‘ชาวนา’แถวชายแดนแห่ต่อคิวดีลรถเร่งเกี่ยวข้าว หวั่นปะทะไทย-เขมรอีกรอบ

‘ชาวนา’แถวชายแดนแห่ต่อคิวดีลรถเร่งเกี่ยวข้าว หวั่นปะทะไทย-เขมรอีกรอบ

วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 19.05 น.

‘ชาวนา’แถวชายแดนแห่ต่อคิวดีลรถเร่งเกี่ยวข้าว หวั่นปะทะไทย-เขมรอีกรอบ

18 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์ รายงานว่า มีชาวนาหลายรายจากหมู่บ้าน และตำบลต่างๆ ซึ่งอยู่ในพื้นที่รอยติดต่อ และใกล้กับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ต่างเดินทางมาติดต่อกับเจ้าของรถเกี่ยวข้าว เพื่อขอต่อคิวรถเกี่ยวให้ไปลงเกี่ยวข้าวในแปลงนาของตนเอง ที่สุกงอมได้ที่แล้ว โดยชาวนาหลายรายต่างเร่งเก็งเก็บเกี่ยวข้าวพร้อมๆกัน


ทั้งนี้ เนื่องจากข้าวที่ออกรวงสุกพร้อมๆกัน ประกอบกับชาวนาในพื้นที่แนวชายแดน ยังวิตกเกรงจะมีฝนตกลงมาอีก รวมถึงความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกรงว่าอาจจะมีเหตุการณ์ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง จึงจำเป็นต้องรีบเกี่ยวข้าวออกจากนาให้เสร็จโดยเร็ววัน หากปล่อยทิ้งไว้ข้าวก็จะแห้งกรอบ หรือจมน้ำเสียหาย และหากมีเหตุการณ์ชายแดนเกิดขึ้น ก็ไม่สามารถลงไปเกี่ยวข้าวได้

นายชีวพัฒน์ ตันศรี อายุ 55 ปี ชาวนา อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นชาวนาที่รอต่อคิวรถเกี่ยวข้าว บอกว่าช่วงนี้ชาวนาทุกคนต่างเร่งเก็บเกี่ยวเพราะไหนจะกลัวฝนที่จะตกลงมา และอีกอย่างคือปัญหาชายแดนที่ยังไม่นิ่ง ทำให้ชาวบ้านยังคงวิตกหวาดกลัวหากเกิดการปะทะกันอีกรอบ จึงทำให้ตอนนี้รถเกี่ยวข้าวในพื้นที่มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวนา หลายคนต้องรอคิวรถเกี่ยวกันนาน รถเกี่ยวก็หายากด้วย เพราะนอกจากปัญหาดังกล่าวแล้ว ข้าวก็ยังออกรวงสุกพร้อมกันด้วย ซึ่งที่หมู่บ้านของตนมีรถเกี่ยวเพียงคันเดียว จึงต้องรอคิวกันนาน

เช่นในวันนี้ตนก็เดินทางมารอต่อคิวรถเกี่ยวเช่นเดียวกัน เพื่อจะได้เร่งรีบเกี่ยวข้าวนำไปขาย เพราะช่วงนี้ข้าวกำลังราคาดี โดยทางโรงสีรับซื้อข้าวสดอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 12-13 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ดีกว่าปีก่อนหน้านี้ ซึ่งหากเกี่ยวเสร็จแล้วก็จะตากไว้กินสัก 1-2 ตัน ส่วนที่เหลือก็จะนำไปขาย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายการทำนา ไว้ใช่ในครอบครัว และเผื่อไว้ใช้หากเกิดสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนอีก

นายสมควร โชติศรี อายุ 53 ปี ชาวนา อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ชาวนาอีกรายที่มารอต่อคิวรถเกี่ยวข้าว บอกว่าตั้งใจมารอคิวรถเกี่ยวข้าว เพราะรถเกี่ยวในพื้นที่มีน้อย ประกอบกับช่วงนี้ข้าวก็สุกพร้อมๆกัน และยังฝนตกลง รวมถึงไม่มีความมั่นใจในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ชาวนาทุกคนจึงต่างเร่งรีบเก็บเกี่ยวข้าวในทีเดียวพร้อมๆกัน จึงทำให้รถเกี่ยวไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวนา ที่ต้องการอยากจะรีบเก็บเกี่ยวข้าวออกจากนาให้เสร็จในเร็ววัน ซึ่งได้ตั้งมาจ่อรอคิวเอาไปเกี่ยวข้าวในนาของตนเองต่อเลยทันที ซึ่งมีหลายคนรอคิวรถเกี่ยว บางรายรอคิวมานานถึง 2-3 สัปดาห์ก็มี

นางนารี นะราศี อายุ 46 ปี เจ้าของรถเกี่ยวข้าว ในพื้นที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บอกว่า ช่วงนี้มีแต่คนเข้ามารอจองคิวกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งรถเกี่ยวของตนสามารถเกี่ยวข้าวได้เฉลี่ยต่อวัน 4-5 รายๆละ 5-10-20 ไร่ บางวันก็ลงเกี่ยวไม่ได้ก็มี เนื่องจากรถเกี่ยวของตนเป็นรถขนาดเล็ก ส่วนที่ชาวนาต้องมาจองคิวรถเกี่ยวของตนเพื่อรีบเก็บเกี่ยวข้าว เนื่องจากมีฝนตกลงมา ทำให้ข้าวถูกน้ำท่วม และกลัวสถานการณ์ชายแดน อีกทั้งหลายรายได้เคยติดต่อรถเกี่ยวคันใหญ่ ที่เดินสายมาจากภาคกลางและต่างจังหวัด แต่รถเกี่ยวกลับไม่ยอมมาเกี่ยวให้ จึงต้องมารอคิวจองรถเกี่ยวของตนเองแทน

นางนารี ระบุว่า เขากลัวฟ้ากลัวฝนกลัวสงครามด้วยก็มีข่าวลงข่าวว่าจะรบกันก็เลยรีบเกี่ยว ทำให้รถเกี่ยวช่วงนี้ไม่ว่างเลย นอกจากเกี่ยวตอนกลางวันแล้ว บางเจ้าก็ติดต่อให้ลงเกี่ยวตอนกลางคืนก็มี ซึ่งคิดค่าเกี่ยวไร่ละ 600 บาท แต่ก็มีบางรายที่อยากจะเก็บเกี่ยวเร็วขึ้นก็มีการให้ราคาเพิ่มก็มี ทำให้มีรายได้เฉลี่ยต่อวันหลายพันบาท เฉียดหมื่นบาทต่อวันก็มี

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top