โจรบุกเดี่ยวปล้นร้านทอง ควัก 9 มม.ขู่พนักงาน กวาดทองไปได้ 55 บาท ตำรวจนอกเครื่องแบบพุ่งเข้าชาร์จล๊อคตัวได้ทันควัน

9 พฤศจิกายน 2568 เมื่อเวลาประมาณ 15.25 น. ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน รับแจ้งมีเหตุคนร้ายปล้นร้านทอง ที่ห้างทองเยาวราช เอ็มโกลด์ ภายในห้างโลตัส กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงรีบรายงานให้ พล.ต.ต.ธีรเดช อธิภัคคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พร้อมสั่งการให้ พ.ต.อ.ภคิณ ศิวเมธากุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร รรท.ผกก.สภ.กระทุ่มแบน พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชุมพล ฉัตร์สงวนชัย รอง ผกก.ป.พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ชูบุญเรือง รอง ผกก.สส.พร้อมกำลังตำรวจ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

คนร้ายที่ลงมือก่อเหตุปล้นทองรายนี้ ชื่อนาย สมพงษ์ อยู่สุข อายุ 28 ปี ที่อยู่ ถนนสวัสดิการ 2 เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ติดต่อกันกับที่เกิดเหตุ

       โดยคนร้ายใส่กางเกงขายาวสีดำ เสื้อแขนยาวสีดำ สวมหมวก ใส่แมสปิดบังใบหน้า สะพายกระเป๋าเป้ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ สีเทา หมายเลขทะเบียน 6048 กรุงเทพมหานคร มาจอดไว้ที่หน้าห้างก่อนที่จะรีบเข้ามาในห้าง โดยตรงดิ่งไปที่ร้านทองทันที พร้อมกับชักปืน 9 มม.ที่พกมาสไลด์ขึ้นลำปืน จ่อไปยังพนักงานพร้อมกับส่ายปืนไปมา พนักงานขายในร้านทั้ง 5 คน ต่างวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง ประชาชนที่อยู่หน้าร้านต่างแตกกระเจิงอย่างชุลมุน

จากนั้นคนร้ายได้กระโดดข้ามเคาน์เตอร์ตู้กระจกทุบตู้กระจกที่แขวนทองเส้นใหญ่ๆ อยู่แตก พร้อมกับหยิบทองใส่กระเป๋าไปเป็นจำนวนมาก

หลังจากนั้นคนร้ายได้วิ่งหนีออกไปทางหน้าห้าง เจอเข้ากับตำรวจชุดสืบนอกเครื่องแบบ จ่าเปิ้ล กระทุ่มแบน จ.ส.ต.สุกิจ กล้าสงคราม ที่บังเอิญพาลูกมากินข้าวที่ห้าง พอรู้ว่ามีคนร้ายปล้นร้านทอง จึงวิ่งอ้อมมาดักทางออกไว้เผชิญหน้ากับคนร้าย เมื่อคนร้ายเห็นตำรวจได้พยายามใช้ปืนยิงขี้นฟ้าเพื่อเปิดทาง แต่ปืนยิงไม่ได้เนื่องจากตอนที่หยิบทองออกจากร้านแม็กที่ใส่กระสุนปืนได้หลุดหล่นออกจากปืนตกอยู่ที่หน้าร้านทอง ทางจ่าเปิ้ลจึงได่พุ่งเข้าชาร์จตัวคนร้ายพร้อมกับมีพลเมืองดีช่วยกันจับกุมตัวคนร้าย

จากการสอบถาม นางสาวภัสทรียา ผู้จัดการร้านทอง เล่าว่า ตอนเกิดเหตุมีพนักงานอยู่หน้าเคาน์เตอร์ทั้งหมด 5 คน โดยคนร้ายใช้ปืนจ่อมาพร้อมกับพูดว่า "ส่งทองมาเร็วๆ" พร้อมกับส่ายปืนขู่ แล้วก็กระโดดข้ามเคาน์เตอร์ไปทุบกระจกคว้าสร้อยคอทองคำไป น้ำหนักรวมกัน 55 บาท หากคิดเป็นราคาซื้อขาย ตกอยู่ที่กว่า 3 ล้านบาท ซึ่งพนักงานทุกคนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวคนร้ายไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน พร้อมกับดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป