนป่า ‘อุทยานฯทับลาน’

มูลนิธิสืบฯ ออกจดหมายเปิดผนึก ถึง ‘อนุทิน’ ยันค้านเพิกถอนป่า ‘อุทยานฯทับลาน’

วันศุกร์ ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2568, 19.07 น.

วันที่ 19 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “มูลนิธิสืบนาคะเสถียร” โพสต์ภาพ พร้อมระบุข้อความว่า “จดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล มูลนิธิสืบนาคะเสถียรขอยืนยันเจตนารมณ์คัดค้านการเพิกถอนพื้นที่ 2.6 แสนไร่ ออกจากการเป็นอุทยานแห่งชาติทับลาน

สืบเนื่องจากในวันที่ 21 กันยายน 2568 นี้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จะมีการรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย ชุมชนที่เกี่ยวข้องและประชาชนในการกำหนดแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน (เพิ่มเติม) นั้น มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ขอยืนยันเจตนาคัดค้านการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานทั้ง 265,286.58 ไร่ เพื่อกันออกจากการเป็นอุทยานแห่งชาติและส่งมอบพื้นที่ให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เนื่องจากอุทยานแห่งชาติทับลานเปรียบเสมือนไข่แดงของกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ เป็นทางเชื่อมของสัตว์ป่าในการเดินข้ามไปมาระหว่างพื้นที่ในกลุ่มป่า เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าที่มีขนาดใหญ่อันดับสองของประเทศไทย ถือเป็นดัชนีชี้วัดความสมบูรณ์ของผืนป่าและความหลากหลายทางชีวภาพ อีกทั้งผืนป่าบริเวณดังกล่าวมีศักยภาพและความอุดมสมบูรณ์มากพอต่อการขยายตัวของจำนวนเสือโคร่ง 


การประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 47 ได้มีมติย้ำความห่วงกังวล ต่อการที่ยังคงมีการพิจารณาลดขนาดของพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของแหล่งมรดกโลก และขอเตือนให้รัฐภาคีตระหนักว่า การปรับเปลี่ยนแนวเขตภายในประเทศที่อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อขอบเขตของแหล่งมรดกหรือคุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากล (OUV) โดยมิได้เสนอคำขอแก้ไขขอบเขตอย่างมีนัยสำคัญต่อศูนย์มรดกโลก ตามแนวทางอนุวัตตามอนุสัญญา และมิได้รับการอนุมัติเห็นชอบจากคณะกรรมการมรดกโลก อาจทำให้แหล่งมรดกโลกเผชิญกับภัยคุกคามร้ายแรง ซึ่งอาจส่งผลกระทบในทางลบต่อคุณลักษณะสำคัญของแหล่ง ทั้งนี้เป็นไปตามย่อหน้าที่ 180 (b) ของแนวทางอนุวัตตามอนุสัญญา และการจัดตั้งเขตกันชนใด ๆ จะต้องได้รับการเห็นชอบจาก คณะกรรมการมรดกโลก ตามย่อหน้าที่ 107 ของแนวทางอนุวัตตามอนุสัญญ เช่นกัน

ดังนั้นการพิจารณาเพิกถอนพื้นที่ขนาดใหญ่ออกจากระบบพื้นที่คุ้มครอง ควรพิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบ โดยขอให้พิจารณาแยกกลุ่มปัญหา ห้วงเวลา ที่มีหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการในการแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกัน ไม่ควรรวมทุกกลุ่มปัญหานำวิธีการเดียวกันมาแก้ไข เพราะหากขาดความระมัดระวังจะเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของระบบนิเวศป่าไม้ และสัตว์ป่า รัฐบาลไทยควรปกป้องรักษาคุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากลของกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ผืนป่ามรดกโลก เพื่อรักษาพันธสัญญาทางกฎหมายที่ประเทศได้ให้ไว้ในระดับนานาชาติ และคงความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืนต่อไป

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top