สืบภาค 2  สสจ. บุกทลายคลินิกตรวจโรคเถื่อนทำผิดซ้ำซาก รวบหมอ  ผู้ช่วยเก๋ คาหนังคาเขา ด้านเจ้าของโวยเหมือนถูกกลั่นแกล้ง คลินิกเถื่อนเกลื่อนพัทยา “ไม่ยอมจับ”

19 ตุลาคม 2568 ภายใต้คำสั่งของ พล.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ผบก.สส.ภ.2 มอบหมายให้ พ.ต.อ.เทียนชัย เลิศมณีทวีทรัพย์ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.2 นำกำลังตำรวจสืบสวน ภาค 2 พร้อมด้วย นายจิระสันต์ มีรัตน์ธนวัต หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี (สสจ.ชลบุรี) เข้าทำการตรวจสอบคลินิกเวชกรรมแห่งหนึ่ง ซอยชัยพฤกษ์ 2 ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับการร้องเรียนว่าเป็นคลินิกรักษาโรคทั่วไป โดยไม่มีหมอให้การรักษาโดยตรง

คลินิกดังกล่าวเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น 2 คูหา คูหาแรกเปิดเป็นเปิดคลีนิกเวชกรรม (รักษาโรคทั่วไป) คูหาที่ 2 เปิดเป็นร้านนวดเพื่อสุขภาพ โดยเจ้าหน้าที่ ได้มีการส่งสายลับเข้าไปติดต่อรักษา หลังมีการรักษาเสร็จสิ้นและรับยา จ่ายเงินเป็นที่เรียบร้อย สายลับก็มีการส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ จึงแสดงตัวบุกเข้าขอตรวจสอบทันที

ซึ่งจากการตรวจสอบ ในส่วนอาคารที่เปิดเป็นคลินิกเวชกรรม มีจัดสรรสถานที่อย่างชัดเจน โดยด้านหน้าเป็นเคาน์เตอร์ลงทะเบียนทำประวัติ และ จุดรับยา ด้านในมีห้องตรวจโรค 2 ห้อง และด้านในสุดเป็นห้องพยาบาลพักฟื้น 1 ห้อง มีเตียงพยาบาล 2 เตียง ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ พบว่ามีผู้ป่วยมารอรักษาโรคหลายราย รวมถึงในห้องพักฟื้น ยังพบคนไข้นอนให้น้ำเกลือ อยู่ 1 ราย

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบบุคลากรที่ให้การรักษาผู้ป่วย โดยพบว่าผู้ที่ให้รักการรักษาเป็นหญิง ทราบชื่อนางสาวปนัญญา อายุ 44 ปี แต่เมื่อขอตรวจสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหมอ เจ้าตัวก็ไม่สามารถนำมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ได้ จึงได้ทำการควบคุมตัว พร้อมทั้งยังควบคุมตัวผู้ช่วยหมอ คือนายวรธน อายุ 48 ปี ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ทำประวัติคนไข้ ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่มีการจับกุม ทั้ง 2 คน มีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด

ขณะเดียวกัน ตำรวจและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข มีการตรวจสอบเอกสารภายในคลินิกดังกล่าว พบว่ามีการแขวนป้ายใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาลสาขาเวชกรรม ซึ่งระหว่างตรวจสอบ เจ้าของใบอนุญาตดังกล่าวไม่มาแสดงตัว อีกทั้งยังพบประวัติการลงทะเบียนรักษาของผู้ป่วยจำนวนมาก หนังสือการออกใบรับรองแพทย์อีกจำนวนหนึ่งและยาปฏิชีวนะต่างๆ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน

นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมตัว นางสาววริยา อายุ 52 ปี ซึ่งยอมรับว่าเป็นเจ้าของคลินิก โดยให้การกับตำรวจว่า เพิ่งเข้าเซ้งกิจการดังกล่าว เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ยืนยันว่าปกติแล้วจะมีหมอมาประจำช่วงเวลาตั้งแต่ 17.00 - 21.00 น. แต่ช่วงนี้คลินิกขาดทุน จึงยังไม่มีการว่าจ้างหมอ มาอยู่ประจำคลินิกเต็มช่วงเวลา ซึ่งปัจจุบันต้องเบรกภาระค่าใช้จ่ายเดือนหนึ่งเกือบแสนบาท

นอกจากนี้เจ้าตัวยังร่ำไห้ ปะทะคารมณ์กับเจ้าหน้าที่ในบางช่วง โดยบอกว่า ”ตัวเองยอมรับในความผิดที่เกิดขึ้น แต่ทำไมตำรวจไม่จับคลินิกอื่นบ้าง ในเมืองพัทยาและจอมเทียนมีเยอะมาก“ จนตำรวจต้องเข้ามาพูดคุยจนเจ้าตัวเริ่มอ่อนลง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญตัวทั้ง 3 คนไปสอบสวนต่อที่ สภ.หนองปรือ

ตำรวจสืบสวนภาค 2 เปิดเผย คลินิกดังกล่าวเพิ่งถูกจับกุมเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าของที่ถูกจับกุมก็คือคนในปัจจุบัน แต่ก็ไม่เข็ดหลาบกลับมาลักลอบเปิดคลินิกอีก ซึ่งคลินิกนี้ถือว่าอันตรายมาก เนื่องจากบุคคลที่มาทำการรักษาโรคให้กับผู้ป่วย รวมถึงการฉีดยา เจาะเลือด และเจาะสายน้ำเกลือไม่ใช่หมอ หรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ โดยตำรวจเฝ้าดูพฤติกรรมมานานหลายเดือน จนทราบแน่ชัดว่ามีการลักลอบกระทำผิดจริง จึงมีการประสานงาน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เข้าทำการตรวจสอบและจับกุมดังกล่าว โดยเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาหนักเกี่ยวกับพรบ.เปิดสถานพยาบาล และข้อหา ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ โดยผิดกฎหมายต่อไป.

012