เสียงจาก‘ภูสิงห์’! ชาวบ้านลั่นพร้อมอพยพหากเกิดปะทะชายแดน หนุนรัฐบาลจัดให้จบ

6 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรับเงินเยียวยาจากเหตุการณ์สู้รบชายแดน บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พบว่า ประชาชนต่างพากันทยอยเดินทางมาตรวจสอบสิทธิ์ และกดรับเงินช่วยเหลือที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สาขาภูสิงห์ อย่างคึกคัก มีชาวบ้านจำนวนมากมาต่อคิวเพื่อเช็กยอดเงินและกดรับเงินเยียวยาจากภาครัฐ หลังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีคำสั่งอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงภัย จนเสียขวัญกำลังใจได้รับผลกระทบขาดรายได้เป็นจำนวนมาก

ขณะที่นายสุเมธ หงส์จันทร์ อายุ 49 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลห้วยตามอญ อำเภอภูสิงห์ กล่าวว่า วันนี้ได้รับเงินเยียวยา จำนวน 5,000 บาทเรียบร้อยแล้ว ในส่วนของที่ต้องอพยพเมื่อช่วงกรกฎาคมที่ผ่านมา แม้ในพื้นที่ติดแนวชายแดน ไม่มีการสู้รบกันในขณะนี้ แต่ชาวบ้านก็ยังคงมีความกังวลอยู่บ้าง และมีความหวาดระแวงอยู่ตลอด แต่ตนก็ต้องดำเนินชีวิตปกติและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ส่วนเงินเยียวยาที่ได้รับในวันนี้ ก็จะนำไปใช้จ่ายภายในครอบครัว เพราะช่วงอพยพนั้น ตนได้ไปอาศัยพักพิงอยู่ที่ศูนย์อพยพ อำเภอปรางค์กู่ และขณะนี้ก็ยังคงมีการเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ พร้อมทั้งเก็บสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น หากมีสถานการณ์หรือเกิดเหตุรุนแรงขึ้น ก็จะได้อพยพในทันที และรอว่าทางภาครัฐ หรือทางอำเภอภูสิงห์ จะแจ้งให้อพยพไปยังจุดใด

ด้านนายชาตรี วรรณวงศ์ ชาวบ้านในพื้นที่ ตำบลห้วยตึ๊กชู อำเภอภูสิงห์ กล่าวว่า ตนซึ่งมีความหวังรอรับเงินเยียวยาจากทางภาครัฐ แต่ในวันนี้มาตรวจสอบยอดเงินแล้ว ยังไม่เข้า ยังไม่ได้รับเงิน คาดว่าของตนเองนั้น น่าจะได้รับในวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งหากได้รับเงินเยียวยาแล้ว จะนำเงินไปใช้จ่ายภายในครัวเรือน ขณะนี้ตนและประชาชนชายแดน ยังมีความกังวล และอยากฝากถึงรัฐบาล ให้เร่งแก้ไขปัญหาชายแดน ให้คลี่คลายโดยเร็ว

“อยากให้มีการจัดการขั้นเด็ดขาด ซึ่งหากต้องอพยพอีก ตนและชาวบ้านชายแดนส่วนใหญ่ก็พร้อม แต่ก็อยากให้เป็นการอพยพแบบทีเดียวเบ็ดเสร็จ เพื่อจบปัญหา และไม่ต้องหวาดกลัวหรือหวาดผวาว่าอีกต่อไป ไม่ต้องอพยพไปๆ มาๆ อย่างเช่นทุกวันนี้ ชาวบ้านเครียดไม่เป็นอันทำมาหากิน เพราะยังมีการตรึงกำลังกันอยู่” นายชาตรี กล่าว

นายชาตรี กล่าวอีกว่า ประชาชนพร้อมอพยพ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ เงินเยียวยาที่จะได้รับ จำนวน 5,000 บาท ของการอพยพครั้งแรก ถือว่าเพียงพอสำหรับครอบครัวเล็ก แต่ถ้าครอบครัวใหญ่ มีจำนวนคนมาก การอพยพทำให้ขาดรายได้ หากต้องมีการอพยพอีกครั้ง อยากขอเป็นครั้งสุดท้ายให้สถานการณ์ปกติสุขโดยเร็ว

ด้านนายบัญชา จันทร์ณรงค์ นายอำเภอภูสิงห์ กล่าวว่า การรับเงินเยียวยาตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 โดยอำเภอภูสิงห์ ได้มีประชุมประชาคมในพื้นที่หมู่บ้าน ตำบลต่างๆ และการประชุมคณะกรรมการช่วยเหลือระดับอำเภอ 2 ครั้ง ตามหลักเกณฑ์ผู้ผ่านการประชาคมทั้งหมด 13,559 ราย ได้ดำเนินการส่งเอกสารไปยังจังหวัดเพื่อเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยระดับจังหวัด ได้มีการพิจารณาอนุมัติแล้ว นำส่งต่อข้อมูลไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดศรีสะเกษ และได้รับการชี้แจงเป็นภาพรวมกลับมาว่า เงินจะโอนเข้าบัญชี

สำหรับการโอนจ่ายเงินเยียวยา ดำเนินการระหว่างวันที่ 6 ตุลาคม และวันที่ 7 ตุลาคม 2568 โดยข้อมูลของประชาชนที่ผ่านการตรวจสอบ และผูกหมายเลข 13 หลักบัตรประชาชน กับพร้อมเพย์ธนาคารต่างๆ การประชุมข้อมูลต่างๆ ในส่วนหมู่บ้านและตำบล ผ่านจังหวัดวันที่เท่าไหร่

ในขั้นต้นนั้น ผู้ที่ผ่านการตรวจสอบจะเริ่มรับเงินเยียวยาเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2568 โดยสามารถตรวจสอบผ่านทางเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่น ที่ได้มีการส่งต่อผ่านทางกำนันผู้ใหญ่บ้าน เพื่อตรวจสอบสิทธิ์การได้รับเงินเยียวยาว่า ผ่านถึงขั้นตอนใดแล้ว จะมีการโอนเงินเข้าในวันที่เท่าไหร่ จะมีแจ้งเป็นรายละเอียดของผู้ผ่านระบบการตรวจสอบ