วันจันทร์ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
อยุธยาดับ19ศพ  เซ่นน้ำท่วม-เตือนรับมือหนาว

อยุธยาดับ19ศพ เซ่นน้ำท่วม-เตือนรับมือหนาว

วันจันทร์ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : กรมอุตุฯเตือน รับมือหนาว อยุธยาดับ19ศพ
  •  

กรมอุตุฯเตือน 17-23 พฤศจิกายน อากาศแปรปรวน มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนไทยตอนบน อุณหภูมิลดฮวบ 7 องศาฯ ด้าน “สุชาติ” จี้กรมทรัพยากรน้ำ เร่งช่วยผู้ประสบภัยภาคกลางตอนบน ขณะที่ จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมอ่วม ยอดดับพุ่ง 19 ศพ ชุมชนริมน้ำที่จ.อุทัยธานี ท่วมขังจนน้ำเริ่มเน่าเทศบาลฯ เร่งสูบน้ำออก

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 17-23 พฤศจิกายน 2568) ฉบับที่ 3 (342/2568) ระบุว่าช่วงวันที่ 17–23 พฤศจิกายน 2568 ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศแปรปรวน โดยจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในระยะแรกโดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป จากนั้นอุณหภูมิจะลดลง และมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 4-7 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกทม.และปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาฯ


ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้

สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขณะที่ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร

ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งช่วงวันที่ 19-23 พฤศจิกายน 2568

ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งการให้เร่งช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมภาคกลางตอนบน ตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกุลนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

ส่วนนายธีระชุณ บุญสิทธิ์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เปิดเผยว่า ได้เร่งดำเนินการตามข้อสั่งการของนายสุชาติ ภายใต้แนวคิด “ทส.หนึ่งเดียว” บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำช่วยเหลือประชาชนด่วนที่สุด โดยมอบหมายให้นายโอภาส ถาวร รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ลงพื้นที่ จ.อ่างทอง และสิงห์บุรี ติดตามสถานการณ์และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมที่อยู่อาศัยและพื้นที่การเกษตร ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำ โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 2 (สทน.2) ซึ่งรับผิดชอบหลักในพื้นที่ มีการระดมบุคลากร เครื่องสูบน้ำ เครื่อง รถบรรทุกน้ำ และสรรพกำลังอื่นๆ ลงไปปฏิบัติงาน

พร้อมกันนั้น ได้เสริมกำลังจาก สทน.1, 3, 5, 6 และ 9 ตามคำสั่งของนายสุชาติ เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วครอบคลุมทุกจุดวิกฤติ โดยกรมทรัพยากรน้ำ สำนักงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม จ.อ่างทอง-สิงห์บุรี และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และหน่วยงานในพื้นที่ ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องจักร และสนับสนุนภารกิจต่อเนื่องกว่า 45 วัน สามารถเร่งระบายน้ำรวม 6.85 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ช่วยเหลือประชาชนแล้วกว่า 8,000 ครัวเรือน ประมาณ 24,000 คน ดูแลพื้นที่เกษตรได้รับผลกระทบ 5,266 ไร่ และแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคกว่า 1,500 ขวด

สำหรับภารกิจช่วยเหลือประชาชนเร่งด่วนครั้งนี้ กรมทรัพยากรน้ำ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 12, 16 24และ 30 นิ้ว กว่า 30 เครื่อง ในจุดวิกฤตพื้นที่ จ.อ่างทองสิงห์บุรี ปทุมธานีและพื้นที่ จ.สระบุรีสุพรรณบุรีนครสวรรค์เพชรบูรณ์นครราชสีมาจันทบุรีฉะเชิงเทรา และสระแก้ว พร้อมเดินเครื่องสูบน้ำ 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องพร้อมบูรณาการทุกภาคส่วน เดินหน้าสูบน้ำระบายออก เพื่อช่วยเหลือประชาชนจนกว่าน้ำจะลดครบทุกพื้นที่และกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา สถานการณ์น้ำในพื้นที่ยังคงท่วมสูง หลังจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ระบายน้ำในอัตรา 2,800 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย มีปริมาณสูง ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พระนครศรีอยุธยา รายงานว่ามีพื้นที่น้ำท่วม 11 อำเภอ 136 ตำบล 899 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 62,450 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 19 ราย

ส่วนที่ชุมชน ต.บ้านแป้ง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งติดกับแม่น้ำน้อย รับมวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ถูกน้ำท่วมนานกว่า 3 เดือน พบว่าสภาพบ้านเรือนยังแช่น้ำ โดยการเข้าออกบ้านเรือนเป็นไปอย่างยากลำบาก ต้องใช้เรือในการสัญจร บางบ้านมีรถแต่นำมาใช้งานไม่ได้ เนื่องจากน้ำท่วมสูง ใช้ได้เพียงเรือ หรืออาศัยเพื่อนบ้านในการเดินทางเข้าออกด้วยความจำเป็นที่ต้องหาซื้อสิ่งของเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน

น.ส.ศิริพร ภูธเรศ อายุ 55 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวเปิดเผยว่า น้ำท่วมมานาน 3 เดือนแล้ว ความเป็นอยู่ลำบากมาก การเดินทางต้องพายเรือเข้าออก พอเจอที่ดอนก็ต้องลุยน้ำลากเรือข้ามไป เพื่อพายต่อ แม้ว่าที่บ้านจะมีจักรยานยนต์ก็ใช้งานไม่ได้ ไม่คิดว่าน้ำจะท่วมรอบ 3 น้ำขึ้นคราวนี้ไม่สามารถนำรถออกมาได้ สำหรับการใช้งาน ‘คนละครึ่ง’ก็แทบไม่ได้ใช้ เพราะไม่ได้เดินทางออกจากบ้านทุกวัน จะอาศัยเพื่อนบ้านเขาก็ไม่ได้ออกจากบ้านทุกวัน โดยหลายๆบ้าน ก็ถูกน้ำท่วม

“ปีนี้แม้ว่าน้ำจะไม่ท่วมเยอะมาก แต่ว่าท่วมนานมาก ช่วงที่น้ำท่วมครั้งก่อนเราขนของลงมาแล้ว แต่กลับมีน้ำท่วมอีก รอบที่ 3 เรียกว่าเยอะและน้ำไม่ลดลงเลย เลี้ยงบ่อปลาคราฟไว้ ตอนนี้ก็ตายหมดแล้ว เงินเยียวยา 9,000 บาทที่ได้รับมาก็ไม่คุ้ม น้ำท่วมอย่างนี้ก็น้องๆปี 2554 จึงอยากให้น้ำลดลงเร็วกว่านี้ เพราะตอนนี้ลำบากมาก เลี้ยงสัตว์ก็ต้องเอาไว้บนบ้าน เพราะไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน” น.ส.ศิริพร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา น.ส.ยู อายุ 15 ปี ซึ่งไปตกปลาที่ประตูระบายน้ำคลองขนมจีน ต.สามกอ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ประสบอุบัติเหตุลื่นจนพลัดตกน้ำ และถูกกระแสน้ำพาร่างจมหายไปต่อหน้าต่อตานายพิจิตร ยาย้อ อายุ 43 ปี ผู้เป็นพ่อ จนต้องเร่งประสานชลประทานฯ ขอปิดประตูระบายน้ำ เพื่อให้นักประดาน้ำหน่วยกู้ภัย งมหาร่างนานกว่า 1 ชั่วโมงจึงพบร่าง

ด้านชาวบ้านในชุมชนเขตเทศบาลเมือง จ.อุทัยธานี ยังคงใช้ชีวิตประจำวันด้วยความยากลำบาก หลายหลังคาเรือนยังต้องใช้เรือพายในการเดินทางเข้าออกบ้านหรือไปทำธุระ ซื้อหาอาหาร ส่งลูกหลานไปโรงเรียน รวมทั้งไปทำงาน หลังจากน้ำในแม่น้ำสะแกกรังเอ่อเข้าท่วมช่วงเกือบ2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีระดับน้ำท่วมขังในชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ เช่น ชุมชนย่านวัดธรรมโสภิต ชุมชนคลองลึก ชุมชนท่าแร่ ระดับน้ำท่วม 50-100 เซนติเมตร บางจุดน้ำไม่ถ่ายเท ทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย

ปัจจุบันระดับน้ำลดลงบ้างเล็กน้อย แต่สีของน้ำที่ท่วมขังเริ่มขุ่นดำ เน่าเสีย มีคราบไขมันลอยตามผิวน้ำ ส่งกลิ่นเหม็นซ้ำเติมการใช้ชีวิตของชาวบ้านให้ยากลำบากมากยิ่งขึ้น ขณะที่เทศบาลฯ พยายามใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่หลายเครื่อง สูบน้ำออกตลอดแนวลงสู่แม่น้ำสะแกกรัง เพื่อบรรเทาปัญหาแล้ว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน' ประจำวันจันทร์ 17 พฤศจิกายน 2568

กทม.ไม่รอด! ฝนฟ้าคะนอง30% พร้อมลมกระโชกแรง ก่อนเข้าสู่ช่วงอากาศเย็น

ย้ำ‘ทรัมป์’ไม่ใช้ ‘ปฏิญญา’เป็นเงื่อนไขถกภาษี ‘อนุทิน’คุย‘อันวาร์’ ขอให้ไทยลุยเก็บกู้ระเบิด พณ.พร้อมเดินหน้าเจรจา

อยุธยาดับ19ศพ เซ่นน้ำท่วม-เตือนรับมือหนาว

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved