เสียงจาก‘บุรีรัมย์’ฝากถึงอนุทิน ‘เขมร’คบไม่ได้ อย่าลง‘ปฏิญญา’อะไรอีก

17 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์ เดินทางลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณ ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ติดกับจุดผ่อนปรนการค้าชายแดน “ช่องสายตะกู” กับช่องจุ๊บโกกี อ.บันเตียอัมปึล จ.อุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา ถึงกรณีที่นาย อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่ได้มีการสั่งการให้ พล.อ. โมห์ด นิซาม บิน จัฟฟาร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย เริ่มต้นการเจรจาสันติภาพรอบใหม่ เพื่อฟื้นการพูดคุยระหว่าง ประเทศไทยและกัมพูชา อีกครั้ง หลังความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศ อีกรอบนั้น

ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่อยากให้ต้องมีการเจรจาตกลงพูดคุย หรือต้องลงนามทำปฏิญญาอะไรกันอีก โดยระบุว่า ทั้งไทยและกัมพูชา ได้มีการพูดคุยหารือ และทำข้อตกลงกันมากี่ครั้งแล้ว ก็ยังไม่เห็นว่าจะมีสันติภาพเกิดขึ้นสักครั้ง โดยเฉพาะฝ่ายกัมพูชา ที่ไม่เคยมีการปฏิบัติทำตามกฎข้อตกลงที่ได้ทำร่วมกันของทั้งสองประเทศ โดยอยากให้รัฐบาลรีบดำเนินการจัดการแก้ไข ปัญหาข้อพิพาทแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ให้จบสิ้นโดยเร็ววัน หากไม่เช่นนั้นก็จะเป็นปัญหายืดเยื้อไปอีกไม่รู้จักจบสิ้น

นางญาติ ไผ่งาม อายุ 61 ปี ชาวบ้าน ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บอกว่า ไม่อยากให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ไปทำข้อตกลงหรือทำสัญญาและคุยเจรจากันอีกแล้ว เพราะว่าคุยกันหลายครั้งแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรดีขึ้นเลย แต่อยากให้รัฐบาลและทหาร ดำเนินการให้จบโดยเร็ว หากไม่ดำเนินการให้จบสิ้น มันก็จะยื้อกันอยู่แบบนี้อีกร้อยวันพันปีก็เป็นเช่นนี้ เพราะว่าเขมรมันไม่เคยยึดถือ หรือปฏิบัติตามกฎกติกาข้อตกลงเลยสักครั้ง จะให้แต่ฝ่ายไทยปฏิบัติตามแต่ฝ่ายเดียวมันคงไม่ถูกต้อง มันข้อตกลงปฏิญญาแบบไหน ถึงยังปล่อยให้เขมรเข้ามาก่อกวน ลอบวางทุ่นระเบิดทำร้ายทหารไทยให้ได้รับบาดเจ็บทำไม เขมรวันนี้พูดอย่างพอพรุ่งนี้ก็พูดอย่าง

เมื่อถามว่า ถ้าหากว่าจะต้องมีการไปลงนามทำสัญญาข้อตกลงอะไรกับทางกัมพูชาอีก ในฐานะชาวบ้านแนวชายแดนอยากจะให้มีการตกลงอะไรกันอีกหรือไม่ นางญาติ บอกว่า ก็ไม่อยากให้ไปหรอก ตกลงไปก็เหมือนเดิมอยู่นั่นแหละหมดปี คุยไม่เคยจะเห็นรู้เรื่องกันสักที อยากให้จัดการให้เด็ดขาดไปเลย ซึ่งตอนนี้พวกตนชาวบ้านก็เตรียมพร้อม ทั้งเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ไว้พร้อมสำหรับการอพยพแล้ว หากมีสถานการณ์เกิดขึ้น

ด้าน นายเหลือ ดิบประโคน อายุ 83 ปี ชาวบ้าน ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บอกว่า ตอนนี้ไม่อยากให้นายกอนุทิน ไปทำสัญญาข้อตกลงอะไรกับกัมพูชาอีกแล้ว ตกลงไปก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรดีขึ้นมา ยิ่งแต่จะทำให้ชาวบ้านแนวชายแดนวิตกกังวล ยุ่งยากไม่จบไม่สิ้นสักที