บุรีรัมย์ แม่และย่า ร้องไห้แทบขาดใจ น้องเก๋ หายตัวปริศนา 12 ปี เหลือแค่โครงกระดูกกลับบ้าน เชื่อถูกฆาตกรรม
วันที่ 27 กันยายน 2568 บรรยากาศที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านโพธิ์ชัย ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ที่กำลังจัดงานศพให้กับ น.ส.ภาวิณี หรือ น้องเก๋ อายุ 23 ปี หญิงสาวอนาคตไกลที่หายตัวไปอย่างเป็นปริศนานาน 12 ปี ต่างเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและเสียงร้องไห้ของคนในครอบครัว เพราะยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ซึ่งในโลงศพที่ทางครอบครัวประกอบพิธีทางศาสนาตามประเพณีนั้น ไม่ใช่ร่างที่ไร้วิญญาณ แต่เหลือเพียงแค่ชิ้นส่วนโครงกระดูกเท่านั้น เพราะ น.ส.ภาวิณี หรือน้องเก๋ หายตัวไปจากที่พักช่วงที่ไปทำงานโรงงานแห่งหนึ่ง ย่านแหลมฉบัง จ.ชลบุรี อย่างลึกลับ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2556 แล้วขาดการติดต่อจากครอบครัว กระทั่งมีชาวบ้านที่ไปจุดไฟเผาป่าหาหนู เจอโครงกระดูกมนุษย์นิรนาม บริเวณกลางทุ่งนาป่าปรือ ถนนขุมทอง – ลำต้อยติ่ง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เมื่อเดือนเมษายน 2557 จากนั้นมีการนำโครงกระดูกไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา ก่อนถูกไปฝังไว้ที่สุสานผู้เสียชีวิตนิรนามใน จ.ชลบุรี
กระทั่งล่าสุด พบว่าผลตรวจ ดีเอ็นเอ ของมารดามีความสัมพันธ์ทางสายเลือดแบบแม่ลูก กับโครงกระดูกหญิงนิรนามที่พบ ทางสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และมูลนิธิกระจกเงา จึงได้พาครอบครัวไปรับโครงกระดูก พร้อมทำพิธีเชิญดวงวิญญาณกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่ จ.บุรีรัมย์
นางเตียง อายุ 56 ปี พูดทั้งน้ำตาว่า สงสารลูกสาวมากเห็นรูปถ่ายตอนไหนก็อดร้องไห้ไม่ได้ ยังทำใจไม่ได้ที่สูญเสียลูกสาว แต่ก็ขอบคุณมูลนิธิกระจกเงาที่ช่วยติดตามหาลูกสาวมาตลอด อย่างน้อยก็ยังได้กระดูกของลูกกลับมาทำบุญ แต่หัวอกคนเป็นแม่หากเป็นไปได้อยากให้ลูกกลับมาแบบยังมีชีวิต 12 ปี ที่ลูกหายตัวไปอย่างปริศนามันทรมานจิตใจคนเป็นพ่อแม่จนอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ ที่ผ่านมาทั้งพ่อและแม่ ก็ทั้งตามหา สวดมนต์ภาวนาและพึ่งไสยศาสตร์ทุกอย่างที่ทำได้ อยากให้ลูกกลับบ้านแบบมีชีวิต แต่ก็ต้องสิ้นหวังเพราะลูกจากไปแล้ว สิ่งที่ทำได้ก็คือทวงความยุติธรรมให้กับลูกสาว เพราะเชื่อว่าลูกถูกฆาตกรรม แล้วนำศพไปทิ้งอำพรางแน่นอน ก็ขอให้ดวงวิญญาณของลูกสาวช่วยดลจิตดลใจให้เจ้าหน้าที่จับกุมตัวคนที่ทำให้ลูกต้องเสียชีวิตมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย คนที่ฆ่าได้กระทั้งผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ต้องจิตใจโหดเหี้ยมมาก และที่น่าเวทนาคือเอาศพไปทิ้ง
ด้านนางสม อายุ 79 ปี ย่าของน้องเก๋ ก็พูดทั้งน้ำตาว่า ตอนที่หลานจะไปทำงานยังมากราบย่าบอกว่าจะไปทำงาน ย่าก็ให้พรหลานและให้เงินติดตัวเป็นขวัญถึงไปด้วย 100 บาท เสียใจมากที่หลานสาวต้องกลับมาในสภาพนี้ แต่ก็ขอบคุณทุกคนที่ช่วยตามหา อยากให้คนที่ทำกับหลาน ได้รับโทษตามกฎหมาย แต่หากจับตัวไม่ได้ก็ขอให้ได้รับผลกรรม หรือตายตกตามกันไปเช่นเดียวกับที่ทำกับหลาน
สำหรับเรื่องราวของ น.ส.ภาวิณี หรือ น้องเก๋ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2556 หลังจากเรียนจบที่มหาวิทยาลัยราชราชภัฎบุรีรัมย์ ก็เดินทางไปทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งย่านแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่ออยากทำงานหาเงินแบ่งเบาภาระครอบครัว กระทั่งช่วงเดือนมิถุนายน 2566 ได้ขาดการติดต่อกับครอบครัว แล้วหายตัวไปอย่างปริศนา ไม่รู้ว่าไปกับใครหรือหายไปไหน พ่อแม่ได้ขอให้มูลนิธิกระจกเงาช่วยตามหาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งพบโครงกระดูกเมื่อปี 2557 ห่างจากจุดที่น้องพักเกือบ 100 กม. และล่าสุดผลตรวจ ดีเอ็นเอ พบว่าตรงกัน แต่ปริศนาที่ยังคาใจของครอบครัวน้องไปกับใคร แล้วใครทำให้น้องต้องตาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี