วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
'ราชทัณฑ์'ตั้งกรรมการสอบ'อดีตผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ' และผู้คุม 14 รายแล้ว หลังสั่งย้ายด่วนเหตุเอื้อประโยชน์นักโทษกลุ่มจีนเทาVIP ระบุจู่โจมค้นพบไมโครเวฟ กาน้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้า วัตถุมีคมจำนวนมาก อ้างบริจาคจึงเอามาใช้ก่อน
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 จากกรณีกระทรวงยุติธรรม มีคำสั่งลงนามโดยนางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม โยกย้ายผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มหานคร อันเนื่องจากการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และพบว่า มีเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดในเรือนจำฯนั้น กรมราชทัณฑ์ออกเอกสารข่าวชี้แจงว่า จากการเข้าจู่โจมและตรวจค้นดังกล่าว พบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในการควบคุมและปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง จึงได้ดำเนินการย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และย้ายผู้บัญชาการเรือนจำฯ ไปปฏิบัติหน้าที่กรมราชทัณฑ์ พร้อมมอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกรม เจ้าหน้าที่กองทัณฑวิทยา เจ้าหน้าที่กองบริหารทรัพยากรบุคคล กลุ่มงานวินัยเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกประเด็นโดยละเอียด เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีผู้ต้องขังชาวจีนบางรายที่มีอิทธิพลเหนือผู้ต้องขังรายอื่นภายในเรือนจำฯ จนสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ต้องขังชาวไทย จึงมีผู้แจ้งเบาะแสมายังกรมราชทัณฑ์ให้ทราบถึงพฤติการณ์ดังกล่าวนั้น
ทางกรมราชทัณฑ์ ยืนยันว่าได้เร่งรัดกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ปรากฎโดยเร็ว และได้ดำเนินการจัดระเบียบเรือนจำตามนโยบาย 5 ก้าวย่างแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยยึดหลักความโปร่งใส ยุติธรรม และปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ พร้อมดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องหากพบการกระทำผิดจริง เพื่อรักษามาตรฐาน การบริหารงานราชทัณฑ์ให้เป็นที่เชื่อมั่นของสังคม
รายงานข่าวเปิดเผยว่า กรณีการร้องเรียนดังกล่าว มีถึงกรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรมโดยนักโทษชาวไทย แจ้งเหตุเจ้าหน้าที่เอื้อประโยชน์พิเศษให้นักโทษกลุ่มจีนเทา โดยพบว่านักโทษชาวจีนในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯได้รับสิทธิพิเศษหลายเรื่องในเรือนจำต่างจากนักโทษทั่วไป มีเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งไมโครเวฟ แอร์ กาน้ำและยังมีสาวสวยระดับนางแบบเข้าเยี่ยมได้เป็นประจำ ซึ่งกรมราชทัณฑ์เมื่อได้รับเบาะแสก็ได้ส่งชุดปฏิบัติเข้าตรวจสอบ แต่ก็มักเจอเกลือเป็นหนอนข่าวรั่วก่อนเข้าตรวจค้น
ล่าสุด พ.ต.อ.ประวุธ วงษ์สีนิล อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้จัดชุดเฉพาะกิจเข้าจู่โจมตรวจค้น ทำให้พบว่า 3 แดนขังนักโทษกลุ่มจีนเทาในเรือนจำมีสิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก รวมถึงยังพบของมีคม มีด ไฟแช็ค ซึ่งเป็นของต้องห้ามในเรือนจำ เพราะใช้เป็นอาวุธได้ และไฟแช็คบ่งชี้ได้ว่ามีการสูบบุหรี่ เบื้องต้น นอกจากย้ายผู้บัญชาการเรือนจำแล้ว กรมราชทัณ์ได้สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ผู้คุมมากกว่า 14 คนที่เกี่ยวข้องในการควบคุมผู้ต้องขัง ใน 3แดนคุมขังนักโทษกลุ่มจีนเทา
สำหรับไมโครเวฟ และเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆที่พบในแดนคุมขังนักโทษกลุ่มจีนเทา พบว่ามีการใช้วิธี ระบุเป็นของบริจาคเข้าไปในเรือนจำแล้วขอใช้ก่อน ส่วนกรณีหญิงสาวต่างชาติที่เข้าเยี่ยม เรือนจำติดปัญหาตรวจสอบความเป็นญาติได้ยากเมื่อเห็นเป็นต่างชาติด้วยกันก็ให้เข้าเยี่ยม
ทั้งนี้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ มีคำสั่งตั้งกรรมการเข้าไปตรวจสอบ โดยจะให้รองอธิบดีฯ เป็นหัวหน้าชุดเข้าตรวจสอบภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และสอบปากคำเจ้าหน้าที่ทุกรายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมนักโทษกลุ่มจีนเทา ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 24 พ.ย.นี้ และได้สั่งเก็บสิ่งของต้องห้ามออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯและกวดขันจริงจัง โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีแดนคุมขังนักโทษกลุ่มจีนเทา 3 แดน ซึ่งมีข้อมูลอีกว่านักโทษจีนเทามีการใช้เงินจ้างนักโทษชาวไทยที่พอสื่อสารภาษาจีนได้บ้างให้มาดูแลรับใช้ และใน 3 แดนขังยังมีการแบ่งกันเองให้หัวหน้ากลุ่มพักอยู่ในแดนเดียวกัน ระดับรองหรือลูกน้องพักแยกคนละแดน
สำหรับนายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ที่ถูกย้ายจากเหตุนี้ไปเป็นผู้ตรวจราชการกรม บรรจุรับราชการที่กรมราชทัณฑ์ ก่อนไปเติบโตที่สำนักกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติ ธรรม และกลับมาเป็นเลขานุการกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ สมุทรสาคร สมุทรปราการ และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเรือนจำสำคัญของกรมราชทัณฑ์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'ราชทัณฑ์'แจงเด้ง 'ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ' เหตุพบผู้ต้องขังชาวจีนบางรายมีอิทธิพล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี