กทม.แจง ถ.นวลจันทร์ไม่อยู่ในแผนนำสายไฟลงดิน 313.5 กม.ของ กฟน.

กทม.แจง ถ.นวลจันทร์ไม่อยู่ในแผนนำสายไฟลงดิน 313.5 กม.ของ กฟน.

วันศุกร์ ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

กทม.แจงแก้ปัญหาสายสื่อสาร ตามแผน กฟน. นำสายไฟลงดิน 313 กม. ถนนนวลจันทร์ไม่อยู่ในแผนเร่งประสาน กสทช.จัดระเบียบ

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวชี้แจง กระทู้ถามสดของนายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย เรื่อง การนำสายไฟฟ้าและสายสื่อสารลงดิน ถนนนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สี่ (ครั้งที่ 3) ประจำปี พ.ศ.2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกทม. 2 ดินแดง ว่า


“เรื่องการนำสายไฟฟ้าลงดินนั้น เป็นแผนงานของการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งเป็น master plan ใหญ่โดยตามที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ประกาศแผนมาก็จะนำลงทั้งหมด 313.5 กม. โดยจะดำเนินการไปเรื่อยๆจนถึงปี 70 และมีแผนต่อไปถึงปี 72 ขณะนี้ดำเนินการแล้วเสร็จ 62 กม.และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 251.5 กม.  แต่ถนนนวลจันทร์ ไม่ได้อยู่ในแผนของการนำสายไฟฟ้าลงดินของการไฟฟ้านครหลวง อย่างไรก็ตามการนำสายสื่อสารลงดินจะทำได้ก็ต่อเมื่อมีการนำสายไฟฟ้าลงดินคือต้องอยู่ในแผนการนำสายลงดินเหมือนกัน  ดังนั้น เนื่องจากบริเวณนี้ไม่ได้อยู่ในแผนของการไฟฟ้านครหลวง สิ่งที่ กทม.ทำคือได้แจ้งกับการไฟฟ้านครหลวง และ กสทช. ทำการจัดระเบียบสายสื่อสาร คือการจัดการสายที่อยู่บนเสาให้เป็นระเบียบ มีการวางสายใหม่ คือการนำสายเก่าออกไปทำให้จำนวนสายลดลงเท่าที่มีการใช้งานจริง  กทม.ก็ขอให้ถนนนวลจันทร์ อยู่ในแผนการจัดระเบียบสายสื่อสารในปี 69 “

ทั้งนึ้ นายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย สมาขิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตบึงกุ่ม  ได้ยื่นกระทู้ถามสดเรื่อง การนำสายไฟฟ้าและสายสื่อสารลงดิน ถนนนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม เนื่องจากบริเวณถนนนวลจันทร์ หลังจากที่มีการปรับปรุงทางเท้าแล้วเสร็จ มีประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ช่วงดังกล่าวสอบถามว่า เมื่อมีการปรับปรุงทางเท้าและวางท่อร้อยสายไฟใต้ดินเสร็จแล้ว เมื่อไหร่จะมีการนำสายไฟฟ้าลงดิน เช่นบริเวณหน้าวัดนวลจันทร์ มีสายไฟพาดผ่านทั้งบนสะพานลอยและใต้สะพานลอย ช่วงฝนตกหรือลมพัดแรง ประชาชนก็เกิดความกังวลเมื่อจะต้องเดินข้ามสะพานลอย รวมทั้งไม่กล้าใช้สะพานลอยเนื่องจากกลัวไฟรั่ว โดยเฉพาะช่วงเวลาฝนตก

สำหรับการแก้ปัญหาสายสื่อสาร เป็นปัญหามานานมีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง กทม.ในฐานะเจ้าของพื้นที่ได้ประสานดำเนินการแก้ไขมาต่อเนื่อง โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ถือเป็นนโยบายสำคัญ และเคยได้ชี้แจงในสภากรุงเทพมหานครแล้วว่า 80% ของสายสื่อสารในกรุงเทพฯ คือสายที่ไม่ได้ใช้แล้วแต่ปัญหาคือ กทม.เราไม่ทราบว่าสายไหนเป็นสายที่ไม่ได้ใช้แล้วจึงไม่สามารถจะไปตัดแบบสุ่มได้ เพราะอาจจะเกิดความเสียหายจึงต้องเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการโดยกำกับดูแลของ กสทช. หากประชาชนทราบว่าหน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ประชาชนช่วยกันเร่งรัดให้ถูกหน่วยงาน หากเราเร่งรัดไปถูกหน่วยงานก็จะมีความกระตือรือร้นช่วยกันแก้ปัญหา

ทั้งนี้ สายสื่อสารต้องได้รับใบอนุญาตจาก  กสทช. ก่อน จากนั้นผู้ประกอบการจะขออนุญาตพาดสายกับการไฟฟ้านครหลวง โดยไม่ได้รื้อถอนสายเก่าจึงทำให้เกิดปัญหาสายรกรุงรัง ซึ่งจากนี้ไปการพาดสายบนถนนทางหลวงท้องถิ่นที่ขึ้นทะเบียนแล้วต้องขออนุญาต กทม. ด้วยซึ่งเราได้ประสานกับการไฟฟ้านครหลวงสร้างแพลตฟอร์มให้ขอทีเดียวได้ทั้งสองทาง เงื่อนไขต่างๆ เราสามารถใส่เข้าไปในใบอนุญาตได้

-037-

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top