ถึงกับผงะ!!! ตร.-ปกครองไล่สกัดจับ 6 ล้อใหญ่ตู้ทึบ เจอ 108 คนอัดแน่น ทั้งยืน-นั่งเหมือนปลากระป๋อง

ถึงกับผงะ!!! ตร.-ปกครองไล่สกัดจับ 6 ล้อใหญ่ตู้ทึบ เจอ 108 คนอัดแน่น ทั้งยืน-นั่งเหมือนปลากระป๋อง

วันเสาร์ ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 21.47 น.

 วันที่ 11 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา  ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี  นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายฑรัท  เหลืองสอาด ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ได้รับการประสานจาก พ.ต.ท.โจ เสาร์ประโคน สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 6 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.) เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาญจนบุรี ช่วยสกัดจับรถบรรทุก 6 ล้อตู้ทึบ ขนาดใหญ่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา กำลังขับไปตามถนนสายสาย 323 มุ่งหน้าทางแยกวังสารภี เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย 324 (กาญจนบุรี-อู่ทอง)หลังจากได้รับแจ้งนายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผวจ.กาญจนบุรี จึงรีบสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองนำกำลังไปช่วยสกัดจับ

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้ใช้รถยนต์ที่ไม่ใช่รถของทางราชการติดตามไป ทำให้คนขับรถบรรทุกไม่รู้ตัว จากนั้นรถบรรทุกได้เลี้ยวซ้ายเข้าไปบริเวณถนนทางเข้าวัดเขาเม็งอมรเมศร์ หมู่ 13 ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงและฝ่ายปกครองที่ติดตามไปเกรงว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวอาจจะเลี่ยงเส้นทางแล้วมุ่งหน้าไปขึ้นทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสาย M81 หรือถนนมอเตอร์เวย์สายกาญจนบุรี-บางใหญ่ จึงตัดสินใจใช้รถยนต์กระบะแซงขึ้นไปแล้วขวางด้านหน้าเอาไว้ และสามารถควบคุมตัวคนขับเอาไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือนายโอ๊ต ไม่มีนามสกุล ชาวกะเหรี่ยง (เป็นบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน)อาศัยอยู่หมู่ 8 บ้านซองกาเรีย ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ถึงกับผงะ เมื่อเปิดประตูท้ายออกมาพบกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้งชายหญิงทั้งยืนและนั่งแออัดอยู่เต็มรถนับรวมกันได้มากถึงจำนวน 108 คน เป็นชาย 70 คน หญิง 38 คน หลังจากคุมตัวเอาไว้ได้เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบปากคำที่อาคารหอประชุมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอเมืองกาญจนบุรี โดยนายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ไปสอบปากคำด้วยตัวเอง


โดยนายโอ๊ต ผู้ต้องหาที่เป็นคนขับรถบรรทุกให้การว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากนายเอ (นามสมมุติ)ให้ไปขับรถบรรทุกคันดังกล่าวที่จอดทิ้งเอาไว้ในพื้นที่ ต.ลิ่นถิ่น อ.ทองผาภูมิ โดยนายเอ ให้ตนขับรถไปจิดทิ้งเอาไว้ในพื้นที่ชายป่าท้องที่บ้านเขาเม็ง หมู่ 13 ต.ปากแพรก โดยได้ค่างจ้างเป็นเงินจำนวน 7,000 บาท ที่ผ่านมาตนเคยทำมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ระหว่างขับรถอยู่นั้นตนไม่ทราบเลยว่ามีเจ้าหน้าที่ติดตามมา สุดท้ายก็มาถูกจับกุมตัวได้ สำหรับแรงงานที่นั่งแออัดกันอยู่ภายในรถตนไม่ทราบว่ามีจำนวนเท่าไหร่เพราะตนมีหน้าที่เพียงขับรถตามคำสั่งของนายเอ ผู้ว่าจ้าง เท่านั้น

ขณะเดียวกันกลุ่มแรงงานให้การผ่านล่ามแปลว่า พวกตนหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยด้วยการเดินลัดเลาะไปตามชายป่าซึ่งเป็นช่องทางธรรมชาติด้านบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู เมื่อข้ามฝั่งเข้ามาได้มีคนนำพาเดินเท้าหลบด่านตรวจในช่วงกลางคืน จากนั้นไปลงเรือที่ท่าน้ำจุดหิน 3 ก้อน ล่องไปตามแม่น้ำซองกาเลียง เข้าสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ไปขึ้นฝั่งที่ท่าน้ำบ้านท่าแพ หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จากนั้นมีรถยนต์กระบะมารับทยอยไปส่งขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อคันดังกล่าวแล้วมีคนขับไปจอดทิ้งเอาไว้ที่ตำบลลิ่นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00 น.นายเอ ได้ขับรถยนต์ มาส่งนายโอ๊ต เพื่อให้ขับรถบรรทุก 6 ล้อนำพาพวกตนไปส่งที่จุดพักคอยพื้นที่บ้านเขาเม็ง ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี

โดยพวกตนจำนวนหนึ่งต้องการเดินทางไปทำงานในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม รวมถึงสมุทรสาคร และบางคนต้องการเดินทางไปยังภาคใต้เพื่อข้ามไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยต้องจ่ายค่าเดินทางให้กับนายหน้าคนละ 20,000-30,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง แต่ระหว่างเดินทางก็มาถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับตัวได้เสียก่อน

หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนรถบรรทุกพาหนะที่ใช้ในการกระทำผิดเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ครอบครอง ในภายหลัง

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top