ตม.กาญจน์ ฝ่ายปกครองไทรโยค สนธิกำลังวางแผน "ปิดหัวปิดท้าย" สกัดจับรถยนต์ 4 คัน ขนแรงงานเมียนมา 90 คน รวบคนขับ 2 ราย อีก 2 หนีรอด ตะลึง! แก๊งค้ามนุษย์ดัดแปลงรถตู้ทึบเป็นรถบริษัทขนส่งชื่อดัง ส่วนรถกระบะซุกแรงงานไว้ใต้กองกล้วยพรางตา พบเป้าหมายหลักคือการส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซีย แรงงานถูกเรียกเก็บค่าเดินทางสูงถึง 30,000-60,000 บาทต่อหัว

เมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ (30 ก.ย. 68) ภายใต้การสั่งการของ นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และการประสานงานของ พ.ต.อ.กรณ์ สมคะเณย์ ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี และ นายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค ได้มีการสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตม.กาญจนบุรี, กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี, สภ.ไทรโยค, หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์, ตชด.136 และฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค เพื่อสกัดจับขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา หลังได้รับรายงานจากสายข่าวว่าจะมีรถยนต์ 4 คันใช้เป็นพาหนะ

ชุดปฏิบัติการได้แบ่งกำลังเป็น 3 ชุด โดยชุดหนึ่งประจำจุดตรวจถาวรไทรโยค และอีก 2 ชุดดักซุ่มบริเวณเส้นทางลำลองเลี่ยงด่านตรวจ ตม.บ้านพุองกะ กระทั่งเวลาเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบรถต้องสงสัย 4 คันขับมาตามเส้นทางหลัก ก่อนจะเลี้ยวเข้าสู่เส้นทางลำลองที่เตรียมไว้หลบด่าน เจ้าหน้าที่ชุดดักซุ่มจึงแสดงตัวและพยายามปิดหัวปิดท้ายสกัดจับ

คนขับรถพยายามเร่งเครื่องหลบหนีไปตามเส้นทางลำลอง เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามไปจนถึงพื้นที่บ้านเขาโทน ต.ท่าเสา จึงสามารถสกัดรถไว้ได้ แต่คนขับรถตู้และรถกระบะตู้ทึบคันสีส้ม พร้อมแรงงานบางส่วนประมาณ 12 คน ได้อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีเข้าป่าไปได้ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวรถยนต์ได้ทั้ง 4 คัน พร้อมแรงงานเมียนมา 90 คน และคนขับชาวไทยได้ 2 ราย คือ นายวัชรพงษ์ อายุ 27 ปี และ นายต้นรัก ชาวพม่า ไม่มีสถานะทางทะเบียน

จากการตรวจสอบรถยนต์ของกลางพบความผิดปกติและกลวิธีที่ใช้ตบตาเจ้าหน้าที่ รถกระบะคอกสีน้ำเงิน บรรทุกแรงงาน 20 คน ถูกจับตัวได้พร้อมนายวัชรพงษ์ โดยแรงงานทั้งหมดถูกซุกซ่อนอยู่ใต้ ท่อนเหล็กและกองกล้วย ที่นำมาวางทับเพื่ออำพราง, รถกระบะสีเทา บรรทุกแรงงาน 11 คน ถูกจับตัวได้พร้อม นายต้นรัก, รถตู้สีขาว บรรทุกแรงงาน 38 คน คนขับหลบหนี, รถกระบะตู้ทึบสีส้ม บรรทุกแรงงาน 20 คน คนขับหลบหนี พบว่ามีการสวมทะเบียนปลอม และจากการสังเกตเบื้องต้น คาดว่ามีการดัดแปลงและทำสีรถให้ คล้ายกับรถของบริษัทขนส่งชื่อดัง โดยมีการเปิดช่องระบายอากาศและทำช่องลับเก็บสัมภาระเพื่อใช้งานขนคนโดยเฉพาะ

นายวัชรพงษ์ ให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจาก นาย ต. (นามสมมติ) ให้นำรถกระบะบรรทุกกล้วยที่ซุกซ่อนแรงงานไปส่ง โดยนาย ต. จะเป็นผู้สั่งการทางโทรศัพท์ให้เลี้ยวเข้าเส้นทางลำลองเพื่อหลบด่าน แต่มาถูกจับเสียก่อน ส่วนนายต้นรักให้การวกวน แต่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือและพบหลักฐานการติดต่อกับช่างเพื่อดัดแปลงรถยนต์เก็บไว้แล้ว

จากการสอบปากคำแรงงานทั้ง 90 คนผ่านล่ามแปลทราบว่า แรงงานทั้งหมดเดินทางมาจากหลายเมืองในเมียนมา ลักลอบเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติทาง อ.สังขละบุรี จากนั้นลงเรือล่องมาตามอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ก่อนจะมาขึ้นรถยนต์ 4 คันที่รอรับอยู่

แรงงานส่วนหนึ่งต้องการเดินทางไปทำงานที่ จ.ชลบุรี แต่ส่วนใหญ่มีเป้าหมายหลักคือการ ข้ามชายแดนภาคใต้ต่อไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่สาม โดยทุกคนต้องจ่ายค่าดำเนินการให้กับนายหน้าสูงถึง 30,000-60,000 บาท ต่อคน ขึ้นอยู่กับระยะทาง

เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีกับคนขับรถทั้งสองในข้อหา ช่วยเหลือซ่อนเร้นบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ส่วนแรงงานเมียนมาทั้ง 90 คน ถูกดำเนินคดีในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต สำหรับคนขับรถอีก 2 รายที่หลบหนี เจ้าหน้าที่ทราบตัวแล้วและอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับมาดำเนินคดีต่อไปฃ