กทม.เทปูนซ่อมถนนทรุด
ตรวจเข้มตึกสน.สามเสน
ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ติดตามการซ่อมถนนสามเสนที่ทรุดตัวเป็นหลุมยักษ์ลึก 50 เมตรวันที่สาม ซึ่งคืบหน้าไปมาก โดย กทม. ได้เทคอนกรีตกว่า 3 พันตัน อุดรอยรั่วในอุโมงค์ ยันสถานการณ์หลุมยุบภาพรวมคงที่ แม้มีดินสไลด์เพิ่มเล็กน้อย แต่ไม่กระทบภาพรวม ส่งเจ้าหน้าที่ลงสำรวจในอุโมงค์ เตรียมรับมือสถานการณ์ฝน ตั้งกระสอบทรายดักไม่ให้น้ำเข้าหลุม ส่วนรพ.วชิระเปิดบริการเต็มรูปแบบทุกแผนก 100% ด้านวิศวกรรมสถานคุมเข้มความปลอดภัยอาคาร-แฟลตตำรวจสน.สามเสน ยังห้ามเข้า
ความคืบหน้าหลังเกิดเหตุถนนสามเสนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารโรงพยาบาลวชิรพยาบาล และสน.สามเสน กว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร จนต้องมีการอพยพผู้ที่อาศัยอยู่ในอาคารพาณิชย์ และแฟลตตำรวจ รวมถึงผู้ป่วยบางส่วนในโรงพยาบาลวชิรพยาบาล พร้อมประกาศปิดให้บริการเป็นเวลา 2 วัน
รพ.วชิระเปิดให้บริการปกติวันแรก
เมื่อวันที่ 26 กันยายน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เขตดุสิต ซึ่งกลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบวันแรก พร้อมเผยว่า วันนี้ รพ.วชิรพยาบาล เปิด 100% แล้ว ทั้งอาคารทีปังกรรัศมีโชติที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุถนนทรุด รวมถึงอาคารเพชรรัตน์ พร้อมให้บริการ ห้องผ่าตัดเปิดปกติ ห้องล้างไตที่เมื่อวานลดคนไข้ไปครึ่งหนึ่ง วันนี้กลับมาเปิดเต็มกำลัง ประมาณ 10 รายต่อรอบ สำหรับ OPD (แผนกผู้ป่วยนอก) วันนี้เปิดให้บริการครบทุกแผนก เจ้าหน้าที่ทุกคนพร้อมให้บริการ
ถนนสามเสนยังปิดการจราจร
ส่วนการเดินทางมาโรงพยาบาล ผู้ว่าฯกทม.เผยว่า เมื่อลงจากสะพานซังฮี้ ให้เข้าเลี้ยวซ้ายเข้าถนนขาวด้านหลังโรงพยาบาล และเลี้ยวขวาเข้าถนนสังคโลก ซึ่งจะมีป้ายบอกทางเข้าสู่อาคารเพชรรัตน์ และจากอาคารเพชรรัตน์จะมีการส่งต่อไปยังอาคารทีปังกรรัศมีโชติ โดยทีมขนส่งผู้ป่วย สำหรับถนนสุโขทัยยังคงปิดการจราจรไปก่อน
สำหรับที่จอดรถ อาคารทีปังกรรัศมีโชติยังเปิดให้บริการ จำกัดประมาณ 300 คัน จึงขอความร่วมมือหากเป็นไปได้ให้เดินทางมาโดยรถสาธารณะ หรือทางเรือ โดยลงที่ท่าเรือมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช (วชิรพยาบาล) อีกช่องทางคือ ที่จอดรถเพื่อส่งคนอย่างเดียวด้านหลัง ให้เข้าทางถนนขาวแล้ววนมาจอดหน้าอาคารพัชรกิติยาภา ส่งผู้ป่วยและวนออกไป
เทคอนกรีตอีก2.4พันตันอุดรอยรั่วอุโมงค์
นายชัชชาติยังลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการซ่อมถนนสามเสนที่มีการยุบตัวหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล พร้อมเผยว่า เมื่อคืนนี้ เทปูนอุดรอยรั่ว ประมาณ 700 คิวหรือประมาณ 1500 ตัน พบว่าปูนบางส่วนไหลเข้าไปในอุโมงค์ จึงให้เจ้าหน้าที่หยุดเทปูน เพื่อรอให้คอนกรีตที่เทลงไปให้ปูนแห้งก่อน โดยจะปฏิบัติการอีกครั้งเช้านี้ เบื้องต้นประเมินไว้จะใช้ปูน 1,000 คิว หรือประมาณ 2,400 ตัน หลังจากนั้นจะทําผนังคอนกรีตตามขั้นตอนทางวิศวกรรม ภาพรวมตลอดทั้งคืนถือว่าบริเวณหลุมมีความคงที่ มีดินสไลด์ประมาณ 50 เซนติเมตร ไม่ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างหรือมีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนสายไฟที่มีการดึงรั้งอาคาร สน.สามเสน เจ้าหน้าที่จะตัดสายไฟออก
ยังห้ามเข้าสน.สามเสน แฟลต ตร.
สําหรับการเฝ้าระวังอาคารสถานีตํารวจนครบาลสามเสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นําอุปกรณ์มาติดตั้งเพิ่ม เพื่อดูการสั่นไหวของอาคาร สน.สามเสน ซึ่งฝั่งอาคาร สน.สามเสน และแฟลตที่อยู่อาศัยใกล้เคียง ยังไม่ให้บุคคลเข้าพื้นที่ได้ โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปด้านล่างภายในอุโมงค์ เพื่อไปสํารวจปูนที่เทลงไปและดิน รวมถึงสำรวจบริเวณอุโมงค์บางส่วนที่แตกยาวประมาณ 30 ตารางเมตร ทําให้มีดินสไลด์เข้าไปกระจายอยู่เป็นทางสิบเมตร บางส่วนกระจายอยู่ภายในตัวสถานีอีก 40 เมตร ซึ่งพบว่ามีรถตํารวจสองคันเป็นรถยกหนึ่งคัน และรถยนต์ส่วนตัวหนึ่งคัน ทางรฟม.จะนํารถออกให้หลังซ่อมผิวถนนเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ กทม.ยังเตรียมพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำโดยรอบพื้นที่ 4 จุด เพื่อไม่ให้น้ำเข้ามายังพื้นที่หลุม รวมถึงการตั้งกระสอบทรายกั้นเพิ่ม ส่วนรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันจะซื้อรถป้ายแดงชดใช้
อุดรอยรั่วใกล้เสร็จ-ตรวจเข้มตึกสน.สามเสน
นายธเนศ วีระศิริ ที่ปรึกษาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยเผยความคืบหน้าการซ่อมถนนสามเสนที่เกิดการยุบตัวหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลว่า เจ้าหน้าที่เทคอนกรีตลงไปในหลุมแล้วประมาณ 700 ลูกบาศก์เมตร ก่อนหยุดช่วงเที่ยงคืนเพื่อให้คอนกรีตแข็งตัว และเริ่มเทใหม่อีกครั้งช่วงเช้าวันนี้ แม้มีคอนกรีตบางส่วนไหลเข้าไปตามช่องอุโมงค์ แต่ไม่ถือว่าเป็นปัญหา เนื่องจากมีเป้าหมายเพื่ออุดรอยรั่วให้แน่นหนารองรับการถมพื้นที่ด้านบน การตรวจสอบล่าสุดพบการอุดรอยรั่วใกล้สมบูรณ์แล้ว ทุกอย่างยังดำเนินไปตามแผน หากเทคอนกรีตได้ตามเป้าจะเข้าสู่ขั้นตอนถมดินและถุงทรายให้ได้ระดับเดียวกับดินใต้ท้องอาคารสน.สามเสน เพื่อเพิ่มความมั่นคงของอาคาร โดยมีทีมจากมหาวิทยาลัยนำระบบสแกน 3 มิติ มาช่วยวิเคราะห์ปริมาณคอนกรีตและประเมินระยะเวลาทำงาน พร้อมตรวจสอบการขยับตัวของอาคารโดยรอบอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เร่งวางมาตรการป้องกันไม่ให้น้ำไหลจากด้านหลังอาคารเข้าหลุม ซึ่งอาจกระทบเสาเข็มจนเกิดทรุดตัว โดยเบื้องต้นวางแนวทรายเพื่อเบี่ยงน้ำออก ส่วนประเด็นที่น่ากังวลคืออาคาร สน.สามเสน และสายไฟด้านล่างที่ปริแตก ได้ตัดสายไฟบางส่วนยาวประมาณ 12-15 เมตรออก เพื่อลดแรงดึงรั้ง ยืนยันจากการประเมินล่าสุด ยังไม่พบความเสี่ยงร้ายแรง
สมาคมวิศวกรฯชี้หลุมยักษ์ใหญ่ที่สุดในปท.
ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย และอาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ถนนทรุดตัว บริเวณหน้าโรงพยาบาล วชิรพยาบาลว่า อาจเป็นหลุมยุบใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดในประเทศ ปัจจัยความเสี่ยงที่ทำให้เกิด 1. ชั้นดินอ่อน 2.น้ำในดินที่มีอยู่ในธรรมชาติหรือจากท่อน้ำ และ3.การก่อสร้างใต้ดิน ซึ่งมีอุโมงค์และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ถนนยุบ เกิดขึ้นจากดินใต้ถนนจำนวนมหาศาลไหลเข้าไปในโครงสร้างใต้ดิน ผ่านจุดอ่อนหรือจุดที่ไม่แข็งแรง ซึ่งอาจเป็นตำแหน่งรอยต่อระหว่างอุโมงค์กับโครงสร้างสถานี หรืออาจเป็นบริเวณที่ชิ้นส่วนอุโมงค์ หรือผนังสถานี เสียหายแตกร้าว เมื่อดินจำนวนมหาศาลเคลื่อนตัวเข้าไปในโครงสร้างใต้ดินเหล่านี้ ถนนด้านบนจะยุบตัวตามลงมา เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่
ดังนั้น การออกแบบและการก่อสร้างโครงสร้างใต้ดินโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชั้นดินอ่อน ต้องทำให้ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม และมีส่วนความปลอดภัยที่มากพอ ความเสี่ยงจากหลุมยักษ์ที่เกิดขึ้นทำให้ดินรอบข้างไหลเข้ามาในหลุม ทำให้โครงสร้างข้างเคียงทรุด แตกร้าวได้ อีกทั้ง มีปัจจัยเรื่องน้ำฝนที่ทำให้ดินเหลวและเคลื่อนตัวได้ง่ายขึ้นอีก
ชง4แผนทบทวนระบบสร้างโครงสร้างใต้ดิน
ศ.ดร.อมรกล่าวต่อว่า หลังเหตุการณ์นี้ ต้องทบทวนระบบก่อสร้างโครงสร้างใต้ดินในชั้นดินอ่อนใหม่ทั้งหมด โดยมีข้อเสนอดังนี้ 1. หาสาเหตุถนนยุบให้ได้โดยเร็ว รายงานการสอบสวนสาเหตุต้องเปิดเผยสู่สาธารณะ 2. จัดการปัญหาเหตุการณ์นี้โดยด่วน ป้องกันดินเคลื่อนตัวเพิ่มเติม 3. ตรวจซ้ำในโครงการอื่นที่มีการก่อสร้างลักษณะใกล้เคียงกัน ทั้งที่กำลังก่อสร้าง และที่จะก่อสร้างในอนาคต อาจต้องเพิ่มสัดส่วนความปลอดภัยทางวิศวกรรมให้สูงขึ้นกว่าที่ใช้ในปัจจุบัน 4. ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางวิศวกรรมสำหรับการก่อสร้างโครงสร้างใต้ดินในชั้นดินอ่อน จัดให้มีระบบหรืออุปกรณ์ตรวจวัดการเคลื่อนที่ของดินแบบต่อเนื่องและเรียลไทม์ และมีระบบแจ้งเตือนการทรุดตัวล่วงหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี