เจ้าพระยาล้น ‘อ่างทอง-สิงห์บุรี-อยุธยา’อ่วม ‘เขื่อนภูมิพล’ยังไม่ระบายเพิ่ม

เจ้าพระยาล้น ‘อ่างทอง-สิงห์บุรี-อยุธยา’อ่วม ‘เขื่อนภูมิพล’ยังไม่ระบายเพิ่ม

วันศุกร์ ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 20.44 น.

เจ้าพระยาล้น

‘อ่างทอง-สิงห์บุรี-อยุธยา’อ่วม

‘เขื่อนภูมิพล’ยังไม่ระบายเพิ่ม

 

“ภราดร” ชี้เขื่อนภูมิพลยังไม่ระบายน้ำเพิ่ม น้ำเจ้าพระยาจะไม่มากกว่านี้ กรมอุตุฯเตือนยังมีฝนบางพื้นที่ เหนือ-อีสาน อุณหภูมิลด 1-2 องศาฯ GISTDA เผยภาพน้ำท่วม พิษณุโลก-สุโขทัย กว่า 9 หมื่นไร่ ขณะที่จ.อ่างทอง สิงห์บุรี ยังท่วมหนัก ขณะที่กรุงเก่าอ่วมยังวิกฤต 11 อำเภอ จมน้ำนานกว่า 3 เดือน นนทบุรีหญิงชราจมน้ำ สังเวยศพแรก


เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพเขื่อนภูมิพล พร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ยังไม่เต็ม100% แต่เกือบเต็ม!!!! ยังไม่ต้องระบายผ่าน spillway แบบปี 2554 ขณะนี้เขื่อนต้องระบายน้ำออกเพิ่มขึ้น แต่โชคยังดีที่น้ำขาเข้าลดลง คาดว่า หากตอนบนไม่มีฝนเพิ่ม น้ำเขื่อนจะไม่ต้องระบายเพิ่มมากกว่านี้ หมายความบรรทัดสุดท้ายว่า น้ำเจ้าพระยาก็จะไม่มากกว่านี้

ขณะที่กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งประเทศ ว่ามีปริมาณน้ำเก็บกักทั้ง 483 แห่ง 72,065 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 89% มีปริมาณน้ำใช้การ 47,942 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 83% และสามารถรับน้ำได้อีก 4,441 ล้าน ลบ.ม.โดยจุดที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80% เช่น เขื่อนภูมิพล จ.ตาก เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เขื่อนกิ่วลม จ.ลำปาง เขื่อนกิ่วคอหมา จ.ลำปาง เขื่อนแควน้อย จ.พิษณุโลก เขื่อนทับเสลา จ.อุทัยธานี และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.สระบุรี

สำหรับสถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำใน 4 อ่างฯ รวม 24,590 ล้าน ลบ.ม. (99%) ปริมาณน้ำใช้การ 17,894 ล้าน ลบ .ม.(98%) น้ำไหลเข้า 82.15 ล้าน ลบ.ม.ระบายน้ำ 75.79 ล้าน ลบ.ม.

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกทางตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางด้านตะวันออกและภาคตะวันออกตอนบน จะมีอุณหภูมิลดลงเล็กน้อย เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมบริเวณดังกล่าว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล และภาคเหนือ มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคกลางด้านตะวันตก รวม 32 จังหวัด เนื่องจากมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณดังกล่าว

สำหรับภาคใต้ตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบน และห่างฝั่งของทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ขณะเดียวกัน สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA โพสต์ภาพ พร้อมข้อความว่า จากถ่ายจากดาวเทียมรายละเอียดสูง THEOS-1 แสดงให้เห็นพื้นที่น้ำท่วมขังในบริเวณทุ่งรับน้ำบางระกำ และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งสิ้น 94,800 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของ 3 อำเภอใน จ.พิษณุโลก ได้แก่ อ.บางระกำ อ.พรหมพิราม และ อ.เมือง รวม 59,170 ไร่ และอีก 1 อำเภอใน จ.สุโขทัย ได้แก่ อ.กงไกรลาศ ท่วมขังกว่า 35,630 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม

การติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขังของ GISTDA ได้วางแผนและปรับการรับสัญญาณดาวเทียม เพื่อวิเคราะห์ ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถตรวจสอบพื้นที่อื่นๆ พร้อมรายงานสรุปพื้นที่น้ำท่วมได้ที่ https://disaster.gistda.or.th

ที่ จ.สิงห์บุรี สถานการณ์น้ำในพื้นที่ อ.อินทร์บุรี น้ำยังท่วมหนัก โดยเทศบาล ต.ทับยา ได้ออกประกาศเตือนภัยให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน โดยขอให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูง ภายหลังน้ำทะลักท่วมถนนริมคลงอบรมธาตุอย่างรวดเร็ว และกำลังไหลบ่าลงสู่ทุ่งในพื้นที่ ส่วนสะพานอินทร์บุรี น้ำท่วมถึงคอสะพานแล้ว รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้

ส่วนที่ จ.อ่างทอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่ 1 ต.จระเข้ร้อง อ.ไชโย น้ำยังไหลท่วมชุมชนในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งนายอดิศัก งามรุ่งโรจน์ กำนัน ต.จระเข้ร้อง กล่าวว่า หลังจากน้ำเจ้าพระยาไหลลอดเข้าด้านในชุมชน ทางเทศบาล ต.ไชโย ได้เร่งขนหินคลุกมาเทพร้อมกับบดอัด เพื่อกั้นมวลน้ำที่รั่วซึม ส่วนบริเวณหน้าศาลากลาง จ.อ่างทอง ระดับน้ำสูง 9.55 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 8 เมตร จากระดับตลิ่งที่มีเขื่อนกั้นน้ำ 10 เมตร ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,626 ลบ.ม./วินาที

ขณะเดียวกัน จ.พระนครศรีอยุธยา สถานการณ์น้ำ ยังอยู่ในระดับวิกฤต ภายหลังเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ยังคงระบายน้ำในอัตรา 2,900 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และคลองสาขา เพิ่มสูง และกระทบทั้งต่อคน สัตว์เลี้ยง พื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่การเกษตร โดยภาพรวมมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ รวม 11 อำเภอ 143 ตำบล 947 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 62,348 ครัวเรือน มี ผู้เสียชีวิต 15 ราย ได้แก่ อ.เสนา อ.ผักไห่ อ.บางบาล อ.บางไทร อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน อ.บางปะหัน อ.บางซ้าย อ.บ้านแพรก อ.ลาดบัวหลวง และ อ.มหาราช

ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ หมู่ 8 ต.น้ำเต้า อ.บางบาล หลังจากถูกน้ำท่วมนานกว่า 3 เดือน มีบ้านเรือนประชาชนแช่อยู่ในน้ำ รวมถึงคอกวัวคอกควายถูกน้ำท่วม ได้รับผลกระทบ ต้องย้ายมาอาศัยอยู่ริมถนน โดย

นายไพบูรณ์ ยิ่งชิด อายุ 74 ปี ชาวบ้านที่เลี้ยงควาย เปิดเผยว่า ได้แต่ปล่อยให้ควายไปหาหญ้ากินตามริมถนน ซึ่งก็มีหญ้าน้อยเพราะทุ่งนาถูกน้ำท่วมหมด ฟางแห้งควายก็ไม่ค่อยกิน ขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก และต้องคอยเฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอด ยังดีที่มีปศุสัตว์ในพื้นที่ คอยนำยา และวัคซีนมาให้

ที่ จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบหญิงชราจมน้ำเสียชีวิต ภายในห้องพัก เลขที่ 127/1 หมู่ 6 ซอยพระนคร 5 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ภายหลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี รับแจ้ง จึงเข้าตรวจสอบ โดยพบร่างนางประไพ อายุ 85 ปี สภาพนอนคว่ำจมน้ำเสียชีวิตในห้องพัก โดยสวมเสื้อเชิ้ตลายดอก กางเกงขาสั้นสีดำ ข้อเท้ายังพาดอยู่กับแผ่นไม้กระดานของบ้าน

สอบสวนชาวบ้านในชุมชนที่เกิดเหตุ ระบุว่า ผู้เสียชีวิตอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว ส่วนบุตรสาวออกไปทำงาน หลานชายวัย 12 ไปโรงเรียนวัดนครอินทร์ หลังจากหลานชายกลับจากโรงเรียน เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป จึงพบว่ายายนอนคว่ำหน้า จมน้ำเสียชีวิตแล้ว จึงวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือ โดยพลเมืองดีเข้าไปดูในที่เกิดเหตุ ครั้งแรกเข้าใจว่าถูกไฟฟ้าชอต แต่ภายหลังจึงรู้ว่าไม่ใช่สาเหตุ แต่อาจเป็นอุบัติเหตุลื่นล้ม เนื่องจากผู้เสียชีวิตมีอายุมาก ประกอบกับช่วงเกิดเหตุไม่มีใครพบเห็น หรือช่วยเหลือได้ทัน

นางวิรสุดา อายุ 48 ปี บุตรสาวผู้เสียชีวิต ให้การว่า ครอบครัวพักอาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน ซึ่งแม่ของตนมีโรคประจำตัวเรื่องความดัน เบาหวาน และอัมพฤกษ์ซีกขวา ทำให้เดินไม่ค่อยสะดวก ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุง ก่อนหน้านี้ในบ้านถูกน้ำท่วมแต่ไม่มาก กระทั่งช่วงเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา น้ำทะเลหนุนสูง ทำให้พื้นห้องถูกน้ำท่วมไปด้วย เชื่อว่าหากน้ำไม่ท่วมเข้าบ้าน แม่ตนคงไม่เสียชีวิตจากการจมน้ำดังกล่าวเพราะถ้าลื่นล้มก็คงร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านได้

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top