เมื่อวันที่ 20 ต.ค.68 นายวิพุธ ศรีวะอุไร ประธานสภากรุงเทพมหานคร นายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย รองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่หนึ่ง เข้าร่วมรับฟังการหารือและประชุมร่วมกับคณะกรรมการการสาธารณสุข ในประเด็นหลักเกณฑ์การพิจารณาย้ายหน่วยบริการรักษาพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สิทธิบัตรทอง) ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยมีนางสาวปิยะวรรณ จระกา ประธานกรรมการการสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะกรรมการ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ผู้แทนสำนักอนามัย ผู้แทนสำนักการแพทย์ ผู้แทนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 13 กรุงเทพมหานคร ผู้แทนศูนย์บริการสาธารณสุข 69 ศูนย์ ประชุมหารือ ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกทม. 2 ดินแดง
ปัจจุบันกรุงเทพมหานคร มีจำนวนประชากรที่มีสิทธิประกันสุขภาพแห่งชาติ จำนวนทั้งหมด 3,556,507 คน และมีหน่วยบริการปฐมภูมิ คือ ศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง รวมถึงคลินิกอบอุ่น โดยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นมา พื้นที่กรุงเทพมหานครมีการยกเลิกสัญญาบริการสาธารณสุขกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. 25 แห่ง (แบ่งเป็นคลินิกปฐมภูมิ 24 แห่ง และ โรงพยาบาลปฐมภูมิ 1 แห่ง) ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชากรจำนวน 220,982 คน ที่ต้องย้ายสิทธิการรับบริการ เบื้องต้นสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจึงได้หาทางในการแก้ไขปัญหา โดยการแจ้งโรงพยาบาลรับส่งต่อให้ทบทวนแนวทางการส่งต่อกรณีใบส่งตัวจากศูนย์บริการสาธารณสุข เร่งพิจารณาหน่วยบริการเพิ่มเติมเพื่อรองรับประชากรที่ได้รับผลกระทบ และ พิจารณาปรับเพิ่มงบประมาณให้กับหน่วยบริการให้เหมาะสม สำหรับการแก้ไขปัญหาในกรณีคลินิกอบอุ่น (คลินิกปฐมภูมิ 24 แห่ง และ รพ.ปฐมภูมิ 1 แห่ง ลาออก) มี 8 โรงพยาบาลที่จะพัฒนารองรับการรักษาผู้ป่วย คือ โรงพยาบาลกล้วยน้ำไทย โรงพยาบาลกล้วยน้ำไทย 3 โรงพยาบาลเดอะซีพลัสประเวศ โรงพยาบาลบางนา โรงพยาบาลมิตรประชา โรงพยาบาลสุขสวัสดิ์ อินเตอร์ โรงพยาบาลอนันต์พัฒนา 2 และโรงพยาบาลไอเอ็มเอฟสีลม(โรงพยาบาลมเหศักดิ์) และจะลดระยะเวลาของปัญหาเรื่องใบส่งตัวตามหลักเกณฑ์ของ สปสช. ให้เหลือเวลาน้อยลง
คณะกรรมการการสาธารณสุข จึงได้ร่วมเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาเพิ่มเติมให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร พิจารณาดำเนินการ คือ ประเด็นการส่งตัวผู้ป่วยสิทธิบัตรทองไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลระดับทุติยภูมิล่าช้า ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองถูกย้ายสิทธิไปรับการรักษาที่ไกลบ้านมากขึ้น เนื่องจากศูนย์บริการสาธารณสุขมีจำนวนผู้ป่วยที่ต้องรับดูแลจำนวนมากเกินไป คณะกรรมการได้เสนอแนะให้ควรมีการจัดทำโครงการ เช่น “นพรัตน์โมเดลในพื้นที่กลุ่มโซนตะวันออก” หรือโมเดลในพื้นที่โซนต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร โดยจะสามารถรับผู้ป่วยมาทำการตรวจรักษาโรคต่างๆ ได้ทันที ไม่ต้องผ่านการส่งต่อจากคลินิกอบอุ่นหรือศูนย์บริการสาธารณสุข ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการพิจารณาศึกษาถึงข้อดีข้อเสียและหลักเกณฑ์การรับรักษาผู้ป่วย เพื่อลดอัตราการสูญเสียชีวิตของผู้ป่วย และทำให้ได้รับการรักษาอาการป่วยต่าง ๆ ได้รวดเร็ว ลดความซับซ้อนในการส่งต่อ และได้รับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเห็นควรให้มีการหาแนวทางลดระยะเวลาการส่งต่อผู้ป่วยลง เพื่อให้ได้รับบริการที่ทันท่วงทีและป้องกันมิให้เกิดการสูญเสีย โดยคณะกรรมการเล็งเห็นถึงปัญหาว่าหากคลินิกอบอุ่นยกเลิกจำนวนมากขึ้น ทำให้ศูนย์สาธารณสุขต้องให้บริการกับประชาชนที่เพิ่มมากขึ้นและใช้เวลาในการส่งต่อนานขึ้น นอกจากนั้นยังมีกรณีเวชกรรมหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ จำเป็นต้องมีการหารือและหาแนวทางแก้ไขร่วมกันกับ สปสช. และเห็นควรจำเป็นต้องมีการกำหนดรายละเอียดโรงพยาบาลเอกชนหรือโรงพยาบาลระดับทุติยภูมิที่จะเข้าร่วมกับ สปสช. ในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ได้หน่วยงานระดับทุติยภูมิที่สามารถให้บริการประชาชนได้มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
036
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี