 วันเสาร์ ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
                วันเสาร์ ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
             
								ยังยืน 1 ส่งออกเนื้อไก่ไทยปี 68 ทะลุหลักแสนล้าน ท่ามกลางวิกฤต ศก.-สงครามไทย-กัมพูชา
วันที่ 31 ตุลาคม 2568 ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมถ์ ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์การส่งออกเนื้อไก่ไทย ในปี 2568 ว่า ยังคงสดใสไม่แพ้ปีก่อนๆ แม้จะต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจที่้เกิดขึ้นทั่วโลก และความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา จนถึงขั้นปะทะกันและนำสู่มาตรการปิดด่านการค้าชายแดนมานานเกือบ 3 เดือน แต่ผู้ประกอบการไทย ก็ยังสามารถผลิตสินค้าป้อนเข้าสู่ตลาดใหม่และส่งให้คู่ค้าเดิมได้อย่างต่อเนื่องสมกับการเป็น "ครัวของโลก" แม้ในบางครั้งจะต้องเจอปัญหาเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งเกินไป จนกระทบต่อรายได้ก็ตาม
ดร.ฉวีวรรณ บอกว่าเศรษฐกิจของไทยในขณะนี้ตกต่ำมาก ทุกอาชีพมีปัญหาหมด โชคดีที่การส่งออกเนื้อไก่ไทยยังพอไปได้ เนื่องจากผู้ประกอบการมีความพยายามที่จะพัฒนาระบบการผลิตให้เป็นที่ยอมรับของตลาดในต่างประเทศ จนสามารถช่วยเหลือผู้ผลิตธัญพืชที่ราคากำลังตกต่ำให้สามารถส่งผลผลิตมาทำเป็นอาหารสัตว์ ที่มีความปลอดภัยมากขึ้นจนสามารถเข้าสู่ระบบของนานาประเทศได้
นอกจากนั้น ผู้ประกอบการยังมีความพยายามในการหาตลาดใหม่จากความพร้อมด้านการส่งออก จึงทำมาตรการปิดด่านชายแดน ผู้ประกอบการที่เคยส่งสินค้่าไปกัมพูชา ก็สามารถส่งไปขายในประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ทดแทนได้

"แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในส่วนของตลาดใหญ่ในบางประเทศก็คือ การสร้างเงื่อนไขทางการค้าที่มากขึ้น ในขณะที่การเมืองของไทย ยังไม่มีเสถียรภาพ ซ้ำยังมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีบ่อยๆ จึงทำให้เมื่อเกิดปัญหา โดยเฉพาะเรื่องการรับรองสินค้าที่ต้องใช้ระบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งเราไม่สามารถทำได้และถือเป็นข้อเสียเปรียบของไทย เพราะประเทศคูู่ค้าใหญ่เขาแค่รอให้ผู้บริหารไทยเข้าไปเจรจาเท่านั้น"
ส่วนปัญหาแนวชายแดนไทยกัมพูชา ในช่วงที่ผ่านมาทำให้ผู้ประกอบการบางราย ไม่สามารถส่งเนื้อไก่ออกไปขายได้ จนทำให้ราคาไก่ในประเทศตกต่ำ แต่ผู้ประกอบการก็สามารถประคองตัวด้วยการหาตลาดส่งออก ในประเทศเพื่อนบ้านอื่นทดแทน จึงทำให้ไม่ได้รับความเดือดร้อนมากนัก
แต่สิ่งที่กำลังจะทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบก็คือ การที่ตลาดใหญ่ในบางประเทศ เริ่มสั่งซื้อเนื้อไก่จากไทยลดลง และยังหันมาผลิตเนื้อไก่เพื่อส่งขายแข่งกับไทย ซึ่งในเรื่องนี้ หากรัฐมนตรีที่เข้ามาดูแลด้านการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ ไม่มีความเข้าใจที่แท้จริง ก็อาจกระทบต่อการส่งออกเนื้อไก่ไทย ในอนาคตได้
เช่นเดียวกับปัญหาเรื่องการสนับสนุนเงินทุนให้ผู้ประกอบการ ให้สามารถต่อยอดการพัฒนาสินค้าและการลงทุน ขณะนี้ยังไม่เห็นว่าจะมีรัฐบาลใดที่สามารถเจรจา ให้แบงก์พาณิชย์ปล่อยเงินกู้เพื่อการลงทุนให้ผู้ประกอบการได้ อย่างแท้จริง

ส่วนการแก้ไขปัญหาการส่งออกของสมาคมฯ คือความพยายามส่งเสริมให้ผู้ผลิต ผลิตสินค้าตามความต้องการของตลาดให้ได้มากขึ้น และต้องให้ความสำคัญกับการผลิตสินค้าที่มีตลาดรองรับแล้วเท่านั้น เพื่อป้องกันความเสียหาย รวมทั้งพยายามมองหาตลาดใหม่อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะตลาดฮาลาน ที่มีมูลค่ามหาศาล
"ภาพรวมการส่งออกเนื้อไก่ไทย ในปี 68 ดีมาตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นปี เพราะผู้ประกอบการมีความรู้ในการเลี้ยงที่ได้มาตรฐาน ความปลอดภัยด้านอาหาร จนทำให้เนื้อไก่ไทย มีความปลอดภัยจากสารตกค้างต่างๆ รวมทั้ง ยังมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในการลดต้นทุนการผลิต จนทำให้เราเป็นครัวของโลกได้แบบสบายๆ แม้ในบางครั้งที่ต้องเจอบางประเทศ เข้มงวดเรื่องมาตรฐานอาหารแต่เราก็ผ่านมาได้ เพียงแต่ยังติดเรื่องรัฐบาล ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง แต่ถึงกระนั้นในปีนี้มูลค่าการส่งออกเนื้อไก่ไทย ก็ยังสูงกว่าแสนล้านบาท "ดร.ฉวีวรรณ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี