เลิกคุยเขมร!‘กกล.บูรพา’เกาะติดบ้านหนองจาน ‘ผู้ว่าฯสระแก้ว’ประกาศหลัง 10 ต.ค.ลุยผู้รุกล้ำ

เลิกคุยเขมร!‘กกล.บูรพา’เกาะติดบ้านหนองจาน ‘ผู้ว่าฯสระแก้ว’ประกาศหลัง 10 ต.ค.ลุยผู้รุกล้ำ

วันพุธ ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2568, 14.34 น.

‘ผบ.กกล.บูรพา’ตรวจความพร้อมกำลังพล 3 ฝ่าย รับสถานการณ์ชายแดน‘บ้านหนองจาน’ ด้าน‘ผู้ว่าฯสระแก้ว’ย้ำหลัง 10 ต.ค. เข้มงวด‘พ.ร.บ.คนเข้าเมือง’

24 กันยายน 2568 ที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว พลตรี เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา (กกล.บูรพา) พร้อมด้วย นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และ พลตำรวจตรี ถาวร ดุลยวิทย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว นำคณะลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เพื่อติดตามสถานการณ์และตรวจความพร้อมของหน่วยปฏิบัติการชายแดน  และให้กำลังใจกำลังพล 3 ฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ  อส.


ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้ร่วมพูดคุยกันเพื่อหารือแนวทางในการร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายตามมาตรการป้องกันชายแดน และการดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่

จากนั้นคณะได้เดินทางต่อไปยังบ้านหนองจาน เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานร่วมกัน ณ จุดตรวจ ส.40 และติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างถนนเพื่อความมั่นคง รวมถึงการสร้างบังเกอร์กันจอมพลังที่เสริมระบบป้องกันภัย เพิ่มขีดความสามารถในการดูแลพื้นที่ชายแดนอย่างมั่นคงแข็งแรง

พลตรี เบญจพล กล่าวว่า การลงพื้นที่บ้านหนองจาน ติดตามการเทลูกรังกว่า 800–900 ตัน ของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ซึ่งจะนำมาสร้างถนนเชื่อมชุมชนในพื้นที่แนวชายแดน ของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาที่เข้ามาสร้างถนน และถือโอกาสตรวจเยี่ยมกำลังพลสามฝ่าย ที่จัดเตรียมไว้รองรับสถานการณ์หากเกิดขึ้น ซึ่งเราตอบไม่ได้ว่าจะรุนแรงเมื่อใด แต่ยืนยันว่าเรามีความพร้อมทั้งด้านกฎหมายและการปฏิบัติ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่น

“ขณะนี้เป็นช่วงคุมเชิงสถานการณ์ ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนให้ระมัดระวังการนำเสนอข่าว เพราะฝ่ายตรงข้ามเฝ้าติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด พร้อมย้ำว่ากองกำลังไทยมีแผนเผชิญเหตุรองรับทุกสถานการณ์ หากเกิดความรุนแรงก็พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด” พลตรี เบญจพล กล่าว

ด้าน ผู้ว่าฯสระแก้ว กล่าวเสริมว่า หลังวันที่ 10 ตุลาคมนี้ ต้องติดตามท่าทีจากที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา(GBC) โดยยืนยันว่าจังหวัดเฝ้าระวังพื้นที่เข้มงวด และจะใช้กฎหมายจัดการกับการลักลอบเข้าเมืองเป็นอันดับแรก สำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค(RBC )ที่จะถึง ต้องรอความชัดเจนจากฝ่ายทหาร เพราะแม่ทัพทั้งสองประเทศจะเป็นผู้กำหนด ส่วนกรณีที่มีการอ้างว่าพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วเป็นของกัมพูชา ยืนยันว่าต้องยึดสถานการณ์ปัจจุบันเป็นหลัก

“ที่ผ่านมา จังหวัดสระแก้วประกาศชัดเจนแล้วว่า หากฝ่ายกัมพูชาไม่ส่งแผนอพยพ ก็จะไม่มีการพูดคุยกันในระดับจังหวัด ต้องไปหารือกันที่ GBC เท่านั้น ขณะเดียวกันยืนยันว่าฝั่งไทยยังไม่มีการก่อสร้างบ่อนกาสิโนใดๆ” นายปริญญา กล่าว

ส่วนการผลักดันผู้ที่รุกล้ำ ต้องดำเนินการหลังวันที่ 10 ตุลาคม ตามกระบวนการ ไม่ใช่ใช้วิธีรุนแรง เพราะไทยอาจเสียเปรียบในเวทีโลก และขณะนี้ได้ยกระดับเรื่องขึ้นสู่รัฐบาลแล้ว ย้ำว่าฝ่ายไทยมีความพร้อมทั้งกำลังพลและกฎหมาย โดยเฉพาะการจัดการกับการเข้าเมืองผิดกฎหมาย ส่วนการเปิด–ปิดด่าน เป็นอำนาจที่ต้องให้นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศหารือกัน

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top