สถานการณ์ชายแดนกาญจนบุรีกลับมาระอุอีกครั้ง! หลังทหารเมียนมา (ทมม.) ส่งเครื่องบินรบ K-8 ทิ้งระเบิดทำลายชุมชนบ้านทิกิ ฝั่งตรงข้ามด่านพุน้ำร้อน อีก 9 ลูก ในช่วงเช้าวันนี้ แม้สถานการณ์จะสงบไปเมื่อวานนี้ (9 ต.ค.) แต่ความรุนแรงที่เกิดขึ้นซ้ำ ทำให้ชาวเมียนมา กะเหรี่ยง และมอญ กว่า 300-400 คน ยังคงปักหลักหลบภัยอยู่ตามแนวชายแดน โดยหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ เฝ้าจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

วันนี้ (10 ต.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ตรงข้ามด่านชายแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังเกิดเหตุรุนแรงเมื่อวันที่ 8 ต.ค.68 ที่รัฐบาลทหารเมียนมา (ทมม.) ได้ส่งเครื่องบิน Y-12 และ K-8 ทิ้งระเบิดใส่บ้านเรือนประชาชนที่ชุมชนบ้านทิกิ อ.เมตตา จ.ทวาย ภาคตะนาวศรี ซึ่งห่างจากชายแดนไทยเพียง 1−2 กิโลเมตร โดยตลอดวันที่ 9 ต.ค. สถานการณ์สงบลง

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อเวลา 08.15 น.วันนี้ (10 ต.ค.68) ทหารเมียนมาได้ส่งเครื่องบิน K-8 จำนวน 1 ลำ บินวนมาทิ้งระเบิดซ้ำลงในพื้นที่ชุมชนบ้านทิกิอีก 9 ลูกพร้อมยิงปืนกล โดยคาดว่าเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวและวางกำลังของกองกำลัง KNLA พล.น.4 ในขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือความสูญเสียอย่างเป็นทางการ

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ชาวบ้านในชุมชนบ้านทิกิ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวพม่า กะเหรี่ยง และมอญ ประมาณ 300-400 คนต้องอพยพออกจากบ้านพักมาปักหลักหลบภัยอยู่ตามแนวชายแดนฝั่งเมียนมาติดกับฝั่งไทยตามเดิม

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย ได้แก่ เจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์, เจ้าหน้าที่ทหารพราน, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าพื้นที่เฝ้าจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมความพร้อมรับมือหากสถานการณ์บานปลาย