‘สถาบันโรคผิวหนัง’เร่งสนับสนุนเวชภัณฑ์ช่วยผู้ประสบอุทกภัย แนะวิธีป้องกันโรคผิวหนัง

‘สถาบันโรคผิวหนัง’เร่งสนับสนุนเวชภัณฑ์ช่วยผู้ประสบอุทกภัย แนะวิธีป้องกันโรคผิวหนัง

วันพุธ ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 21.32 น.

‘สถาบันโรคผิวหนัง’เร่งสนับสนุนเวชภัณฑ์ช่วยผู้ประสบอุทกภัย แนะวิธีป้องกันโรคผิวหนัง

8 ตุลาคม 2568 นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยนายพัฒนา  พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดติดตามสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลของพายุ “บัวลอย” ที่ส่งผลกระทบในหลายจังหวัด สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนและสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินเป็นวงกว้าง พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งให้ความช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูโดยเร็ว รวมทั้งสนับสนุนเวชภัณฑ์ยารักษาโรคผิวหนังเพื่อดูแลผู้ประสบภัย พร้อมกำชับให้ทุกพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จัดทีมแพทย์และโรงพยาบาลสนามลงพื้นที่ดูแลประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง พร้อมเตรียมแผนเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ระบบส่งต่อ ยาและเวชภัณฑ์ให้พร้อมรองรับ รวมทั้งวางแผนฟื้นฟูหลังน้ำลดอย่างเป็นระบบ


กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง ได้เร่งจัดส่งเวชภัณฑ์ยารักษาโรคผิวหนังสำหรับผู้ประสบอุทกภัยแล้วกว่า 30,000 ชุด ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยส่งมอบให้กับสำนักการแพทย์ในเขตสุขภาพของกรมการแพทย์, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด, โรงพยาบาล และหน่วยงานสาธารณภัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็วและทั่วถึง  ซึ่งโรคผิวหนังมักจะเป็นหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยในผู้ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะ โรคน้ำกัดเท้า ซึ่งเกิดได้ตั้งแต่ระยะแรกของการแช่น้ำเพียง 1–3 วัน ผิวหนังจะเปื่อย แดง คัน แสบ หรือระคายเคือง หากแช่น้ำนานขึ้น 3–10 วัน อาจติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา ทำให้มีอาการบวม แดง เจ็บ หรือมีหนอง และหากสัมผัสน้ำต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 10 วัน อาจเกิดเชื้อรารุนแรง ผิวหนังลอกเป็นขุย มีกลิ่นเหม็นและคันมาก จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง

นายแพทย์วีรวัต   อุครานันท์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้คำแนะนำเพิ่มเติม สถาบันฯ ได้จัดทำคำแนะนำเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนถึงแนวทางการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยน้ำกัดเท้าในช่วงอุทกภัยในการป้องกันโรคผิวหนังที่มากับน้ำท่วมคือ

1) หลีกเลี่ยงการแช่เท้าในน้ำนานๆ   ถ้าเลี่ยงไม่ได้จำเป็นต้องสัมผัสน้ำให้ใส่รองเท้าบูท

2) เมื่อขึ้นจากน้ำให้ล้างเท้าด้วยสบู่และน้ำสะอาด

3) เช็ดเท้าให้แห้งอยู่เสมอ

4) ควรทาครีมบำรุงผิว

5) ถ้ามีผื่นแดงเล็กน้อย คัน  ควรทายากลุ่มสเตียรอยด์ 

6) หากมีผื่นและมีรอยเปื่อยฉีกขาดของผิว  หรือมีอาการบวมแดง ปวดเจ็บ หรือมีหนองซึ่งเป็นอาการติดเชื้อแบคทีเรียที่รุนแรงขึ้นควรรีบพบแพทย์ 

นอกจากนี้ยังมีข้อควรระวัง ในกรณีที่เท้าแช่น้ำนานหลายสัปดาห์ต่อเนื่องหรือนิ้วเท้าเกย หรือชิดกันมากทำให้อาจติดเชื้อราที่ง่ามนิ้วเท้าเกิดเป็นผื่นขุยเปียกขาวได้  ควรใช้ยาทารักษา เชื้อรา  ถ้ามีบาดแผลควรทำแผลและทายาฆ่าเชื้อโรค  เช่น   เบตาดีน เป็นต้น และควรระวังการตัดเล็บเท้าเพราะอาจเกิดบาดแผลซึ่งจะเป็นทางเข้าของเชื้อโรคได้ การทำความสะอาดเท้า ง่ามเท้าทุกครั้งหลังลุยน้ำด้วยสบู่และน้ำสะอาด และเช็ดให้แห้งจะช่วยป้องกันการเกิดโรคผิวหนังดังกล่าวได้ และสถาบันโรคผิวหนังพร้อมให้การสนับสนุนทั้งด้านเวชภัณฑ์และความรู้ เพื่อให้ประชาชนปลอดภัยและมีสุขภาพผิวที่ดี

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top