ระทึก!พายุบัวลอย
4เขื่อนยักษ์เร่งระบายน้ำ
รับมือท่วม‘เหนือ-อีสาน’
อุตุฯเตือนพายุบัวลอย กำลังฟาดหางที่เวียดนามคาดกระทบถึงไทย ครอบคลุมเหนือ-อีสาน-ตะวันออก 39 จังหวัด มีลุ้นน้ำท่วมฉับพลันดินโคลนถล่ม ปภ.ส่งเครื่องจักรกลหนักไปรอล่วงหน้าพร้อมช่วยเหลือ ขณะที่ 4 เขื่อนยักษ์เร่งปล่อยน้ำ
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศแจ้งเตือนว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 27 กันยายน 2568 พายุโซนร้อนกำลังแรง “บัวลอย” (BUALOI) บริเวณทะเลจีนใต้
มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 14.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 114.9 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะมีกำลังแรงขึ้นอีก และจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 29 กันยายน 2568 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ
จากอิทธิพลของพายุ “บัวลอย” ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 28–30 ก.ย. 68 ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่างภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามแนวขอบของพายุ รวมถึงด้านรับมรสุมในภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยยังคงมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 28–30 ก.ย. 68
ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือโทร 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนการพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ จันทบุรี และตราด ส่วนภาคเหนือ และภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง
นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า ได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินสถานการณ์น้ำในห้วงที่ประเทศไทยจะได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อนกำลังแรง “บัวลอย”
ที่ประชุมมีมติปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำจากเขื่อนขนาดใหญ่ที่เคยลดลงก่อนหน้านี้ ให้กลับสู่อัตราที่เหมาะสม เพื่อเตรียมพื้นที่รับน้ำจากพายุลูกใหม่ “บัวลอย” ซึ่งคาดว่า จะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักช่วงปลายเดือนกันยายน โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
ในลุ่มเจ้าพระยาใหญ่ได้พิจารณาปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ จากเดิมวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เป็น 15 ล้าน ลบ.ม. เช่นเดียวกับเขื่อนภูมิพลที่ปรับเพิ่มจากวันละ 10 ล้าน ลบ.ม. เป็น 15 ล้าน ลบ.ม. เพื่อรักษาความมั่นคงของเขื่อนและเตรียมพื้นที่ว่างรับน้ำฝน
ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่มีแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้นใกล้เต็มอ่างในต้นเดือนตุลาคม ยังคงระบายน้ำที่ 51.87 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน ขณะเดียวกันยังติดตามสถานการณ์น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด โดยปรับลดการระบายจาก 2,200 ลบ.ม./วินาที เหลือ 2,100 ลบ.ม./วินาทีและเพิ่มการระบายไปทางฝั่งตะวันตก–ตะวันออก เพื่อลดระดับน้ำพื้นที่เหนือเขื่อนใน จ.ชัยนาทและอุทัยธานี รวมถึงช่วยเหลือพื้นที่ท้ายเขื่อนใน จ.พระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง
สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือเขื่อนอุบลรัตน์มีการทยอยระบายน้ำแบบขั้นบันไดอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้เพิ่มการระบายถึง 35 ล้าน ลบ.ม. ต่อวันและจะคงอัตรานี้ต่อไปสักระยะ โดยคณะกรรมการลุ่มน้ำชีได้เตรียมแผนลดผลกระทบด้านท้ายน้ำในพื้นที่ จ.ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และยโสธรไว้ล่วงหน้าแล้ว
ข้อห่วงใยสำคัญคือ พื้นที่ที่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาโดยเฉพาะในภาคเหนือซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ห่วงภาวะน้ำหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่ม พร้อมเน้นย้ำเรื่องการแจ้งเตือนภัย สทนช. ได้ประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อสนับสนุนข้อมูล เครื่องมือ และแนวทางปฏิบัติเพิ่มประสิทธิภาพการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงใน จ.เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน แพร่ และน่าน หากได้รับการแจ้งเตือนจากหน่วยงานราชการให้อพยพ ขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี