'บิ๊กเล็ก' สวมบทพี่ชายคนโต ตรวจเยี่ยมทหารใหม่น้องเล็กกองกองทัพ พลัด 2 ร่วมวงกินข้าวกันเอง

'บิ๊กเล็ก' สวมบทพี่ชายคนโต ตรวจเยี่ยมทหารใหม่น้องเล็กกองกองทัพ พลัด 2 ร่วมวงกินข้าวกันเอง

วันพฤหัสบดี ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 14.46 น.

“บิ๊กเล็ก” สวมบทพี่ชายคนโต ตรวจเยี่ยมทหารใหม่น้องเล็กกองกองทัพ พลัด 2   ร่วมวงกินข้าวกันเอง ยันฝึกเพื่อไปรบ  ขอให้มั่นใจ 2 ปีการรับใช้ชาติ เป็นโอกาสพัฒนาร่างกาย- การศึกษา-หน้าที่

เมื่อวันที่ 6 พ.ย.68 ที่กองพันปฏิบัติการพิเศษ 2 กรมปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ ปลัดกระทรวงกลาโหม และคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันปฏิบัติการพิเศษ 2 กรมปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน 


โดยมี พล.อ.อ.เสกสรร คันธา ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และพล.อ.ท.ขจรฤทธิ์  แก้วอำไพ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ให้การต้อนรับ

โดยรมว.กลาโหม และคณะ เยี่ยมชมโรงนอนทหารใหม่ ห้องน้ำ โรงประกอบเลี้ยง  สถานีปฐมพยาบาล สถานีเคลื่อนย้ายผู้ป่วยของหน่วยฝึกทหารใหม่ รวมถึงการคัดกรองเชื้อโควิด -19 และไข้หวัดใหญ่หลังครบกักตัว 5 วัน  จากนั้น ร่วมเยี่ยมชมการฝึกบุคคลท่ามือเปล่าของทหารใหม่ ฯ และการฝึกปฐมพยาบาลเบื้องต้น  พร้อมทั้งพบปะพูดทหารใหม่ ฯ และมอบสิ่งของเพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจให้กับทหารใหม่ 

รมว.กลาโหม ได้เน้นย้ำผู้บังคับบัญชาในเรื่องของการฝึกทหารใหม่ ในช่วง 2 เดือนแรก ขอให้ค่อยเป็นค่อยไป  เพื่อให้ทหารใหม่ได้ปรับตัว ปรับสภาพร่างกาย เนื่องจากทหารใหม่บางคนยังไม่เคยออกกำลังกาย อีกทั้งสภาพอากาศก็ไม่เหมือนในอดีต ดังนั้นขอให้ไปกำชับผู้บังคับบัญชาและครูฝึก เพื่อลดการสูญเสียกำลังพลจากการบาดเจ็บหรือออกจากการเป็นทหาร และระบุว่าตนในฐานะพี่ชายคนโตวันนี้ได้มาตรวจเยี่ยม เพื่อมาดูสภาพความเป็นอยู่แทนครอบครัวของพลทหารทั้ง 140 กว่านาย ซึ่งหลายคนมีความกังวลว่าน้องๆเข้ามาแล้วจะอยู่ดีกินดีหรือไม่ หรือถูกซ่อมหนัก 

โดยยืนยันว่านโยบายกองทัพเปลี่ยนไปแล้ว เป็นการฝึกแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่จะมีการพัฒนาที่ไปเร็ว  เพราะต้องการฝึกให้ทุกคนเป็นทหาร ฝึกเพื่อรบ ไม่ได้ฝึกเพื่อไปอยู่บ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้มีสถานการณ์ปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดนภาคตะวันออกภาคตะวันตก ดังนั้นทุกคนจะต้องฝึกเพื่อเตรียมการรบ จะเป็นการฝึกแบบสบายมากไม่ได้ แต่ขณะเดียวกันก็จะไม่ฝึกหนักจนเกินไป เพื่อให้ทุกคนได้มีการปรับตัว 

ขณะที่ กองทัพอากาศได้ดูแลพลทหาร ตามความเหมาะสม คือไม่ได้ฝึกหนักมากหรือปล่อยให้อยู่สบาย และไม่อยู่แบบฟุ้งเฟ้อหรืออดอยากปากแห้ง ซึ่งเป็นการดูแลอย่างดีตามกำลังที่กองทัพได้ดำเนินการมาโดยตลอด ขณะเดียวกันวันนี้ตนเองก็มาเยี่ยมผู้บังคับบัญชา ขณะนี้ถือว่าสามารถเข้ามาตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ได้ทันทีหลังก่อนหน้านี้จะต้องแจ้งล่วงหน้า 2 วัน แต่ด้วยสถานการณ์ขณะนี้สามารถที่จะเข้าตรวจสอบได้ทันที  นอกจากนี้ยังย้ำว่าการฝึกทหารใหม่ ฝึกเพื่อให้ทุกคนได้ออกรบ แต่เมื่อถึงเวลาจริงจำนวนอัตราอาจจะลดลง ดังนั้นช่วงของการฝึกถือว่าหนักเท่ากัน ซึ่งบางคนอาจจะได้รับบาดเจ็บและออกจากการฝึก แต่ขณะนี้เป็นการฝึกเพื่อพัฒนาร่างกายในการเตรียมความพร้อม

โดยเฉพาะช่วง 2 เดือนแรก จากนั้นก็จะฝึกอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยผู้บังคับบัญชาหลายคนทราบนโยบายนี้ดีแล้ว และทราบว่าร่างกายของบางคนอาจจะไม่เคยทำงานหนักมาก่อน ดังนั้นกองทัพคำนึงถึงเรื่องนี้โดยเฉพาะสภาพร่างกาย และหลัง 2 เดือนการฝึกจะแยกขึ้นกองร้อย หากใครลงหน่วยรบ ก็จะถูกฝึกเพิ่มมากขึ้นและได้รับสวัสดิการที่แตกต่างกัน 

ทั้งนี้ตนเองขอย้ำนโยบายที่มอบให้ผู้ใต้บังคับบัญชา 2 ปีที่พลทหารอยู่รับใช้ชาติคือ 2 ปีแห่งโอกาส กล่าวคือโอกาสที่จะพัฒนาสมรรถภาพของตัวเอง พัฒนาวินัย พัฒนาการใช้อาวุธ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ รวมถึงเพิ่มโอกาสทางการศึกษา โอกาสมีงานทำและโอกาสแห่งการมีเพื่อนเพื่อช่วยเหลือกันในอนาคต 

จากนั้น พล.อ.ณัฐพล และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมทหารใหม่กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 5 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ถนนแจ้งวัฒนะ หรือ หน่วยที่ 2 ปตอ.1 พัน.5  โดยได้พบปะพูดคุยกับพลทหารอย่างเป็นกันเองและร่วมรับประทานอาหารกลางวัน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top