วันศุกร์ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
DSI ลุยสืบขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ ปม‘ด.ญ.12’ถูกแม่แท้ๆหลอกขายบริการทางเพศในร้านนวดญี่ปุ่น ประสานญี่ปุ่น-พม.-NGO ล่าตัวผู้สมคบ และเส้นเงิน จ่อชงเป็น‘คดีพิเศษ’มัดตัวแม่ใจร้าย
จากกรณีสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งในญี่ปุ่น รายงานว่าช่วง ก.ย.2568 มีเด็กหญิงไทยอายุ 12 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ด้วยตนเองที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองว่า ถูกบังคับให้ทำงานในร้านนวด ตำรวจจึงจับกุมผู้ต้องสงสัย ผู้จัดการร้านนวดชาวญี่ปุ่น และนำไปสู่การสืบสวนเรื่องการค้ามนุษย์
เบื้องต้นพบว่าบุคคลที่ชักชวนหลอกลวงเด็กหญิงไทยรายนี้มาทำงานร้านนวดชื่อ Relax Time ซึ่งเป็นห้องเช่าในอาคารในเขตบุงเคียว กรุงโตเกียว ใกล้กับย่านอุเอโนะ คือ แม่ของเด็กหญิงเอง โดยเด็กหญิงถูกสอนวิธีการนวดและให้บริการทางเพศ ก่อนถูกทิ้งไว้คนเดียวที่ญี่ปุ่น ถูกบังคับให้ทำงาน พักอาศัยในห้องเช่าของร้าน นอนพื้นในห้องครัว และได้รับเงินเพียงเล็กน้อยเป็นค่าอาหาร
ทั้งนี้ แม่ของเด็กหญิงอ้างว่าจะกลับมารับ แต่ได้ทิ้งลูก สาวไว้ที่ญี่ปุ่นและตัวเองหนีกลับประเทศ ไทยในช่วงกลางเดือนก.ค. กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของประเทศญี่ปุ่นได้เข้าจับกุมร้านนวดและนำไปสู่การสืบสวนในที่สุด
ล่าสุด วันนี้(7 พ.ย.68) ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงไทยวัย 12 ปี ในประเทศญี่ปุ่นนั้น ตนได้มอบหมายให้กองคดีการค้ามนุษย์ ดำเนินการรับไว้สืบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและขยายผลดูเรื่องการกระทำความผิด “ฐานค้ามนุษย์ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม“ เพื่อจะเสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณาอนุมัติให้ทำ การสอบสวนเป็นคดีพิเศษ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ต่อไป อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้การสืบสวน ดีเอสไอได้บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน ได้แก่ นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขาฯ รมว.พม. เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เครือข่ายทีมงาน/มูลนิธิ/สมาคม/NGO ใน
ประเทศญี่ปุ่น เพื่อดูข้อมูลพฤติ การณ์ที่เกิดขึ้น
ในส่วนของการจะพิจารณาฐานความผิดค้ามนุษย์นั้น ดีเอสไอจะต้องสืบสวน อาทิ มีลักษณะการเป็นธุระจัดหาหรือไม่ ขยายประเด็นว่าแม่ของเด็กมีเจตนาจะนำลูกสาวไปค้าประเวณีเด็กหรือไม่ และดำเนินการเพียงคนเดียว หรือมีการสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดค้ามนุษย์หรือไม่ และมีการได้รับเงินจากการนำเอาเด็กไปค้าประเวณีหรือไม่ ซึ่งดีเอสไอจะดูบริบทภาพรวมทั้งหมด
นอกจากนี้ ในส่วนของการสอบถามข้อมูลจากเด็กหญิง ด้วยความที่ผู้เสียหายเป็นเด็กวัยเพียง 12 ปี หากหน่วยงานในพื้นที่ได้มีการสอบปากคำตามกระบวนการเรียบร้อยแล้ว และบันทึกผลการสอบปากคำครบถ้วนทุกประเด็น ทางดีเอสไอก็ไม่มีความจำเป็นต้องสอบปากคำเด็กซ้ำอีกทั้งนี้ เมื่อมีความชัดเจนในส่วนของคำให้ การ พยานหลักฐานบ่งชี้ถึงการกระทำ ความผิดฐานค้ามนุษย์แล้ว ก็จะเสนออธิบดีฯรับเป็นคดีพิเศษเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนออกหมายเรียกผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหาการกระทำความผิดตามลำดับต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)ขอแจ้งให้ประชาชนทราบว่า การเป็นธุระจัดหาหรือนำเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มาค้าประเวณีหรือให้บริการทางเพศ ไม่ว่าเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม เป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปี
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี