ปชน.ชู‘เท้ง’ ลุยสแกมเมอร์ จัดสัมมนาใหญ่ กางผังฟอกเงิน

ปชน.ชู‘เท้ง’ ลุยสแกมเมอร์ จัดสัมมนาใหญ่ กางผังฟอกเงิน

วันอาทิตย์ ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ปชน.ชู‘เท้ง’
ลุยสแกมเมอร์
จัดสัมมนาใหญ่
กางผังฟอกเงิน

‘วิโรจน์’ติวเข้ม‘สแกมเมอร์101’ เปรียบ‘กัมพูชา’โจรออกปล้นเราคือคู่สมรสมีหน้าที่ซ่อนเงิน  หวั่นไทยกลายเป็นแหล่งฟอกเงินทุนเทา เสนอ 5 ทางแก้ปัญหา ชูหลังเลือกตั้งปีหน้าได้“นายกฯเท้ง”ถือธงนำประกาศทลายแก๊งสแกมเมอร์อาเซียนในเวทีประชุมใหญ่ธนาคารโลก

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่พรรคประชาชน อาคารอนาคตใหม่ พรรคประชาชนจัดกิจกรรม “รีชาร์จประชาชน” ระหว่างวันที่ 22-23 พ.ย. 2568 ภายใต้แนวคิด “วาระประเทศไทย ความมั่นคงใหม่-เศรษฐกิจใหม่-บริหารประเทศแบบใหม่ ไทยทันโลก” โดยในช่วงเช้าเป็นการจัดเวทีแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับนโยบายด้านความมั่นคง หัวข้อ “เอาจริง! มาตรการจัดการทุนเทายึดประเทศ”นำโดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน และนางสฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระ


โดยนายวิโรจน์กล่าวในหัวข้อ “เปิดปมสแกมเมอร์ สู่ขบวนการฟอกเงินระดับโลกรัฐบาลไทยทำอะไรอยู่?”ตอนหนึ่งว่า  ขอใช้หัวข้อว่า”สแกมเมอร์ 101 จากเงินที่รอคุณยายสู่ความวอดวายระดับประเทศ”  ซึ่งกัมพูชาเป็นประเทศที่มีเครือข่ายสแกมเมอร์เกือบ 60 แห่ง มูลค่าเงินต่อปี 125,00 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นเงินกว่า 4-6 แสนล้านบาท ดังนั้นไทยสูญเงินจากการหลอกลวง ของสแกมเมอร์ 115,300 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเงินส่วนนี้กระทบกับเศรษฐกิจไทย ขณะที่การเปิดบัญชีม้า ผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีม้า ได้รับผลกระทบ นอกจากมีโทษจำคุกตามกฎหมาย จะหางานทำยากมากเพราะไม่สามารถเปิดบัญชีใหม่ได้ เพราะมีชื่อขึ้นทะเบียนบัญชีม้า พร้อมยกตัวอย่างทหารเกณฑ์ตอนนี้หลายคนเปิดบัญชีรับเงินเดือนไม่ได้ เพราะมีชื่อว่าเคยเปิดบัญชีม้า และประเทศไทยถูกตั้ง ข้อสังเกตว่าเป็นแหล่งการฟอกเงินจากบัญชีม้า และไปยังกัมพูชา ผ่านนอมินี ในรูปแบบการซื้อธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสดได้รายวัน เช่น ร้านอาหาร ผับบาร์ โดยใช้เงินสีเทากับเงินที่ได้ในทุกวันผสมกันไป เพื่อให้ถูกกฎหมายไม่โดนสรรพากรตรวจสอบ

“หากปล่อยให้มีการหลอกเงินต่อไป แล้วสกัดกั้นไม่ได้ ธุรกิจสุจริตในไทยก็ต้องปิดตัวลง พนักงานคอลเซ็นเตอร์ที่สุจริตตัวจริงพังไปด้วย ปั่นราคาอสังหาริมทรัพย์ มูลนิธิจะไม่น่าเชื่อถือ  มีการทำทัวร์ศูนย์เหรียญ  เกิดพนันออนไลน์  เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การหลอกเงินคุณยาย แต่ทำให้ธุรกิจสุจริตในไทยวอดวายทั้ง ประเทศ” นายวิโรจน์กล่าว

นายวิโรจน์กล่าวอีกว่า คุณภาพชีวิตของคนไทยแย่ลง ความเปราะบางการเงินเกิดขึ้น กำลังซื้อก็ลดลง และประเทศอาจจะถูกจัดให้เป็นประเทศสีเทาเข้าสักวัน หากถึงวันนั้นภาคการเงินการธนาคารเราพังทันทีเพราะไม่มีใครอยากมาลงทุนในประเทศไทย และเราจะถูกตรวจสอบอย่างหนักและลึก เพราะเราจะถูกมองว่าเป็นเครือข่ายของแก๊งสแกมเมอร์ในฐานะคนฟอกเงิน ถ้าเปรียบกัมพูชาคือโจรที่ออกไปปล้นเงิน เราคือคู่สมรสของโจรที่มีหน้าที่ซ่อนเงินให้โจร

นายวิโรจน์ เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาว่า 1.ต้องเร่งสร้างระบบนิเวศให้ประเทศไทยมีเกราะคุ้มกันจากสแกมเมอร์ มีพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ฉบับที่ 2 มาตรา 8/10 ออกมาตรการในทางปฏิบัติ หากไม่ยอมทำตามต้องร่วมรับผิดร่วมจ่ายความเสียหายให้กับประชาชนด้วย แต่ปรากฏว่ากฎหมายลูกธนาคารแห่งประเทศไทยยังออกไม่ครบประชาชนไม่รู้ว่าเมื่อเกิดความเสียหายแล้วจะไปหาความรับผิดชอบร่วมจากที่ไหน จึงตั้งข้อสงสัยว่า ทำไม ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กสทช. และเลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ทำไม่ได้สักที  จะปกป้องผลประโยชน์ของนายธนาคาร จะปกป้องผลประโยชน์ของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ และปล่อยให้ประชาชนร้องเพลงพี่เบิร์ด คือคนที่แพ้ต้องดูแลตัวเองหรือ กสทช.ทำไม ไม่ทำงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยทำไมไม่ล็อกเลขประจำตัวประชาชนที่เป็นบัญชีม้า ไม่สามารถซื้อซิมใหม่ได้

นายวิโรจน์กล่าวต่อว่า 2.กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และกรมสรรพากร ต้องร่วมมือกันปราบนอมินีและธุรกิจศูนย์เหรียญ ที่ไม่เสียภาษี 3.บช.สอท. บก.ปอท. ปปง.และป.ป.ช. ร่วมมือกับต่างประเทศ ขยายผลจับกุมตัวใหญ่ให้ได้ “จับ” “ยึด” ให้ได้ สหรัฐอเมริกาสิงคโปร์ เปิดเผยชื่อบริษัทและตัวการมาแล้ว แต่ประเทศไทย ทั้งที่ นายกรัฐมนตรีบอกว่าเป็นฐานการฟอกเงิน แต่ยังเปิดเผยและเอาคนไทยคนไหนที่อุ้มสมคบคิดกับเครือข่ายสแกมเมอร์ที่กัมพูชามาดำเนินคดีไม่ได้ คนเชื่อว่าตำรวจไทย ปปง.ไทยทำได้ ถ้ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นตั้งใจ แต่ตนคงหวังจากรัฐบาลนี้ไม่ได้ คงต้องหวังจากรัฐบาลประชาชน ในการเลือกตั้งครั้งถัดไป

นายวิโรจน์กล่าวอีกว่า 4. ก.ล.ต. ปปง. คปภ. และกรมการปกครอง ต้องทำให้กลุ่มการลงทุนต่างๆ ไม่สามารถปิดบังตัวตนของผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงได้ ต้องเปิดเผยตัวตนที่มาของเงินในทุกช่องทาง  5. มาตรการระหว่างประเทศเราคงต้องแสดงความมุ่งมั่น จะต้องลงสัตยาบันให้ได้ และใช้อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อทลายเครือข่ายใหญ่ ในเวทีอาเซียน ถึงเวลาที่เราต้องถือธงนำได้เวลาใช้ปฏิญญาต่างๆ ของอาเซียน ในการจัดการเครือข่ายสแกมเมอร์ในภูมิภาคอย่างจริงจังได้แล้ว ร่วมมือกับองค์กรต่างประเทศ ในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายเงินสกปรก และเรายังสามารถร่วมมือกับประเทศต่างๆ ที่ยังไม่ได้ลงนามทั้งอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศสอินเดีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และยังมีอีกหลายประเทศ ภายใต้ทางการทูต ที่เราสามารถร่วมมือกันและปราบปราม บางสิ่งบางอย่างหรือภารกิจบางอย่างด้วยความสมัครใจ ที่ประเทศต่างๆ มองว่าเป็นภัยคุกคามร่วมกัน และฝากกระทรวงการต่างประเทศ จัดให้กัมพูชาอยู่ในประเทศสีเทาให้ได้ แต่เราก็ต้องบริสุทธิ์ด้วย ซึ่งไทยเราทำได้เลย

นายวิโรจน์กล่าวว่า ในเดือนตุลาคม 2569 ประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม IMF และกลุ่มธนาคารโลก  “หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นายกรัฐมนตรีของเรา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน จะถือธงนำประเทศไทย กล่าวสุนทรพจน์ที่ยิ่งใหญ่ ว่าประเทศไทยของเราจะเป็นแกนนำที่พร้อมให้ความร่วมมือ กับโลกทำลายขบวนการสแกมเมอร์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้สิ้นซาก นี่คือภารกิจของนายกรัฐมนตรีของคนไทยที่ชื่อ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ”

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top