โครมเดียวพังยับ! ‘เรือหัวลาก’ เสียหลักชนบ้านริมน้ำเกาะเกร็ด เสียหาย 3 หลัง

วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 เกิดเหตุการณ์เรือหัวลากสำหรับลากจูงเรือบรรทุกทรายพุ่งชนบ้านเรือนประชาชนริมน้ำที่ หมู่ 5 ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี อย่างรุนแรง สร้างความเสียหายอย่างหนัก

โดยบ้านเรือนที่ตั้งอยู่บริเวณโค้งน้ำตรงข้ามวัดสาลีโข ซึ่งอยู่ติดกัน 3 หลัง ได้รับความเสียหายอย่างหนักถึงขั้นพังถล่มลงไปในน้ำทั้งหลัง บ้านที่ได้รับความเสียหายคือบ้านของ นางอำภา อายุ 86 ปี, นายไพรัช อายุ 66 ปี และบ้านของ น.ส.สมพร อายุ 68 ปี นอกจากนี้ยังส่งผลให้เสาไฟฟ้าชำรุดหักลง 1 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับในบางพื้นที่ของหมู่ 5 และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย

นายสาคร อายุ 30 ปี คนขับเรือลากจูง ให้การรับสารภาพและชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ว่า พวงมาลัยเรือเกิดขัดข้อง ทำให้ไม่สามารถควบคุมทิศทางของเรือได้ โดยยืนยันว่าไม่ได้เสพสารเสพติดและไม่ได้หลับในขณะเกิดเหตุ

ด้าน นายไพรัช หนึ่งในเจ้าของบ้านที่เสียหาย เล่าว่า ขณะเกิดเหตุเวลาตี 1 ตนและคนในบ้านกำลังหลับ เมื่อได้ยินเสียงโครมครามก็ลุกขึ้นมาดูและพบว่าน้ำเข้าท่วมบ้านสูงถึงระดับหน้าอก สภาพบ้านพังหมด ตนต้องหนีออกมาทางหน้าต่างอย่างทุลักทุเล เนื่องจากสายตาไม่ดี

นายไพรัช เผยด้วยความเสียใจว่า บ้านหลังนี้เพิ่งจะทำใหม่ในราคาประมาณ 7-8 ล้านบาท แต่เสียหายทั้งหมด เครื่องใช้ในบ้านจมน้ำจนไม่สามารถเอาออกมาได้เลย ตนเคยเกิดเหตุเรือชนบ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้เสียหายหนักที่สุด นายไพรัชได้พูดคุยกับคนขับเรือซึ่งรับปากจะรับผิดชอบ แต่ก็ยังกังวลว่าหากบริษัทไม่รับผิดชอบ คนขับเรือจะนำเงินมาจากไหน

ต่อมา เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างเป็นทางการ โดยคนขับเรือได้ไปที่ สภ.ปากเกร็ด เบื้องต้นถูกแจ้งข้อกล่าวหา ขับขี่เรือโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินเสียหาย ส่วนทางด้านกรมเจ้าท่าต้องรอตรวจสอบสาเหตุและข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อนว่าเกิดความผิดพลาดอย่างไร ถึงจะระบุความผิดถึงขั้นต้องพิจารณา เพิกถอนใบอนุญาตขับเรือหรือไม่

////-026