รอบรั้วเมืองใต้ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับนี้ ผู้เขียนขอเข้าร่ายข่าวสังคม ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม ตามวิสัยคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไร ก็เขียนไปอย่างนั้น....การเมืองเรื่องของทุกคน เพราะถ้าการเมืองไร้เสถียรภาพ คนไทยทุกคนต้องร่วมในการแบกรับ กับผลกรรม ที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับประชาชน ทั้งประเทศ ได้ร่วมกันแบกรับความทุกข์ระทม มาแล้ว 1 ปี จากการบริหารประเทศที่ล้มเหลว ของพรรคเพื่อไทย ทั้งจากเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 1 และแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 2 .....และหลังจากวันที่ 24 กันยายน ซึ่งเป็นวันถวายสัตย์ปฏิญาณตน ของรัฐบาล ปีที่ 3 และคนที่ 3 คือ อนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็จะเดินเครื่อง ในการขับเคลื่อน นำครม. เสียงข้างน้อย ที่เป็นครม.อายุสั้น ซึ่งเข้ามาทำหน้าที่ ในการยุบสภาฯ ดังนั้น ตั้งแต่หลังวันที่ 24 กันยายน เป็นต้นไป ครม.ของภูมิใจไทย ต้องทำทันที ในทุกสารพัดปัญหา ที่รัฐบาลของแพทองธาร ชินวัตรได้ทิ้ง เอาไว้ ซึ่งคงต้องติดตามฟังการแถลงข่าว ของ อนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี ว่าจะ แก้ปัญหาทุกปัญหา ที่กองพะเนินเทินทึก อย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม ว่าจะปังหรือจะแป๊ก.....แต่นี่แน่ๆ คือนโยบายเรือธงของพรรคภูมิใจไทย คือการแจกเงินคนละครึ่งให้กับประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งถ้าทำได้แบบเร่งด่วน นโยบายนี้น่าจะถูกจริต กับความต้องการของประชาชน ที่ดีกว่า และทั่วถึงกว่าการแจกเงินคนละหมื่น ที่เป็นนโยบาย ของ พรรคเพื่อไทย ที่ สุดท้าย กลายเป็น นโยบายฝนตกไม่ทั่วฟ้า แทนที่จะได้ดอกไม้ กลายเป็นก้อนอิฐ.....แต่ ที่แน่ๆ หลังการแถลงนโยบาย เชื่อว่าจะมีการร้องเรียน ให้องค์กรอิสระ ทำการตรวจสอบ เพื่อเอาผิด ในเรื่องจริยธรรม และเรื่องอื่นๆ เป็นการใช้นิติสงคราม ในการเตะตัดขา ของพรรคภูมิใจไทย และบรรดาเสนาบดี ที่เป็นสายล่อฟ้า ใน ครม. เพราะในครม.ชุดนี้ มีเสนาบดี หลายคน ที่เป็นสายล่อฟ้า และมี เบื้องหน้าเบื้องหลัง ในการขุดคุ้ย ให้เป็นบาดแผล เพื่อดิสเครดิส ของภูมิใจไทย และของ อนุทิน ชาญวีรกุล จะผิด-ถูก เป็นเรื่องที่ต้องรอวินิจฉัย จาก องค์กรอิสระ แต่กว่าจะมีการวินิจฉัย จากองค์กรอิสระ ข่าวที่ออกมา จากสื่อ ที่วันนี้ทุกพรรค และทุกค่าย ต่างมีสื่อ ที่เป็นของตนเอง ที่ อยากจะบิดเบือนและป้ายสี ใครอย่างไรก็ทำได้อย่าง อิสระ ดังนั้นการฟ้องการร้องเรียน ทุกคดีผิด-ถูกไม่รู้ แต่ถูกถูกฟ้อง ต่างเสียหายไปแล้วจาก อิทธิพลของสื่อ ที่เป็นสื่อส่วนตัว ที่ยังไม่มีกฎหมาย ในการควบคุม..... เชื่อเถอะ ครม.4 เดือน ของอนุทิน ชาญวีรกุล เป็นครม. ที่ไม่สนุก และเต็มไปด้วยปัญหาอุปสรรค ทั้งจากภายใน และภายนอก โดยเฉพาะการตีรวน ในสภาผู้แทนจากพรรคเพื่อไทย และการตรวจสอบ อย่างเข้มข้น จากพรรคประชาชน ส่วน ครม. ชุดนี้จะอยู่ครบ 4 เดือนหรือไม่นั้น ต้องติดตามดูแบบวันต่อวัน เพราะจะมีเงื่อนไข และปัจจัย ที่คาดไม่ถึง เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา.....ร้องกันมาว่า เสาส่องไฟกลางเกาะ ตั้งแต่ เมืองสงขลา ไปถึง อ.สะเดา มีหลายจุดที่ไฟส่องถนนกลางเกาะ ดับสนิทหลายจุดๆละยาวเป็นกิโลๆ รวมถึงถนนสายบ้านโคกเนียน - เกาะโอน อ.สะเดา ก็ดับเกือบครึ่งปี ยังไม่มีเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงมาซ่อมให้ไฟส่องสว่างได้ นับเป็นเรื่องแปลก ที่ถนนหลวงหลายจุดไฟส่องถนนดับสนิท ไม่มีการดูแล ทำให้ชาวบ้านสงสัยว่า การที่ไฟสองถนนกลางเกาะ และไฟส่องถนน ตามถนนสายต่างๆที่ดับสนิท หลายๆจุด สิ้นเดือน ค่าไฟฟ้า จะคิดเต็มหรือ เปล่า หรือ คิดเฉพาะ ช่วงที่ไฟส่องถนนติดเท่านั้น เจ้าหน้าที่หน่วยไหนที่รับผิดชอบ ช่วยตรวจสอบดูหน่อยว่าการเบิกจ่ายค่าไฟ มีการเบิกบิลเต็มหรือเปล่า มีการหักค่าไฟส่องถนนที่ดับสนิทหรือไม่ ครับ...เห็นตำรวจทางหลวงใกล้ด่านชั่งน้ำหนัก บ้านทุ่งลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขยัน ตั้งจุดตรวจ ตรวจจับรถนักท่องเที่ยว และรถทั่วๆไป แต่ไม่จับรถรถสิบล้อ รถพ่วง ที่ขับวิ่งเลนขวา และรถบรรทุกไม้ยางที่ไม่มีไฟหน้าและไฟหลัง วิ่งในช่วงกลางคืน และน่าจะจับบรรดารถขนน้ำมันเถื่อน รถขนสินค้าหนีภาษี ให้มากๆหน่อย ก็เป็นการดีครับ...
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี