วันจันทร์ ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568
วันที่ 11 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายฑรัท เหลืองสอาด ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ได้รับการประสานจาก พ.ต.ท.โจ เสาร์ประโคน สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 6 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.) เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาญจนบุรี ช่วยสกัดจับรถบรรทุก 6 ล้อตู้ทึบ ขนาดใหญ่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา กำลังขับไปตามถนนสายสาย 323 มุ่งหน้าทางแยกวังสารภี เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย 324 (กาญจนบุรี-อู่ทอง)หลังจากได้รับแจ้งนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผวจ.กาญจนบุรี จึงรีบสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองนำกำลังไปช่วยสกัดจับ
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้ใช้รถยนต์ที่ไม่ใช่รถของทางราชการติดตามไป ทำให้คนขับรถบรรทุกไม่รู้ตัว จากนั้นรถบรรทุกได้เลี้ยวซ้ายเข้าไปบริเวณถนนทางเข้าวัดเขาเม็งอมรเมศร์ หมู่ 13 ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงและฝ่ายปกครองที่ติดตามไปเกรงว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวอาจจะเลี่ยงเส้นทางแล้วมุ่งหน้าไปขึ้นทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสาย M81 หรือถนนมอเตอร์เวย์สายกาญจนบุรี-บางใหญ่ จึงตัดสินใจใช้รถยนต์กระบะแซงขึ้นไปแล้วขวางด้านหน้าเอาไว้ และสามารถควบคุมตัวคนขับเอาไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือนายโอ๊ต ไม่มีนามสกุล ชาวกะเหรี่ยง (เป็นบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน)อาศัยอยู่หมู่ 8 บ้านซองกาเรีย ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ถึงกับผงะ เมื่อเปิดประตูท้ายออกมาพบกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้งชายหญิงทั้งยืนและนั่งแออัดอยู่เต็มรถนับรวมกันได้มากถึงจำนวน 108 คน เป็นชาย 70 คน หญิง 38 คน หลังจากคุมตัวเอาไว้ได้เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบปากคำที่อาคารหอประชุมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอเมืองกาญจนบุรี โดยนายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ไปสอบปากคำด้วยตัวเอง
โดยนายโอ๊ต ผู้ต้องหาที่เป็นคนขับรถบรรทุกให้การว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากนายเอ (นามสมมุติ)ให้ไปขับรถบรรทุกคันดังกล่าวที่จอดทิ้งเอาไว้ในพื้นที่ ต.ลิ่นถิ่น อ.ทองผาภูมิ โดยนายเอ ให้ตนขับรถไปจิดทิ้งเอาไว้ในพื้นที่ชายป่าท้องที่บ้านเขาเม็ง หมู่ 13 ต.ปากแพรก โดยได้ค่างจ้างเป็นเงินจำนวน 7,000 บาท ที่ผ่านมาตนเคยทำมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ระหว่างขับรถอยู่นั้นตนไม่ทราบเลยว่ามีเจ้าหน้าที่ติดตามมา สุดท้ายก็มาถูกจับกุมตัวได้ สำหรับแรงงานที่นั่งแออัดกันอยู่ภายในรถตนไม่ทราบว่ามีจำนวนเท่าไหร่เพราะตนมีหน้าที่เพียงขับรถตามคำสั่งของนายเอ ผู้ว่าจ้าง เท่านั้น
.jpg)
ขณะเดียวกันกลุ่มแรงงานให้การผ่านล่ามแปลว่า พวกตนหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยด้วยการเดินลัดเลาะไปตามชายป่าซึ่งเป็นช่องทางธรรมชาติด้านบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู เมื่อข้ามฝั่งเข้ามาได้มีคนนำพาเดินเท้าหลบด่านตรวจในช่วงกลางคืน จากนั้นไปลงเรือที่ท่าน้ำจุดหิน 3 ก้อน ล่องไปตามแม่น้ำซองกาเลียง เข้าสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ไปขึ้นฝั่งที่ท่าน้ำบ้านท่าแพ หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จากนั้นมีรถยนต์กระบะมารับทยอยไปส่งขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อคันดังกล่าวแล้วมีคนขับไปจอดทิ้งเอาไว้ที่ตำบลลิ่นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น.นายเอ ได้ขับรถยนต์ มาส่งนายโอ๊ต เพื่อให้ขับรถบรรทุก 6 ล้อนำพาพวกตนไปส่งที่จุดพักคอยพื้นที่บ้านเขาเม็ง ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี
โดยพวกตนจำนวนหนึ่งต้องการเดินทางไปทำงานในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม รวมถึงสมุทรสาคร และบางคนต้องการเดินทางไปยังภาคใต้เพื่อข้ามไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยต้องจ่ายค่าเดินทางให้กับนายหน้าคนละ 20,000-30,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง แต่ระหว่างเดินทางก็มาถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับตัวได้เสียก่อน
หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนรถบรรทุกพาหนะที่ใช้ในการกระทำผิดเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ครอบครอง ในภายหลัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี