‘สภ.โคกกระชาย’โรงพักชายแดน เปิดลานด้านหน้าให้ชาวนาตากข้าว
18 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ สภ.โคกกระชาย อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นโรงพักที่อยู่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พบชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งได้ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเปลือกนาปี บางรายทยอยนำข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว นำมาผึ่งตากแดดไล่ความชื้น ยังบริเวณลานปูนซีเมนต์หน้า สภ.โคกกระชาย โดยมี พ.ต.ท.ไกรสิทธิ์ หาญยิ่ง สารวัตรใหญ่(สวญ.สภ.โคกกระชาย) และข้าราชการตำรวจคอยอำนวยการสะดวก และช่วยเหลือชาวนาตากข้าว เป็นภาพที่ประทับใจอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ การนำข้าวมาตากแดดไล่ความชื้นที่ลานปูนของโรงพัก ยังช่วยทำให้ลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ไม่ต้องเสี่ยงกับการถูกลักขโมยข้าวเปลือก และไม่มีไม่เสียค่าใช้จ่าย สร้างความสบายใจให้กับชาวนาได้ว่า จะไม่เกิดปัญหาขโมยข้าวของชาวนาแน่นอน เพราะที่โรงพักนอกจากจะมีตำรวจเข้าเวรยามเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว ยังมีกล้องวงจรปิดคอยบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน
พ.ต.ท.ไกรสิทธิ์ เปิดเผยว่าชาวบ้านในพื้นที่แนวชายแดนไทยกัมพูชา ยังมีความเป็นห่วงและไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ประกอบกับข้าวออกรวงสุกเหมาะแก่การเก็บเกี่ยวแล้ว จึงได้เร่งรีบเก็บเกี่ยวและนำข้าวมาตากแดดไล่ความชื้น จึงทำให้พื้นที่สำหรับตากข้าวนั้นไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นลานปูนบริเวณศาลากลางหมู่บ้าน วัด โรงเรียน สถานที่ราชการ และริมสองฝั่งถนน ประกอบกับที่โรงพักมีพื้นที่ลานกว้าง จึงได้เชิญชวนให้ชาวนาได้นำข้าวเปลือกมาตากยังบริเวณโรงพัก ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวกดูแล และมีกล้องวงจรปิดคอยบันทึกภาพเหตุการณ์ตลอดเวลา ซึ่งมีความสะดวกและปลอดภัยกว่าการนำไปตากริมถนน
พ.ต.ท.ไกรสิทธิ์ กล่าวด้วยว่านอกจากนี้ทางตำรวจ สภ.โคกกระชาย ยังได้มีการเตรียมความพร้อมเต็มที่ในการรับสถานการณ์ตาม ‘แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง’ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ถึงแม้ขณะนี้สถานการณ์ในพื้นที่จะยังไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็ตาม ก็ได้มีการเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา
นางนัฐฬิภรณ์ ไชนอินทร์ อายุ 44 ปี ชาวนาใน ต.โคกกระชาย อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บอกว่าช่วงนี้ชาวนาทุกคนต่างเร่งเกี่ยวข้าวพร้อมๆกัน เพราะว่าข้าวเริ่มสุกได้ที่แล้ว รวมถึงกลัวพายุฝนและกลัวเหตุการณ์ปะทะกันอีกระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ซึ่งพบว่าพื้นที่ต่างๆ ตามหมู่บ้านและวัดก็มีการตากข้าวเต็มหมดแล้ว จึงได้มาขอตำรวจตากข้าวยังลานปูนของโรงพัก ซึ่งตำรวจก็ใจดีมาช่วยอำนวยความสะดวกดูแล และช่วยตากข้าวด้วย ซึ่งยังช่วยให้ปลอดภัยจากโจรขโมยด้วย ซึ่งถือว่าดีกว่านำไปตากตามถนน ที่จะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนน รวมถึงในช่วงที่มีการตากข้าวช่วงแรกๆก็ได้ยินข่าวลือว่ามี วัยรุ่นมาขโมยข้าวที่ตากไว้ จึงตัดสินใจว่ามาตากข้าวที่โรงพักดีกว่าปลอดภัย เพราะมีตำรวจคอยดูแลให้ด้วย
ขณะที่นางอัมพร นิราศภัย อายุ 73 ปี ชาวนาใน ต.โคกกระชาย อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บอกว่ากลัวสงครามจะเกิดขึ้นอีกเพราะไม่รู้ว่าวันไหนจะมีการปะทะกันขึ้นอีก รวมถึงชาวบ้านหลายคนก็เร่งเกี่ยวข้าวพร้อมๆกัน จึงทำให้ที่ตากข้าวไม่พอกัน ซึ่งตนก็ไม่มีที่จะตากข้าว จึงได้นำมาขอตากที่ลานปูนของโรงพัก ซึ่งถือว่าดีเพราะมีตำรวจมาคอยช่วยดูแลและยังช่วยตากข้าวด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี