วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
"บิ๊กก้อง"บุกรังการเงินสแกมเมอร์ หนีมาจากกัมพูชา พบนวัตกรรมใหม่สุดล้ำ Ai หลอก Ai จับชาวจีน 4 ราย คอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง โทรศัพท์ 60 เครื่อง
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.สั่งการให้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคํา ผบก.น.5, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก.สน.ทองหล่อ, พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.กก.สส.บก.น.5, นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศอ.ปส.บช.น., บก.สส.บช.น., บก.น.5, สน.ทองหล่อ นำหมายค้นศาลอาญาที่ ค.124/2568 ลงวันที่ 8 พ.ย.68 เข้าตรวจค้นคอนโดหรูภายใน ซ.สุขุมวิท 16 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
ตรวจยึดของกลาง 4 รายการ 1. คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 2 เครื่อง (พบข้อมูลการตัดต่อวีดิโอเพื่อสแกนหน้า) 2. คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 2 เครื่อง (พบข้อมูลทำการเงินเพื่อนำเงินออกในประเทศกัมพูชา) 3. โทรศัพท์มือถือ 60 เครื่อง 4. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 2 ถุง 5. อุปกรณ์การเสพยาเสพติด
จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย ดังนี้ 1.Mr.Xiahou Xin อายุ 29 ปี สัญชาติจีน 2.Mr.Liu Ming อายุ 28 ปี สัญชาติจีน 3.Mr.Li Lei อายุ 22 ปี สัญชาติจีน 4.Mr.Zeng Lingquan อายุ 21 ปี สัญชาติจีน
ถูกแจ้งข้อหา "ร่วมกันเป็นอั้งยี่, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ" (ข้อหาอื่นๆ อยู่ระหว่างการขยายผล) โดยจับกุมได้ที่คอนโดหรูภายใน ซ.สุขุมวิท 16 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
พฤติการณ์กล่าวคือ บุกรังการเงินแก๊งสแกมเมอร์ พบนวัตกรรมใหม่ใช้ Ai หลอก Ai เนื่องด้วยสถานการณ์ปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์มิใช่เป็นเพียงปัญหาระดับชาติ แต่กลายเป็นปัญหาระดับโลกไปแล้ว จนล่าสุดเกิดปรากฏการ “โลกล้อม” แก๊งสแกมเมอร์ โดยมีเหล่าเจ้าหน้าที่จากหลายประเทศเข้าปฏิบัติการในประเทศกัมพูชาจนเกิดความสั่นคลอนเป็นผึ้งแตกรัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.สั่งการมอบหมายให้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.ติดตามสถานการณ์ทางการข่าวอย่างใกล้ชิด กระทั่ง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้สืบทราบเบาะแส พบว่ามีกลุ่มบอสหนุ่มชาวจีนรายใหญ่หลายราย ได้หลบหนีจากประเทศกัมพูชาเข้ามาหลบซ่อนตัวในประเทศไทย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.มอบหมาย พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวน จนพบกลุ่มชาวจีนต้องสงสัย 4 ราย แอบขนอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมาก พร้อมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แปลกๆ เข้าไปในคอนโดหรูภายใน ซ.สุขุมวิท 16
ซึ่งต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น.นำกำลังเจ้าหน้าที่แฝงตัวเป็นช่างอาคารจนพบว่ามีการตั้งห้อง “วอร์รูม” เป็นฐานบัญชาการอยู่ภายในคอนโดหรูดังกล่าว และมีการมั่วสุมยาเสพติดด้วย ต่อมาวันที่ 9 พ.ย.68 เวลา 12.30 น. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร.นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมหมายค้นเข้าตรวจสอบ ห้องสูทหรูในคอนโดชื่อดัง ซ.สุขุมวิท 16 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ โดยใช้ยุทธวิธีเข้าจับอย่างฉับพลัน จนทำให้กลุ่มผู้ต้องหาไม่ทันตั้งตัว และไม่สามารถทำลายพยานหลักฐานในคอมพิวเตอร์ได้ ผลการตรวจค้นพบห้อง “วอร์รูม” มีคอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง ยังคงเปิดค้างไว้ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็น “การเงินของแก๊งสแกมเมอร์” ตรวจสอบพบ “นวัตกรรมใหม่” โดยการใช้ Ai หลอก Ai โดยการเอาภาพนิ่งของ “เหยื่อ” ผู้เสียหายมาเข้าระบบ Ai เพื่อให้หันหน้าซ้าย ขวา กะพริบตา อ้าปาก จากนั้นนำคลิปที่ได้จากการทำ Ai ดังกล่าว นำไปหลอกกับระบบ KYC ของธนาคารและเงินดิจิทัล ซึ่งเป็นกระบวนการที่อันตรายมากเพราะทำให้ ผู้เสียหายกลายเป็นผู้ต้องหาได้อย่างง่ายดาย และจากการตรวจสอบพบโทรศัพท์ 60 เครื่อง ตรวจพบยาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 2 ถุง พบตัวผู้ต้องหาชาวจีน 4 ราย ตรวจสอบพบว่าพึ่งเดินทางมาจากประเทศกัมพูชา
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมแถลงผลปราบสแกมเมอร์ครั้งใหญ่ ศูนย์ PCT - WARROOM IAC และ MONEY CASH BACK ในวันพรุ่งนี้ (10 พ.ย.) เวลา 10.00 น.
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี