เปิดใจครั้งแรก! ‘ผบ.ตร.’ออกโรงโต้หลังตำรวจตกเป็นหลุมระเบิด ลั่น‘ผมไม่ใช่ลิเก’

เปิดใจครั้งแรก! ‘ผบ.ตร.’ออกโรงโต้หลังตำรวจตกเป็นหลุมระเบิด ลั่น‘ผมไม่ใช่ลิเก’

วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 16.54 น.

‘ผบ.ตร.’เปิดใจครั้งแรก!หลังตำรวจตกเป็นหลุมระเบิด ลั่น‘ผมไม่ใช่ลิเก’ ย้อนถามยืนปฏิญาณตนผิดอะไร ไม่เห็นด้วย‘กมธ.’ถ่ายทอดสด แต่ไม่พูดดีกว่า พร้อมเดินหน้าปราบโกง ปัดเรียกรับผลประโยชน์แต่งตั้งตำรวจ ชี้ใครทำผิดมีหลักฐานจัดการถึงที่สุด

18 พฤศจิกายน 2568 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวเปิดใจครั้งแรกหลังช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีภาคสังคม ภาคประชาชนหลายส่วนโจมตีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนเป็นเหมือนหลุมระเบิด ว่า ต้องยอมรับว่าเราทำงานใกล้ชิดกับกฎหมาย เรามีอำนาจหน้าที่บังคับใช้กฎหมายแน่นอนว่าอาจจะไปกระทบกระทั่งกับคนที่ไม่เห็นด้วยหรือเห็นต่างหรือกระทำผิด


ทั้งนี้ อาจมีคนใช้โอกาสนี้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่ได้แจกแจงรายละเอียด ยิ่งโจมตีจนทำให้ประชาชนผู้ฟังเชื่อไปตามนั้นโดยที่ประชาชนไม่ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และตัดสินไปแล้วว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ดี

ส่วนที่มีบุคคลมากล่าวหาว่าตนมีคำพูด การกระทำเหมือนพระเอกลิเก ที่แสดงต่อประชาชน เรื่องนี้ตนเป็นตำรวจ พ่อเป็นตำรวจ ทุกวันนี้ก็ยังเป็นตำรวจ ถ้าจำความได้ตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยเล่นลิเก เล่นไม่เป็น ลิเกมีบทละครให้ผู้แสดงและให้ความสุขกับพี่น้องประชาชนที่มานั่งดู การเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเราใช้สมองในการทำงาน สั่งกำชับให้หน่วยปฏิบัติภายใน ทำในสิ่งที่ดี ที่ชอบ ที่ควร ตามกฎหมายและต้องดูแลพี่น้องประชาชน ตนไม่ใช่ตัวละครลิเก ไม่ใช่ผู้กำกับหนัง

ผบ.ตร. ระบุว่า บางคนที่คิดว่าตนเองกำลังเล่นลิเก หรือเล่นหนังอยู่ ขอถามว่าตัวคนพูดเองเป็นลิเกอยู่หรือเปล่า ผมยืนยันว่าทุกวินาทีผมคิดแต่เรื่องที่จะทำให้องค์กรดีขึ้น หากเจอหลุมระเบิดก็จะต้องพยายามทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเราเป็นหน่วยงานที่ยืนยันอย่างมั่นคงและต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ดีให้ได้

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ส่วนที่หลายคนออกมาวิจารณ์ภาพตำรวจยืนปฏิญาณอุดมคติตำรวจหน้าเสาธงว่าเป็นการแก้ภาพลักษณ์ตำรวจที่ไม่ถูกจุด ตนเคยให้นโยบายปรับทัศนคติไปแล้วให้ตำรวจตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน ฉะนั้นการที่พวกเขาออกมายืนพูดข้อปฏิบัติมันผิดอย่างไรส่วนตนกลับสนับสนุน เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ใครสั่งการ แต่อยู่ที่การกระทำ ซึ่งตำรวจที่ออกมาทำพวกเขาก็ไม่ได้ผิดอะไร

"มีการโจมตีกันว่าเล่นลิเกหลอกกันไปวันๆ ตำรวจทำผิดเหรอครับ ท่องอุดมคติจะสั่งหรือไม่สั่ง มันไม่ใช่ประเด็นเลยครับ ผมเปรียบเทียบให้ฟังนะ เด็กนักเรียน ยังท่องสูตรคูณ ก ถึง ฮ ทุกวัน ศัพท์ยังต้องท่องเลย"

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ท่องมันจะเข้ามาในจิตสำนึก คือมายด์เซ็ท ก็จะรับรู้เองว่าถ้าท่องแล้วไม่ทำก็จะอาย ในหิริโอตัปปะ อยากให้มีธรรมเสียบ้าง รู้ผิดรู้ชอบบ้าง อะไรดีไม่ดี อะไรผิด รู้บ้างเถอะ ถ้าไม่รู้ก็จะยังถลำลึกลงสู่ความครอบงำของสิ่งไม่ดีไม่งาม

ทั้งนี้ เรื่องที่มีบุคคลระบบว่าองค์กรตำรวจเป็นองค์กรอาชญากรรม ตนหวังว่าตำรวจที่ทำงานอยู่ก็คงจะรู้สึกไม่ดี หลายหน่วยจึงต้องออกมาปฏิญาณตนออกมายืนยันตนเอง แต่ข้าราชการตำรวจคนใดที่มีพฤติกรรมแอบแฝงอยู่ถ้าใครมีข้อเท็จจริงหรือหลักฐานปรากฏตนก็จะต้องดำเนินการถึงที่สุด

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าตำรวจภูธรภาค 8 (บช.ภ.8) เรียกรับผลประโยชน์จากการแต่งตั้ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวยืนยันว่า เรื่องรับผลประโยชน์ ปูอย่ากินเลือดปูอย่าเอาผลประโยชน์ที่เราจับกุมมาใช้กับตนเอง ตำรวจคนไหนเรียกรับเงินจากการแต่งตั้งตนพูดได้เลยว่าเป็นเรื่องที่โง่สุดๆ เพราะตัวเองกำชับมาตลอดว่าห้ามปฏิบัติอย่างนั้นเด็ดขาดไม่เช่นนั้นจะมีการลงโทษหนัก

“ผมได้สอบถามโดยตรงกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และรองผู้บัญชาการฯ ทั้งหมดยืนยันว่าไม่เป็นความจริง การที่เรียกมาไม่ได้หมายความว่าทำผิดแต่เรียกมาสืบทราบความจริง ตนได้กำชับแล้วว่าทุกคนต้องให้สัจจะวาจาให้คำมั่น ว่าจะไม่ทำเรื่องเหล่านี้เพราะว่าเป็นเรื่องเสื่อมเสียชั่วร้าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ว่าใครก็ตาม หรือแม้จะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นตนเองจะไม่มีการไว้หน้ากัน ประเด็นนี้ตนอยากฝากบอกว่า ใครที่พูดอย่าคิดว่าตัวเองทำ คนอื่นก็จะต้องทำ อย่าไปจินตนาการแบบนั้น แน่นอนว่าถ้าตำรวจคนไหนเคยทำก็จะรู้ขั้นตอน ตนไม่รู้ขั้นตอนเพราะตนไม่เคยทำในลักษณะใดๆ และตนเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ถ้าผู้บัญชาการภูธรภาค 8 คนปัจจุบันทำ แน่นอนว่าก็คงจะต้องโง่สุดๆเพราะตนก็ต้องมีหูเมตตา

ส่วนผู้ใต้บังคับบัญชาจะโกหกหรือไม่พูดความจริง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยืนยันว่าจะไม่มีการละเว้นให้ใคร แม้แต่คนที่เป็นเพื่อนตัวเอง การที่จะตนจะลงโทษ ข้าราชการตามโซเชียลเป็นไปไม่ได้ เราต้องหนักแน่นในหลักการ พร้อมยืนยันว่าผู้บัญชาการภาค 8 จะยังอยู่ที่เดิมไม่มีการโยกย้ายตามกระแสข่าว

ในประเด็นเรื่องการแต่งตั้งส่วนที่มีผู้กล่าวหาว่า พล.ต.อ. พล.ต.ท. และ ภรรยาน้อย ของ ก.ตร. บางท่าน เรียกรับผลประโยชน์ ในวาระที่จะถึงนี้ ผบ.ตร. กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการกล่าวหา หากใครมีพยานหลักฐานให้นำมาแสดง หากเผยแพร่ไปลอยๆคนก็จะเชื่อโดยไม่ได้รับทราบข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตามขอให้ผู้ที่ให้ข้อมูลนำหลักฐานมาแสดง

ผบ.ตร. กล่าวว่า เรื่องตำรวจกว่า 200 นายที่อาจจะข้องเกี่ยวกับเว็บพนันที่มีอดีต ผบ.ตร. อาจเข้าไปเกี่ยวข้อง เรื่องดังกล่าวอยู่ในคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) หน่วยงานที่เกิดขึ้นใหม่ตามพระราชบัญญัติตำรวจ ไม่ได้เกี่ยวกับตำรวจ ฉะนั้นเรื่องต่างๆที่เข้าไปในก.ร.ตร. จะไม่เกี่ยวกับผบ.ตร. แต่หากผลสอบสวนแล้วเสร็จ ตร. จะนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาโทษทัณฑ์

ส่วนการที่ผบ.ตร.ออกมาแถลงข่าววันนี้หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดกระแสสังคมมากว่า 2 สัปดาห์ จะช้าไปหรือไม่จนทำให้สังคมสับสนและอาจยากต่อการสร้างความเชื่อมั่นให้องค์กรแล้ว ผบ.ตร. ระบุว่า การชี้แจงไม่ได้เร็วหรือช้า รวมทั้งความเชื่อแต่ละคนไม่สามารถบังคับกันได้ การที่ออกมาชี้แจงวันนี้เป็นการคลายข้อสงสัยอย่างมุ่งมั่นของตนในฐานะหัวหน้าหน่วย

ส่วนที่คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร จะเชิญผบ.ตร. ให้ชี้แจงวันที่ 26 พ.ย. หากตนเองไม่ติดภารกิจจะไปด้วยตนเองแต่หากติดภารกิจจะมอบหมาย แต่อยากฝากถึงทั้งองค์ประชุมกรรมาธิการ และตำรวจที่ไปชี้แจง ทำหน้าที่ได้ดีแล้ว แต่จุดประสงค์ที่เชิญคือการประชุมฉะนั้นเรื่องการเผยแพร่หรือถ่ายทอดสด ตนไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ แต่สิ่งที่พูดในที่ประชุมค่อนข้างเหม่ข้อกฎหมาย เนื่องจากบางเรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรม

ส่วนเรื่องที่มีภาพ รอง ผบ.ตร. ถ่ายรูปกับผู้ต้องหาคดีเว็บพนัน และอื่นๆ เรื่องนี้ไม่ได้เข้าข้างใคร แต่ตนมองว่าตำรวจเป็นคนสาธารณะไม่ทราบว่าใครร้าย หรือ ดี พร้อมย้อนถามว่าถ่ายภาพคู่กันเฉยๆ ผิดหรือไม่ หากจะผิดมองว่าต้องมีพฤติกรรมอะไรที่แสดงถึงการเกื้อหนุน มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง มีการกินเลี้ยง มีการต่อยอดใกล้ชิดกันบ่อย สิ่งนั้นถึงจะเรียกว่าผิด

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top