ฟ้องแล้ว"อัยการเก๊" ผิด พรบ.คอมฯ-แต่งเครื่องแบบอัยการโดยไม่มีสิทธิ แถมโพสต์ลงโซเชียล แฉวีรกรรมแสบหลายครั้ง เคยแต่งหลอก"รอง ปธ.ศาลอุทธรณ์"งานกฐินพระราชทาน เจ้าตัวไม่ให้การ ต่อสู้เขตอำนาจศาลนัดไต่สวน 4 พฤศจิกายนนี้ ก่อนศาลให้ประกัน 1.5 หมื่น

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 ที่ศาลอาญาตลิ่งชัน ถนนเลียบทางรถไฟ พนักงานอัยการสำนักงานอาญาตลิ่งชัน 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายมงคล ปรีสุขเกษม เป็นจำเลย ในความผิดฐานกระทำการโดยทุจริตโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, สวมเครื่องแบบหรือประดับ
เครื่องหมายของเจ้าพนักงานสำนักงานอัยการสูงสุดโดยไม่มีสิทธิ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ

อัยการโจทก์ฟ้องสรุปความผิดว่า จำเลยได้ทราบระเบียบคณะกรรมการอัยการดังกล่าว โดยจำเลยไม่ได้เป็นข้าราชการฝ่ายอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด

เมื่อระหว่างวันที่ 6 สิงหาคม 2566 - 18 พฤศจิกายน 2566 จำเลยได้กระทำผิดกฎหมายหลายครั้งหลายหน โดยสวมเครื่องแบบข้าราชการ อัยการ แบบพิธีการเครื่องแบบปกติขาว โดยประดับเครื่องหมายอินทรธนูมีลายปักดิ้นสีทองลายช่อชัยพฤกษ์ 9 ช่อ มีรูปพระไพศรพณ์ทำด้วยโลหะสีทองประทับอยู่บนอินทรธนู ซึ่งเป็นเครื่องแบบพิธีการข้าราชการอัยการ ตั้งแต่ตำแหน่งอัยการประจำกองหรืออัยการจังหวัดผู้ช่วยขึ้นไป และประดับใช้เครื่องหมายแสดงสังกัดรูปพระมหาพิชัยมงกุฎประดิษฐานเหนือพระแว่น พระสุริยกานต์ และตราชูรูปพระขรรค์ รองรับด้วยช่อชัยพฤกษ์อันเป็นเครื่องแบบอัยการ ของสำนักงานอัยการสูงสุด โดยไม่ได้รับอนุญาตโดยไม่มีสิทธิสวมเครื่องแบบและประดับใช้เครื่องหมาย เพื่อให้พระสงฆ์ และบุคคลอื่นผู้ร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ ที่วัดใหม่ปืนเกลียว ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม จ.นครปรปฐม เชื่อว่าตนมีสิทธิสวมเครื่องแบบ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำเลยได้นำภาพถ่าย ซึ่งสวมเครื่องแบบอัยการซึ่งเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ในระบบอินเทอร์เน็ต ผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นเครือข่ายการสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลทางระบบคอมพิวเตอร์ โดยตั้งค่าให้สมาชิกที่เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กของจำเลยเข้าถึงได้ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ที่พบเห็นภาพถ่ายเข้าใจผิดว่าจำเลยเป็นข้าราชการฝ่ายอัยการ และมีสิทธิสวมเครื่องแบบและประดับใช้เครื่องหมาย โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่สำนักงานอัยการสูงสุด

นอกจากนี้ จำเลยยังกระทำความผิดอีกหลายกรรม อาทิ จำเลยนำเข้าภาพถ่ายของจำเลยติดบนบัตร พล.ปตอ.เลขบัตรที่ 01 ซึ่งสวมเครื่องแบบอัยการ แบบพิธีการเครื่องแบปกติขาว และนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยโพสต์ลงเฟซบุ๊ก, จำเลยสวมเครื่องแบบอัยการเครื่องแบบปกติขาวเพื่อให้บุคคลอื่นผู้ร่วมงานศพวัดโสมนัสราชวรวิหาร เชื่อว่ามีสิทธิสวมเครื่องแบบอัยการ และยังนำเข้าภาพถ่ายโพสต์ทางเฟซบุ๊ก, จำเลยสวมเครื่องแบบอัยการ เพื่อให้พระสงฆ์ และบุคคลอื่นผู้ร่วมงานพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระระราชกุศลเนื่องในวันนวมินทรมหาราช 13 ตุลาคม 2566 บริเวณลานหน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์ ต.พระปฐมเจดีย์ และโพสต์เฟซบุ๊ก รวมทั้งจำเลยได้สวมเครื่องแบบอัยการเพื่อให้รองประธานศาลอุทธรณ์ และบุคคคลอื่นผู้ร่วมงานพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน วัดมหาพฤฒาราม ซึ่งศาลอุทธรณ์เป็นเจ้าภาพ และนำโพสต์ลงเฟซบุ๊ก และพฤติการณ์การกระทำผิดอื่นๆ

ต่อมาวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 เจ้าพนักงานจับจำเลยได้ตามหมายจับนำตัวส่งพนักงานสอบสวน และยึดของกลางไว้ทำการสอบสวน ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลประทับฟ้องคดีไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำ 2720/2568

โดยในชั้นพิจารณาจำเลยไม่ให้การ อ้างว่า ขณะกระทำความผิดจำเลยอยู่ในสังกัดของทหาร คดีจึงอยู่ในอำนาจของศาลทหาร

ศาลจึงนัดไต่สวนคำร้องเรื่องเขตอำนาจศาลในวันที่ 4 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

ต่อมาทนายความจำเลยยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยตีราคาประกัน 15,000 บาท ภายหลังได้รับการปล่อยตัว นายมงคล ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ และเดินทางกลับ พร้อมระบุสั้นๆ ว่า "จะสู้ตามกระบวนการ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายมงคล ยังมีคดีที่ก่อการในลักษณะเดียวกันอีก 2 สำนวน ในพื้นที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และ สน.สำราญราษฎร์

- 006