20 พฤศจิกายน 2568 เวลา 07.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.(ย่อย)ห้วยหลวง อ.เมือง จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุสะเทือนขวัญภายในบ้านโนนคาม หมู่ 3 ต.เชียงพิน อ.เมืองอุดรธานี เมื่อน้องชายซึ่งอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากสุราและป่วยจิตเวชและมีประวัติป่วยทางจิต ใช้อาวุธมีดอีโต้ฟันนางแหม่ม อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวจนแขนซ้ายขาดและใบหูด้านซ้ายเกือบขาด มีอาการบาดเจ็บสาหัส กู้ภัยได้รีบนำส่งรพ.ศูนย์อุดรธานีให้การช่วยเหลือทราบว่าตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่แขนคิดว่าไม่สามารถต่อได้

หลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี,พ.ต.ท.มานิตย์ แก้วเจริญ รองผกก.หน.สภ.ย่อยห้วยหลวง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตร.มากกว่า 50 นายรุดไปยังที่เกิดเหตุทันที โดยที่บ้านเลขที่ 14 ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบนายนายสินสมุทร อุตมา หรือ “เปิ้ล” อายุ 48 ปี หนุ่ม LGBTQ มีอาการคลุ้มคลั่งถือมีดอีโต้อยู่บนหลังคาบ้าน เจ้าหน้าที่ได้เกลี้ยกล่อมอยู่นานแต่ไม่ยอมลงมาแต่อย่างใด

ต่อมา พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ตร.ภูธร จ.อุดรธานี นำเจ้าหน้าที่ตร.ชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนสอบสวนภูธร จ.อุดรธานี พร้อมอาวุธครบมือเดินทางไปสนับสนุนทันที พร้อมนำเบาะลมกู้ภัยไปเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน และเกลี้ยกลอ่มหลายครั้งแต่นายเปิ้ลยังไม่ยอมลงมาจากหลังคาเมื่อเจรจาไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่ได้วางแผนชาร์จจับกุมตามยุทธวิธี โดยมีเจ้าหน้าที่อีกฝ่ายใช้เหล็กยาวหลอกล่อนายเปิ้ล ขณะที่ตำรวจอีกชุดอยู่ด้านหลังได้ใช้กระสุนปลอมยิงใส่ถึง 8 นัดแต่นายเปิ้ลโคตรหนังเหนียวไม่ระคายผิว แถมยังแกว่งมีดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเวลา โดยมีภาพโดรนมุมสูงให้เห็นการปฏิบัติการาของเจ้าหน้าที่ฯ

เมื่อดูแล้วไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่ได้วางแผนใหม่ให้คนหลอกล่อสู้กับนายเปิ้ลอีกครั้ง จังหวะนั้นเองเจ้าหน้าที่ตำรวจปีนหลังคาเข้าไปด้านหลังยิงปืนไฟฟ้าใส่ทันทีจนนายเปิ้ลล้มทั้งยืน เจ้าหน้าที่รีบกรูปีนหลังคาเข้าไปช่วยจนสามารถจับกุมตัวได้ ปฏิบัติการครั้งนี้ทั้งเกลี้ยกล่อมเจรจานานกว่า 5 ชม.ตั้งแต่เวลา 07.40 น.ถึงเวลา 11.30 น.รวม 5 ชม.ท่ามกลางความโล่งอกของเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่มามุงดูเหตุการณ์ทั้งหมู่บ้าน

หลังควบคุมตัวนายเปิ้ลได้ เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปยังสภ.(ย่อย)ห้วยหลวงเมื่อไปถึงครั้งแรกยังนอนหลับ ต่อมานายเปิ้ลได้ตื่นขึ้นมา เจ้าหน้าที่ฯ นำตัวไปตรวจฉี่หาสารเสพติดแต่ปรากฏว่าไม่พบ

จากนั้นนายเปิ้ลได้สติก็เปิดใจว่า สาเหตุที่ทำร้ายใช้มีดอีเต้ฟันแขนพี่สาวเพราะมีเรื่องทะเลาะกันหลายครั้ง แต่ก่อนพี่สาวทำงานอยู่จ.ชลบุรี เพิ่งย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้กับตนเองเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว ก็มีปัญหาทะเลาะกันมาตลอด พี่สาวไม่ชอบทำการทำงานอยู่บ้านกินเงินเบี้ยผู้สุงอายุอย่างเดียว และอีกอย่างพี่สาวให้วัยรุ่นในหมู่บ้าน 4 คนบุกเข้ามาทำร้ายผมในบ้าน จึงทำให้โมโหใช้มีดอีโต้ฟันแขนจนขาด

ตอนผมทำร้ายพี่สาวผมก็มีสติท่องพุทโธ พุทโธตลอดเวลา ผมไม่เสพยา ดื่มเหล้าเป็นครั้งคราวเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะฝากขอโทษอะไรพี่สาวมั้ย นายเปิ้ลบอกว่า ไม่ขอโทษขอให้เขาไปดีแล้วกัน ตอนท้ายนายเปิ้ลบอกอีกว่า ผมติดเชื้อHIV มาตั้งแต่ 2004 เกือบ 21 ปีสมัยไปทำงานอยู่พัทยา ก็มาพักอยู่บ้าน ตอนนี้กินยาอยู่ไปรับยา 3-6 เดือนครั้งหนึ่ง เมื่อได้ยินดังนั้นถึงกับทำให้เจ้าหน้าที่ที่มีเลือดนายเปิ้ลอยู่ช่วงที่ไปช่วยเหลือต่างพากันตกใจ

พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทรพล ผู้กำกับการ สภ.เมืองอุดรธานี ระบุว่า หลังรับแจ้งเหตุจากผู้นำชุมชน ตำรวจได้ประสานกำลังเข้าตรวจสอบทันที พบว่าผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิตเวช ซึ่งญาติยืนยันว่าเป็นกรรมพันธุ์ แต่คาดว่าอาจมีการดื่มสุรามาก่อนเกิดเหตุ ไม่เสพยา ตรวจฉี่แล้วไม่เจอ แต่สารเสพติดต่อไปนี้ต้องรอผลตรวจทางการแพทย์อีกครั้ง จากการตรวจบาดแผล พบว่าผู้ก่อเหตุฟันเข้าที่ใบหน้าและแขนของพี่สาวหลายครั้ง คาดว่าผู้บาดเจ็บพยายามยกแขนขึ้นป้องกันตัว จึงถูกฟันจนแขนขาด เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา พยายามฆ่าโดยเจตนา” ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายพงศ์สภัท คนแรง ผู้ใหญ่บ้านบ้านโนนคาม บอกว่า เจ๊เปิ้ลอยู่บ้านคนเดียวมามาหลายปีแล้วแต่เป็นบ้านหลังนี้เป็นของพี่สาว พี่สาวเพิ่งย้ายมาอยู่บ้านได้ 4 เดือนก็อยู่ด้วยกันด้วยดีมาตลอด แต่ 2-3 วันมานี้เจ๊เปิ้ลมีอาการหลอน แต่ไม่ใช่หลอนยา เป็นจิตเวชโดยกรรมพันธุ์ ก่อนเกิดเหตุอาจจะดื่มเหล้าแล้วมีอาการเครียดที่มีปัญหากับพี่สาว จึงก่อเหตุทำร้ายพี่สาวจนแขนขาดดังกล่าว ผมได้รับแจ้งตั้งแต่ 6 โมงเช้า ไปเจอก็พบว่าพี่สาวถูกฟันแขนขาดไปแล้วก็รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที แต่ทราบว่าเจ๊เปิ้ลมีอาการคลั่งหลอนตั้งแต่ตี 3 ซึ่งปกติทุกวันพระเจ๊เปิ้ลจะมีอาการคลั่งแบบนี้ประจำ ส่วนอาการพี่สาวไม่น่าจะต่อแขนได้ แต่อาการปลอดภัยพ้นขีดอันตรายแล้ว.

012