แห่ลงทะเบียน‘คนละครึ่งพลัส’สุดร้อนแรง

20ล้านสิทธิ์เกลี้ยง!

แค่เปิดให้ลงทะเบียนวันแรก

เริ่มใช้จ่ายได้29ต.ค.-31ธ.ค.นี้

รบ.เตรียมคลอดเฟส2เดือนม.ค.

‘ขุนคลัง’ปลื้มกระแสตอบรับดี

โครงการ “คนละครึ่งพลัส” ได้รับความนิยมล้นหลาม ประชาชนแห่ลงทะเบียนตั้งแต่ 06.00 น. ผ่านแอปฯเป๋าตังจนมาครบ 20 ล้านสิทธิ์ในเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน “นายกฯ” ชี้กระแสดี ประชาชนแห่ลงทะเบียน “ปลัดคลัง” แจงตรวจสอบสิทธิ์ 3 วัน ผู้ยังไม่เคยร่วมโครงการ ขออย่ากังวลหากมีคนไม่ผ่านคุณสมบัติ จ่อเปิดลงทะเบียนเพิ่ม โฆษกรัฐบาลแย้ม‘คนละครึ่งพลัส’เฟส 2 เริ่มมกราคม 2569 ให้สิทธิ์กลุ่มตกหล่นก่อน

ความคืบหน้าโครงการคนละครึ่งพลัส ที่เปิดลงทะเบียน วันที่ 20-26 ต.ค.68 ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป ผ่านทางแอปฯ เป๋าตัง เพื่อรับสิทธิเงินช่วยเหลือจากภาครัฐจำนวน 2,000–2,400 บาท สำหรับใช้จ่ายค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ภายใต้งบประมาณรวม 44,000 ล้านบาท ใช้จ่ายคนละครึ่ง (เงินภาครัฐและของประชาชน) ไม่เกิน 200 บาท/วัน ครอบคลุมสิทธิจำนวน 20 ล้านสิทธิทั่วประเทศ โดยช่วงเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ทั้งร้านค้าและประชาชน ติดต่อใช้บริการที่ธนาคารกรุงไทยอย่างล้นหลาม เพื่อเตรียมพร้อมลงทะเบียนใช้สิทธิทั้งการซื้อ-ขาย

โดยโครงการคนละครึ่งพลัส เริ่มใช้จ่ายได้ 29 ต.ค.-31 ธ.ค.68 เวลา 06.00 - 23.00 น. ของทุกวัน, 7 พ.ย. 68 ประชาชนเริ่มใช้สิทธิ โครงการคนละครึ่งพลัส ฟู้ดเดลิเวอรี่ วันแรก เวลา 06.00 - 21.00 น. ของทุกวัน , 11 พ.ย.68 ต้องใช้สิทธิครั้งแรกภายในเวลา 23.00 น. เพื่อไม่ให้โดนตัดสิทธิตามเงื่อนไขโครงการ

ผู้สื่อข่ารายงานว่า หลังจากที่ได้มีการเปิดลงทะเบียนสำหรับประชาชนเข้าร่วมโครงการ ‘คนละครึ่ง พลัส’ วันแรก ตั้งแต่เวลา 06.00 ปรากฏว่า ประชาชนได้ทำการลงทะเบียนกันอย่างล้นหลาม ซึ่งหลังจากผ่านไปถึงเวลา 07.40 น. ยอดการลงทะเบียนพุ่งไปที่ 12.5 ล้านสิทธิ์ และคึกคักตลอดทั้งวัน จนกระทั่งเวลา 16.00 น. ก็มีผู้ลงทะเบียนครบ 20 ล้านสิทธิ์เป็นที่เรียบร้อย

“อนุทิน”ปลื้มกระแสดี เตรียมเฟส2แล้ว

เวลา 09.05 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งพลัส ในวันแรกว่า ทุกอย่างน่าจะดี น่าจะโอเค เพราะยังไม่ได้รับรายงานว่ามีปัญหาอะไร

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีประชาชนลงทะเบียนจํานวน มาก นายอนุทิน กล่าวว่า เราก็อยากจะเห็นพี่น้องประชาชนมาลงทะเบียนจํานวนมาก เพราะเป็นโครงการที่ดี เป็นประโยชน์กับประชาชน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งระยะเวลา 2 เดือนนี้ประชาชน สามารถซื้อของ 200 บาท โดยจ่ายเพียงหนึ่ง 100 บาท ดังนั้นจึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่านให้มาเร่งลงทะเบียน ซึ่งมีเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์

เมื่อถามว่า หากผลตอบรับช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ จะมีการขยายระยะเวลาโครงการอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขอดำเนินการเฟสแรกให้เรียบร้อยก่อน เชื่อว่าน่าจะได้รับการตอบรับที่ดี เพราะอยู่ในช่วงเทศกาลสิ้นปี ขณะเดียวกันนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้เตรียมเฟส 2 ไว้แล้ว เดี๋ยวค่อยว่ากัน พร้อมยืนยันว่า อะไรที่เป็นประโยชน์เราทําให้หมด

“ขุนคลัง”เล็งขยายสิทธิ์เพิ่ม

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า ณ เวลา 12.00 น. มีประชาชนลงทะเบียนโครงการ“คนละครึ่งพลัส”สำเร็จแล้วกว่า 18 ล้านรายเศษ ซึ่งผลการลงทะเบียนที่รวดเร็วในวันนี้ไม่ได้เกินความคาดหมายของกระทรวงการคลัง สะท้อนให้เห็นว่าโครงการนี้เป็นที่รอคอยและสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง

“จากผลการลงทะเบียนที่ล้นหลามนี้ เราจะรับไปพิจารณาอีกครั้งว่าจะมีการขยายสิทธิ์ของโครงการหรือไม่ แต่ต้องขอดูภาพรวมตัวเลขทั้งหมดก่อน ทั้งนี้ ยังต้องรอดูยอดการใช้งานครั้งแรกของผู้ที่ได้รับสิทธิ์ภายในวันที่ 11 พ.ย.นี้ด้วย หากผู้ที่ลงทะเบียนไว้แต่ยังไม่ได้มีการใช้งาน ก็นำสิทธิที่เหลือให้ประชาชนรายอื่นลงทะเบียนอีกครั้ง” นายเอกนิติ กล่าว

ยอดร้านค้ามาแล้ว3แสนราย

นายเอกนิติ กล่าวถึงการเปิดลงทะเบียนผู้ประกอบการร้านค้าว่า หลังจากเปิดให้ลงทะเบียนมาเป็นเวลา 1 สัปดาห์ มียอดร้านค้าลงทะเบียนแล้วกว่า 3 แสนร้านค้า ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และคาดว่าจะมียอดร้านค้าเข้าร่วมโครงการได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้กว่า 9 แสนร้านค้าทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังได้ชี้แจงถึงกระบวนการลงทะเบียนของร้านค้าที่อาจมีความล่าช้าในช่วงแรกว่า เป็นเพราะมาตรการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม กระบวนการลงทะเบียนของร้านค้าในช่วงแรกอาจมีการติดขัดเล็กน้อย เนื่องจากเราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยสูงสุด ร้านค้าจะต้องมีการยืนยันตัวตนที่ชัดเจน ซึ่งมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อป้องกันปัญหามิจฉาชีพ บัญชีม้า และสแกมเมอร์ ที่มีจำนวนมากขึ้นในปัจจุบัน

ปลัดคลังแจงตรวจสิทธิ์3วันอย่ากังวล

เวลา 12.40 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งพลัสวันแรกว่า ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ลงทะเบียนกันคึกคัก ส่วนรายละเอียดโครงการคนละครึ่งพลัสเฟส 2 ขอให้รอถามรายละเอียดจาก นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ส่วนงบประมาณจะมาจากส่วนใดนั้น นายลวรณ กล่าวว่า ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้แถลงรายละเอียดว่าจะทำอย่างไร ใช้งบเท่าไหร่ แต่โดยรวมเป็นไปด้วยดี

เมื่อถามว่า จะมีงบในเฟสสองใช่หรือไม่ นายลวรณ กล่าวว่า เป็นเรื่องนโยบายของรัฐบาล หากมีนโยบาย เราก็ต้องบริหารจัดการให้ได้ ส่วนเฟสแรก จะมีการขยายสิทธิ์หรือไม่ นายลวรณ กล่าวว่า ขอให้รอถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

เมื่อถามว่า ในส่วนการรอตรวจสอบสิทธิ์ 3 วัน หาก 20 ล้านสิทธิ์เต็ม จะทำให้หมดสิทธิ์ในเฟสนี้หรือไม่ นายลวรณ กล่าวว่า เมื่อลงทะเบียนให้ครบ 20 ล้านสิทธิ์ ก็ต้องตรวจสอบก่อน หากเหลือ ก็จะเปิดให้ลงทะเบียนจนกว่าจะครบ 20 ล้านสิทธิ์ ยํ้าว่าหากลงทะเบียนครบ ก็ต้องหยุดก่อนเพื่อตรวจสอบ

เมื่อถามว่า โครงการนี้จะมีการขยายสิทธิ์อีกหรือไม่ นายลวรณ กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนโยบาย แต่ตนมองว่า 20 ล้านสิทธิ์ เป็นเป้าหมายที่เหมาะสม ทั้งนี้ การตรวจสอบสิทธิ์ ไว้สำหรับผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการ ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 3 วัน แต่สำหรับผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการจะได้รับ SMS ในวันนี้

รัฐบาลแย้มเฟส2เริ่มม.ค.2569

เวลา 15.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงโครงการคนละครึ่งพลัส ว่า รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมจัดทำโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ซึ่งจะออกมาในช่วงเดือนมกราคม 2569 นี้ โดยจะใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะใช้วงเงินเท่าใด และจะครอบคลุมผู้ใช้สิทธิ์กี่ราย เพราะขอประเมินการดำเนินโครงการเฟสแรก และการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐช่วงปลายปีนี้ก่อน

“กระทรวงการคลัง ได้มีการยืนยันมาก่อนหน้านี้แล้วว่าจะมีคนละครึ่งพลัส เฟส 2 โดยผู้ที่จะได้รับสิทธิ์เบื้องต้น จะพิจารณากลุ่มผู้ตกหล่นจากคนละครึ่งพลัสเฟสแรก เป็นกลุ่มแรกก่อน ซึ่งการดำเนินการทั้งหมด จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงต้นปีหน้าต่อเนื่องจากปลายปี 2568 นี้” นายสิริพงศ์ กล่าว

‘ครม.ศก.ไฟเขียว 3 มาตรการพลังงาน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธาน เห็นชอบมาตรการด้านพลังงานเพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงพลังงาน ตามนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า มาตรการด้านพลังงานที่เสนอเข้ามายังครม.เศรษฐกิจ ทั้งหมดนั้น ส่วนใหญ่เป็นนโยบายเกี่ยวกับการประหยัดพลังงาน และการลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน โดยกระทรวงพลังงาน แจ้งว่า มาตรการที่จะผลักดันออกมาได้ในปีนี้ทันที มีอยู่ 3 โครงการหลัก คือโครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน โครงการโซลาร์เพื่อการเกษตร และ การส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปในบ้านอยู่อาศัยด้วยมาตรการทางภาษี

“คาดว่านโยบายเหล่านี้จะสามารถลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนได้ ยกตัวอย่างเช่น วันนี้ประชาชนอาจจะซื้อไฟอยู่ประมาณ 4.90บาท แต่ถ้ามีโซลาร์ชุมชน จะสามารถซื้อไฟได้ในราคา 3.10 บาทเท่านั้น แต่รายละเอียดต้องรอเข้า ครม. ก่อน ซึ่งคาดว่าจะนำเข้ามาให้ครม.พิจารณาในสัปดาห์หน้า” นายสิริพงศ์ กล่าว

ยืนยันผู้ได้รับข้อความคือได้สิทธิ์แล้ว

ขณะเดียวกัน ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) วันนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบการรายงานผลการดำเนินโครงการ Quick Big Win ครั้งแรก ผ่านการดำเนินโครงการคนละครึ่งพลัส โดยที่ประชุมรับทราบรายงานว่า ปัจจุบันมีความกังวลใจว่า ผู้ที่ได้รับ SMS แจ้งเตือนว่า กำลังตรวจสอบสิทธิ์อยู่ จะแจ้งให้ทราบภายใน 3 วัน ถือว่ายังจะได้สิทธิ์อยู่หรือไม่ โดยรัฐบาลยืนยันว่า ผู้ที่ได้รับข้อความดังกล่าว ถือว่าได้ทำการจองสิทธิ์ไว้เรียบร้อยแล้ว

นายสิริพงศ์ อธิบายว่า การที่ได้ข้อความนั้นหมายความว่า เราจะไปตรวจสิทธิ์ของท่านว่า ท่านเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิ์หรือไม่ ถ้าท่านได้รับสิทธิ์ จะมีข้อความแจ้งเตือนว่า ท่านได้รับสิทธิ์ 2,000 บาท หรือ 2,400 บาท และไม่ต้องไปต่อแถวลงทะเบียนใหม่ เพราะได้ทำการจองสิทธิ์ไปแล้ว แต่ถ้าไม่ได้รับสิทธิ์ แสดงว่า อาจจะขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งตามที่รัฐบาลแจ้งเอาไว้ตั้งแต่ต้น

แจงสิทธิ์รับเงิน2,400บาท

“วันนี้ได้ทราบว่า มีประชาชนจำนวนหนึ่งได้รับการตอบรับกลับมาแล้วด้วย ว่าได้รับสิทธิ์ และมีอีกบางคำถามที่บอกว่า กรณีที่เป็นผู้เสียภาษี แต่ทำไม่ได้รับสิทธิ์ได้เงิน 2,400 บาทซึ่งกระทรวงการคลังแจ้งว่า ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ 2,400 บาท ต้องยื่นแบบภาษีเงินได้ ภ.ง.ด. 90 ภ.ง.ด. 91 และ ภ.ง.ด. 95 ตามข้อมูลของกรมสรรพากรในเดือนมิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา” นายสิริพงศ์ กล่าว

ส่วนอีกประเด็นหนึ่ง คือ ความไม่สะดวกในการลงทะเบียนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะมีประชาชนไปรอยืนยันตัวตนที่ธนาคารกรุงไทยจำนวนมาก ซึ่งทางฝั่งรัฐบาลก็ได้แจ้งกับทางธนาคารกรุงไทยว่า ขอให้มีการพัฒนาระบบเพิ่มเติม และทางธนาคารกรุงไทยก็เพิ่มจุดบริการแล้ว โดยในส่วนของร้านค้าที่จะเข้ามาลงทะเบียนต่อจากนี้รัฐบาลก็พร้อมอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ ล่าสุดมีร้านค้าที่ลงทะเบียนมาแล้วกว่า 300,000 ร้านค้า

‘เดลิเวอรี่’ไม่ถูกหักค่าธรรมเนียม

นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยถึงกรณีผู้ประกอบการร้านค้าอาหารที่เข้าร่วมการใช้จ่ายโครงการคนละครึ่ง พลัส ที่ผูกกับ App Food Delivery ต่างๆ ยังกังวลถึงเรื่องการรับเงินสมทบจากรัฐ ว่า ขอให้ร้านค้าคลายความกังวลเรื่องดังกล่าวได้ เนื่องจากผู้ประกอบการร้านอาหาร จะได้รับการคืนเงินอีกครึ่งหนึ่งจากทางรัฐ ซึ่งเงินสมทบส่วนนี้จะถูกโอนเข้าไปยังแอปฯถุงเงินของร้านค้าโดยตรง และไม่ถูกหัก GP (ค่าธรรมเนียมที่ App food Delivery หักจากร้านค้า) โดยจะได้รับเงินในวันทำการถัดไป

“เนื่องจากประเด็นดังกล่าว ที่ผ่านมา ได้รับทราบข้อมูลจากผู้ประกอบการร้านค้าอาหาร เพราะยังเกิดความกังวล วันนี้จึงออกมาแจ้งข้อมูลให้ผู้ประกอบการร้านค้า หมดความกังวลในเรื่องดังกล่าว เพื่อเตรียมความพร้อมและให้บริการกับลูกค้าได้อย่างสบายใจ” นางสาวลลิดา กล่าว

อุดรฯเข้าคิวรอหน้าแบงก์แน่น

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่จังหวัดต่างๆ ว่า มีประชาชนสนใจโครงการ คนละครึ่งพลัส จำนวนมาก เข้ามาต่อแถว เข้าคิวรอยืนยันตัวตนในแอพพ์เป๋าตัง เตรียมลงทะเบียน คนละครึ่งพลัส

โดยที่บริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาอุดรธานี ถนนอุดรดุษฎี เทศบาลนครอุดรธานี พบประชาชนมานั่งต่อคิวเพื่อยืนยันตัวตนเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก เนื่องจากยืนยันกับตู้ ATM ไม่ผ่าน ส่วนใหญ่ระบุว่าเคยร่วมโครงการคนละครึ่งเฟสที่ผ่านมาแล้ว แต่เปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ เปลี่ยนเบอร์ใหม่ ทำให้ยังมีความสับสน และยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ บางส่วนลืมรหัสผ่าน จนทำให้ยืนยันไม่สำเร็จ บางคนต้องหอบเสื่อมาปูนั่งรอคิวตั้งแต่เช้า ต่อแถวยาวจนล้นลงถนน เจ้าหน้าที่ธนาคารต้องออกมาอำนวยความสะดวก จัดแถวให้เป็นระเบียบ และเพื่อความปลอดภัย

ชาวสัตหีบรอแต่เช้ามืด

เช่นเดียวกับที่บริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาสัตหีบ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้มีประชาชนหลายร้อยราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ แห่กันมาตั้งแต่ 05.00 น. ต่อคิวรอธนาคารเปิดทำการในเวลา 08.30 น. เพื่อให้ทางธนาคารดำเนินการลงทะเบียนรับสิทธิ “คนละครึ่งพลัส สิทธิรัฐช่วยจ่าย 50%”

ชาวอ่างทองวอนปรับขั้นตอนให้ง่ายขึ้น

ส่วนบรรยากาศด้านหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาอ่างทอง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง เต็มไปด้วยชาวบ้านที่พากันมานั่งเฝ้ารอเพื่อยืนยันตัวตน เข้าร่วมโครงการ ‘คนละครึ่งพลัส’ โดยประชาชนหลายรายต้องใช้เวลาในการรอคิวนาน โดยชายวัย 54 ปี รายหนึ่ง เผยว่า ตนเองมารอตั้งแต่เมื่อวานนี้ เพื่อหวังจะได้รับสิทธิ์นำเงินไปซื้อของใช้ในครัวเรือน พร้อมแสดงความเห็นว่าขั้นตอนการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนนั้นยุ่งยากมาก หากรัฐบาลแจกเงินไปเลยคนละ 2,000 บาท จะเป็นประโยชน์และสะดวกกว่า

ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ขั้นตอนของโครงการยุ่งยาก ควรจะแจกเงินให้ไปเลย แม้จะแสดงความไม่พอใจในกระบวนการ แต่ทุกคนต่างเห็นว่าเงินจากโครงการ ‘คนละครึ่งพลัส’ นี้ เป็นความหวังและช่วย แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว ได้อย่างดี แม้จะไม่มากนัก แต่ก็ยังดีที่ช่วยได้ในบางส่วน

ชาวโคราชแห่ลงทะเบียนแน่น

บรรยากาศที่ธนาคารกรุงไทย สาขาศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่เวลา 05.00 น. มีประชาชนจองคิวใช้บริการยืนยันตัวตนและกรณีเปลี่ยนแปลงหมายเลขโทรศัพท์กันอย่างเนืองแน่น จนล้นทะลักออกมาด้านนอก ธนาคารได้เต้นท์มากางให้ผู้ใช้บริการหลบแสงแดด โดยมีนางสาวจารุพร ตามกลาง คลังจังหวัดนครราชสีมาพร้อมเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย ให้คำปรึกษาและสอนวิธียืนยันตัวตน พบหลายรายนำเอาสมาร์ทโฟนมาทำรายการข้างธนาคาร เพื่อความแน่นอน กรณีติดขัดขั้นตอนจะจองคิวเข้าใช้บริการที่เคาน์เตอร์ธนาคารให้เจ้าหน้าที่แก้ไข

ชาวบ้านชายแดนสุรินทร์แห่รอคิว

ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาสังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ พบว่ามีประชาชนจากหลายพื้นที่ ทั้งจาก อ.ศรีณรงค์ โดยเฉพาะ ชาว อ.สังขะและชาว อ.บัวเชด ที่อยู่ติดดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวนมากเดินทางมาใช้บริการให้เจ้าหน้าลงแอปฯยืนยันตัวตนให้ เนื่องจากในพื้นที่อำเภอใกล้เคียงดังกล่าว ไม่มี สนง.ธนาคารกรุงไทยฯและมีที่อ.สังขะแห่งเดียว ที่มีธนาคารกรุงไทยเท่านั้น จึงทำให้พบว่ามีประชาชน ทยอยเดินทางมาเข้าคิวรอตั้งแต่เช้ามืดก่อนเวลาธนาคารเปิดทำการในเวลา 08.30 น.บางคนมารอเอาคิวตั้งแต่เวลาตี 2 กว่าจนถึงเช้าก็มี จนคนล้นธนาคารจำนวนมากดังกล่าว