แกะรอยสาวปริศนา!วงจรปิดจับภาพหญิงต้องสงสัยเดินออกจากตึกก่อนพบทารกเพศชายถูกทิ้งในหอพักพัทยา

จากกรณีเหตุการณ์สะเทือนใจที่มีการพบเด็กทารกแรกเกิด เพศชายอายุเพียงไม่กี่ชั่วโมงถูกนำมาทิ้งไว้ที่หอพักของพนักงานโรงแรม ภายในซอยพัทยาใต้ 18 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเด็กอยู่ในสภาพแข็งแรงและส่งเสียงร้องไห้ดังลั่นนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด ทารกเพศชายรายนี้ปลอดภัยแล้วและอยู่ในการดูแลของแพทย์โรงพยาบาลเมืองพัทยาอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นทารกมีน้ำหนัก 2,500 กิโลกรัม คาดว่าคลอดตามกำหนดเวลาและมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี สันนิษฐานว่าน่าจะคลอดจากครรภ์มารดามาได้ประมาณ 5-6 ชั่วโมงก่อนถูกนำมาทิ้ง

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบริเวณหอพักดังกล่าวเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม และได้พูดคุยกับนางพิมพ์ (นามสมมติ) อายุ 50 ปี แม่ค้าขายอาหารตามสั่งบริเวณหน้าหอพัก โดยเล่าว่า หอพักแห่งนี้ส่วนใหญ่มี แรงงานชาวเมียนมาร์ พักอาศัยอยู่ และตนเองขายของอยู่ที่นี่มานานกว่า 10 ปี ยืนยันว่าในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ไม่เคยเห็นคนท้อง มาพักอาศัย เพราะคนที่พักจะลงมาซื้ออาหารจากตนทุกวัน

นางพิมพ์แสดงความตกใจและสลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเชื่อว่าเด็กทารกรายนี้น่าจะเป็นลูกของ บุคคลภายในหอพัก เพราะเป็นไปได้ยากที่คนนอกจะนำเด็กมาทิ้ง เนื่องจากจุดที่พบเด็กนั้นเป็น มุมมืด บริเวณชั้นลอย ซึ่งถ้าไม่ใช่คนในหอพักจะไม่มีทางรู้ว่าเป็นจุดที่ไม่มีคนนอนพักอาศัยและไม่มีใครขึ้นไป

ทีมข่าวได้รับภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้กับหอพัก ซึ่งบันทึกภาพไว้เมื่อเวลา 05.26 น. จะเห็น หญิงสาวรายหนึ่ง (ต้องสงสัย) เดินออกมาจากหอพักในท่าที รีบร้อน โดยในมือถือโทรศัพท์มือถือและ เปิดไฟฉาย จากโทรศัพท์มือถือไว้ตลอดเวลา ก่อนจะเดินหายไปทางถนนพัทยาใต้ และไม่มีการกลับเข้ามาที่หอพักอีกเลย

การที่หญิงรายนี้เปิดไฟฉายเดินออกจากหอพักนั้น สอดคล้อง กับการตรวจสอบจุดที่พบเด็กทารกครั้งแรก ซึ่งอยู่บริเวณชั้นลอยด้านขวาของหอพัก โดยบริเวณดังกล่าว มืดมาก และต้องใช้ไฟฉายในการส่องทางเดิน ประกอบกับชั้นดังกล่าวไม่มีคนพักอาศัยเลย ทำให้พฤติกรรมของหญิงสาวที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดมีความผิดปกติ

ด้านความคืบหน้าทางคดี ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและไล่กล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุอย่างละเอียด แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าทารกที่ถูกนำมาทิ้งเป็นฝีมือของคนในหอพัก หรือบุคคลภายนอก อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะมีข้อสรุปของคดีได้ในเร็ววันนี้