5 พฤศจิกายน 2568 เมื่อเวลา 17.00 น. ร.ต.อ.อิสระ แสงสว่าง พงส.(ช่วยราชการ) สภ.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถเก๋งมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณถนนซอยประชาอุทิศ 90 เยื้องตลาดสายชล หมู่ที่ 2 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยรถกู้ชีพโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์และรถกู้ชีพมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลนรถวิ่งสวนทางกันบริเวณกลางถนนพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ MG สีดำ หมายเลขทะเบียนกทม.จอดเปิดไฟฉุกเฉินในสภาพท้ายรถพังยับเยิน ใกล้กันพบรถคู่กรณีเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น FINN 115.I สี บรอนด์-เงิน ทะเบียนกทม. ล้มคว่ำในสภาพด้านหน้ารถพังใกล้กันพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงตั้งครรภ์นอนหงายหายใจรวยรินแน่นิ่งอยู่บนพื้นถนน เจ้าหน้าที่กู้ชีพเร่งปฐมพยาบาลและทำ CPR นานกว่า 5 นาทีแต่ไม่เป็นผลผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบตามร่างกายมีบาดแผลแตกขนาดใหญ่ที่ศีรษะ สวมเสื้อยืดแขนขาวสีเขียว สวมกางเกงขาสั้นสีดำ ทราบชื่อภายหลัง นางสาวมิลตรา อายุ 36 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 3 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ

จากการสอบถาม นายนิวาส อายุ 49 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง เล่าว่าในขณะที่ตนกำลังนั่งรอผู้โดยสารและก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ในวินด้านหน้าตลาดได้ยินเสียงดังโครมมาทางถนนก่อนหันหน้าไปดูเห็นรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถเก๋งแล้วและมีผู้หญิงที่เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์นอนแน่นิ่งกองอยู่กับพื้น หลังจากนั้นได้มีแม่ค้าและประชาชนที่เดินทางมาจับจ่ายซื้อของที่ตลาดต่างวิ่งเข้าไปช่วยเหลือพร้อมโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพและเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รีบเดินทางมาช่วยเหลือ

สอบถาม นายบุญลือ อายุ 45 ปี สามีผู้ตาย เล่าว่าผู้ตายเมื่อก่อนนี้เคยทำงานเป็นพนักงานฝ่ายผลิตอยู่ในโรงงานกระเทียมและลาออกมานานหลายปีแต่ยังไม่ได้ทำงานอะไรและกำลังตั้งท้องได้ 9 เดือนแล้วโดยสิ้นเดือน พ.ย.68 นี้จะครบกำหนดคลอด ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักแถวเชิงสะพานข้ามคลองใกล้หมู่บ้านชื่อดังแห่งหนึ่งไปส่งลูกสาวคนโตที่บ้านแม่ของผู้ตายย่านวัดทุ่งครุก่อนที่ขี่รถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุกลับบ้านกระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุสลดดังกล่าว

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้น ก่อนมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์ ก่อนเชิญตัวผู้ขับขี่รถเก๋งไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจพร้อมดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

012