วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมแถลงผลปราบสแกมเมอร์ ครั้งใหญ่ ศูนย์ PCT – WARROOM IAC ลุยมาตรการ MONEY CASH BACK คืนเงินได้ต่อเนื่อง แบงก์ส่งซิก‘ตำรวจภูธรภาค 1-ตำรวจศรีราชา’จับไว
9 พฤศจิกายน 2568 พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ รอง ผบช.ภ.1/โฆษก ตร.ภ.1 , พล.ต.ต.ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1/รองโฆษก ตร.ภ.1 , พล.ต.ต.ฤทธินันท์ ปุ๋ยพันธวงศ์ ผบก.กค.ภ.1/รองโฆษก ตร.ภ.1 เปิดเผยว่า พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1 แจ้งว่าวันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะแถลงผลปฏิบัติการปราบปรามสแกมเมอร์ครั้งใหญ่ ตามนโยบายรัฐบาลที่ประกาศสงครามไซเบอร์สแกม ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ทุกประเภท โดยยกเป็น “วาระแห่งชาติ” โดยหนึ่งในคดีที่จะแถลง คือ ผลงานของชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 ที่จับกุมเครือข่าย “คอกม้า” 12 ราย ยึดเงินสดกว่า 9270,000 บาท
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมแถลงผลปฏิบัติการปราบปรามสแกมเมอร์ครั้งใหญ่ ในวันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ซึ่งจะมีการรวบรวมผลการดำเนินการจากทุกหน่วยทั่วประเทศ เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการเดินหน้าเชิงรุกปราบปรามสแกมเมอร์ทุกรูปแบบอย่างเต็มกำลัง ตามนโยบายรัฐบาลที่ประกาศสงครามไซเบอร์สแกม ปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ทุกประเภท โดยยกเป็น “วาระแห่งชาติ”
นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินหน้าปฏิบัติการ “MONEY CASH BACK” อย่างต่อเนื่อง สามารถหยุดยั้งการโอนเงิน ติดตามเงินของผู้เสียหายคืนได้อย่างรวดเร็ว โดยได้รับการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพระหว่าง ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ “ศูนย์ PCT” และศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ (ศกค.) หรือ “WARROOM IAC” และสถาบันการเงิน โดยล่าสุด สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 สามารถนำเงินคืนผู้เสียหายได้รวมกว่า 1.2 ล้านบาท
คดีที่ 1 สภ.ศรีราชา อายัดเงินได้ 300,320บาท ขณะบัญชีม้ากำลังถอนเงิน โดยเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ตำรวจ สภ.ศรีราชา ได้รับการประสานจาก WARROOM IAC และทีมสืบสวนทุจริตด้านดิจิทัล ฝ่ายป้องกันอาชญากรรมทางการเงินของธนาคารแห่งหนึ่ง ว่าพบความเคลื่อนไหวผู้ต้องสงสัยภายในธนาคาร ตำรวจชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าตรวจสอบ พบนายอำนาจฯ กำลังรอถอนเงินสด 300,320 บาท จึงเข้าควบคุมตัว สอบสวนเบื้องต้น นายอำนาจยอมรับว่าได้รับว่าจ้างให้ถอนเงินโดยแลกค่าจ้างเพียง 4,000 บาท ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกชุดคุมตัวนางธัญญพัทธ์ฯ ทำหน้าที่ควบคุมการถอนเงิน จาการสอบสวนสารภาพว่าได้รับว่าจ้างผ่านแอปพลิเคชัน Telegram ให้ดูแลการถอนเงิน เมื่อตรวจสอบที่มาของเงิน พบมีผู้เสียหายรายหนึ่ง อยู่ในพื้นที่ สน.ท่าข้าม กรุงเทพมหานคร ถูกหลอกลงทุน โอนเงินให้แก๊งมิจฉาชีพผ่านบัญชีของนายอำนาจ 301,141 บาท จึงให้เข้าร้องทุกข์ เพื่อดำเนินการคืนเงินตามโครงการ MONEY CASH BACK
อีกคดี ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 จับกุมเครือข่าย “คอกม้า” 12 ราย ยึดเงินสดกว่า 9270,000 บาท โดย ศปอส.ตร. สืบสวนเส้นทางการเงินและติดตามผู้ต้องสงสัยในเครือข่ายบัญชีม้า ก่อนเข้าตรวจสอบที่ธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา พบกลุ่มบุคคล 12 ราย พฤติการณ์ตรงกับข้อมูลเครือข่ายบัญชีม้า จึงเข้าควบคุมตัวพร้อมตรวจยึดของกลางเงินสด 927,000 บาท ส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การว่า เห็นโฆษณาชักชวน “รับเช่าบัญชี รายได้สูง” ผ่านเพจเฟซบุ๊ก เช่น “หารายได้เสริมง่าย ๆ” และ “ไม่ง้อเงินเดือน” อ้างว่าถูกแอดมินในไลน์หลอกให้ส่งเอกสารส่วนตัว และบัญชีธนาคารเพื่อเช่าบัญชี โดยได้รับค่าตอบแทนครั้งละ 5,000 บาท เมื่อถึงวันถอนเงิน แอดมินจะสั่งการผ่านโทรศัพท์ตลอดเวลา และมี “ผู้คุมบัญชี” คอยติดตามดูแลในพื้นที่ เมื่อถอนเงินเสร็จจะนำเงินทั้งหมดส่งต่อให้ผู้รวบรวมเงินตามคำสั่ง
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและธนาคารเอกชน เพื่อหยุดยั้งเส้นทางการเงินของมิจฉาชีพได้อย่างทันท่วงที
“ผบ.ตร.ชมเชยชุดสืบสวน สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และตำรวจภูธรภาค 1 ที่สามารถดำเนินการเชิงรุก รวดเร็ว เฉียบขาด จนนำไปสู่การยึดเงินคืน และจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งเครือข่าย และขอเตือนผู้หลงผิดให้เช่าบัญชี รับจ้างกดเงินแลกกับรายได้ไม่กี่บาท ทั้งที่รู้ว่าเป็นขบวนการอาชญากรรมที่ตำรวจมุ่งมั่นปราบปรามเด็ดขาด จริงจัง ต้องถูกดำเนินคดี รับโทษหนักทั้งจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าว
สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างทุ่มเท เสียสละ เพื่อคุ้มครองประชาชนจากภัยอาชญากรรมออนไลน์ และขอให้ประชาชนร่วมกันเฝ้าระวัง หากพบพฤติกรรมต้องสงสัย สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน 1441 หรือ ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี