โจรใต้เหิมหนัก วางบึ้มตู้เอทีเอ็ม แบงก์อิสลามหน้าม.ฟาฏอนี จ.ปัตตานี พยายามงัดเอาเงินแต่ไม่สำเร็จ พบลงจากเขาก่อเหตุก่อนหลบหนี คาดเป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยก่อเหตุก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัว ด้าน รมว.กลาโหม เผยให้เวลาแม่ทัพภาค 4 คนใหม่ ทำงาน เล็งประสานเพื่อนบ้านติดตามคนร้ายปล้นทอง
เมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 7ตุลาคม พ.ต.อ.วฤทธิ์เจ๊ะโด ผกก.สภ.บ้านโสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยฟาฏอนี ต.เขาตูม อ.ยะรัง จึงประสานกำลังตำรวจ ทหาร และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบเหตุ โดยที่เกิดเหตุพบตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด เศษชิ้นส่วนระเบิดและชิ้นส่วนตู้เอทีเอ็มกระจายทั่วพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่ต้องกั้นบริเวณโดยรอบเพื่อความปลอดภัย และเตรียมเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งในช่วงเช้า
ต่อมาเวลา 09.00 น.เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเพื่อป้องกันการวางระเบิดซ้ำ พร้อมทั้งชุดพิสูจน์หลักฐาน ได้เก็บชิ้นส่วนระเบิด กล้องวงจรปิด และสอบถามพยานในพื้นที่ เบื้องต้นพบว่าระเบิดที่ใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม ตั้งเวลาไว้ แต่ไม่มีสะเก็ดระเบิด
จากการสอบสวนทราบว่า คนร้าย4 คน พร้อมอาวุธปืนสงคราม สวมชุดดำปกปิดใบหน้า ลงมาจากเนินเขาหลังมหาวิทยาลัยฟาฏอนี โดยทั้งหมดได้แบ่งหน้าที่กัน เข้าไปจับตัว รปภ.มหาวิทยาลัย 2 คน มัดมือไพล่หลัง และอีกส่วนได้ติดตั้งวัตถุระเบิดที่ตู้เอทีเอ็ม พร้อมกับทำหน้าที่คอยคุ้มกัน ก่อนจะจุดระเบิดขึ้นจากนั้นจึงพยายามงัดตู้เอทีเอ็มเพื่อหวังนำเงินสดออกไป แต่ไม่เป็นผล เนื่องจากกล่องเก็บเงินไม่ได้รับความเสียหาย ภายหลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีไปเส้นทางเดิม ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้คนร้ายได้ยึดอาวุธปืนลูกซอง 2 กระบอกของรปภ.ไปด้วย แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ด้านฝ่ายความมั่นคง เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามของผู้ก่อความไม่สงบเพื่อหวังนำเงินไปใช้สนับสนุนกลุ่มขบวนการ ในลักษณะคล้ายเหตุปล้นร้านทอง ภายในห้างบิ๊กซี ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และเหตุดังกล่าวยังมีความเชื่อมโยงกับเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลามฯ สาขาปูยุด อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา โดยน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการดูแลพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะตู้เอทีเอ็ม ร้านสะดวกซื้อ และสถานที่ราชการใน อ.ยะรัง และพื้นที่รอยต่อ จ.ปัตตานี-ยะลา พร้อมเร่งติดตามคนร้าย โดยตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดเพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ขณะที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการก่อเหตุปล้นร้านทองกลางห้างบิ๊กซี ที่สุไหงโก-ลก โดยคนร้ายได้ทองคำน้ำหนัก 600 บาท อาจมีคนในรู้เห็นว่าจากที่ได้รับรายงานยังไม่ถึงขนาดนั้นแต่ต้องดูกันต่อไป ซึ่งจากที่รับรายงานเข้ามาเป็นการก่อเหตุของกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็น ซึ่งเข้ามาปฏิบัติการและหนีกลับไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อถามว่า คนร้ายก่อเหตุเป็นช่วงรอยต่อที่มีการเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 4 และทีมทำงานหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เขาอาจจะอาศัยจังหวะดังกล่าวแต่ก็ต้องให้เวลาแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ ซึ่งท่านเพิ่งรับหน้าที่ได้ 7 วัน และทราบว่าพล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ.จะลงพื้นที่ จากนั้นตนก็จะลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ด้วยต่อข้อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องการแต่งตั้งแม่ทัพภาคที่ 4 มาจากคนนอกพื้นที่ จึงทำให้เกิดเกียร์ว่างใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า คงไม่ใช่อย่างนั้น เพราะทหารทุกคนมีความรับผิดชอบอยู่แล้ว และการปล้นทองไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกที่ผ่านมาก็เคยเกิดเหตุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุที่เกิดขึ้นมีการทำเป็นระบบเหมือนมีคนในคอยให้ข้อมูล ทั้งพิกัดร้านทอง เส้นทางหลบหนี พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า คงต้องดูในรายละเอียดกันต่อไป ต้องฟังข้อมูลจากแม่ทัพภาคที่ 4
เมื่อถามว่า ได้รับรายงานแล้วหรือไม่ว่าทองที่คนร้ายปล้นไปถูกขนไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ได้รับรายงานเช่นนั้นว่าขนหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนการติดตามจับกลุ่มผู้ก่อเหตุและนำทองกลับมานั้นต้องประสานประเทศเพื่อนบ้านจึงอยากให้รอการดำเนินการของเจ้าหน้าที่
พล.อ.ณัฐพล กล่าวถึงที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่แต่งตั้งให้ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา อดีตเลขา สมช.นั่งเป็นประธานในการเจรจาสันติสุขชายแดนใต้ ได้พูดคุยกันเบื้องต้น เนื่องจากรัฐบาลมีเวลาสั้นเพียง 4 เดือน จึงอยากให้คณะพูดคุยได้จัดลำดับความเร่งด่วน งานไหนควรจะต้องทำให้สำเร็จภายใน 4 เดือน พร้อมทั้งให้กำลังใจว่าไม่ต้องทำในทุกเรื่องให้เสร็จเรียบร้อย เพียงแต่ใน 4 เดือน ต้องมีอะไรที่เห็นผลเป็นรูปธรรมบ้าง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี