จ.กาญจนบุรี เปิดปฏิบัติการจับกุมกลุ่มบุคคลลักลอบ ‘ขุดเจาะดินร่อนแร่ทองคำ’ ในพื้นที่ป่าลุ่มน้ำชั้น 1A เขต อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ หลังกล้องวงจรปิดจับความเคลื่อนไหวได้ เจ้าหน้าที่ซุ่มโป่งนานกว่า 10 ชั่วโมง รวบตัวชาวกะเหรี่ยงไร้สถานะทางทะเบียนได้ 3 ราย พร้อมดินและหินที่มีแร่ทองคำหนักกว่า 25 กิโลกรัม
วันที่ 27 กันยายน 2568 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับรายงานความคืบหน้าการจับกุมขบวนการลักลอบทำลายป่า หลังคณะพนักงานเจ้าหน้าที่นำโดย นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ได้รับแจ้งเตือนจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บริเวณแปลงตรวจยึด 13-3-68 ไร่ ท้องที่บ้านปิล๊อกคี่ อ.ทองผาภูมิ ซึ่งเป็นผืนป่าลุ่มน้ำชั้น 1A
สัญญาณแจ้งเตือนจากกล้องวงจรปิด ตั้งแต่วันที่ 21-24 ก.ย. 68 พบกลุ่มบุคคลไม่ทราบจำนวนเดินเท้าเข้าไปในพื้นที่แผ้วถางขุดเจาะดินเพื่อ ร่อนหาแร่ทองคำ เจ้าหน้าที่จึงวางแผนนำกำลังออกเดินทางและไป ซุ่มโป่งดักรอ บริเวณชายป่าริมทางเดิน ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวที่กลุ่มผู้ต้องหาจะใช้ลงจากภูเขา โดยเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่เวลา 20.00 น. ของวันที่ 25 ก.ย. 68
จนกระทั่งเวลา 03.30 น. ของวันที่ 26 ก.ย. 68 เจ้าหน้าที่พบแสงไฟฉายคาดหัว และสามารถจับกุมผู้ต้องหารายแรกได้คือ นายชัยเล็ก ธนูทอง อายุ 30 ปี เชื้อชาติกะเหรี่ยง ไม่มีสถานะทางทะเบียน (บัตรขึ้นต้นด้วยเลข 0) นายชัยเล็กให้การว่ามากับเพื่อนอีก 2 คน ซึ่งจะตามมาภายหลัง
เจ้าหน้าที่ยังคงซุ่มโป่งต่อจนถึงเวลา 06.00 น. และสามารถจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งได้อีก 2 ราย คือ นายจอมือวา อายุ 24 ปี และ นายจอเลทู อายุ 17 ปี ทั้งสองเป็นชาวกะเหรี่ยง ไม่มีสถานะทางทะเบียนเช่นกัน
หลังฟ้าสว่าง เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย มาสอบปากคำที่ที่ทำการอุทยานฯ พร้อมรวบรวมของกลางรวม 17 รายการ ได้แก่ ดินและหินที่มีแร่ทองคำ น้ำหนักรวม 25.7 กิโลกรัม (ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่าจะนำไปขายให้กับร้านค้าในหมู่บ้าน), โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง, และอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำผิดอื่นๆ
ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ถูกแจ้งดำเนินคดีรวม 5 ข้อหาหลัก ได้แก่ การทำลายป่า, การบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ, การบุกรุกเขตอุทยานแห่งชาติ, การเก็บหาแร่หรือทรัพยากรอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต, และการดำเนินกิจการเพื่อหาผลประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยที่ผ่านมา ในพื้นที่นี้ศาลได้มีคำพิพากษาจำคุกผู้กระทำผิดไปแล้วหลายราย และสำหรับผู้กระทำผิดที่เป็นชาวต่างด้าวที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน (บัตรขึ้นต้นด้วยเลข 0) หากศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด จะต้องถูกเพิกถอนสถานะ และถูกเนรเทศออกจากราชอาณาจักรไทยหลังพ้นโทษต่อไป ///-026
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี