วันอาทิตย์ ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เปิดสาเหตุหลักน้ำท่วมภาคใต้ เกิดจากฝนตกหนัก 24 ชั่วโมง มีปริมาณฝนสะสมมากกว่า 300 - 500 มิลลิเมตร (มม.) กรมชลประทาน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำอย่างเต็มศักยภาพ
ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสาเหตุน้ำท่วมหนักในพื้นที่ภาคใต้ เกิดจากตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.68 จนถึงปัจจุบัน อิทธิพลของร่องมรสุมและหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคใต้ และภาคใต้ตอนล่าง ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ของภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ส่งผลให้เกิดอุทกภัยรวม 10 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สตูล สงขลา พัทลุง ตรัง นราธิวาส ปัตตานี และ ยะลา โดยปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง วัดได้มากกว่า 300 - 500 มม.
สำหรับ จ.สงขลา มีฝนตกหนักครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่ ที่วัดปริมาณฝนสูงสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ย.68 วัดได้ 335 มม.ซึ่งเป็นปริมาณฝนตกหนักในรอบ 300 ปี สำหรับปริมาณฝนสะสม 3 วันย้อนหลัง (19 - 21 พ.ย.68) ได้สูงสุดถึง 630 มม. (มากกว่าครั้งที่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ของ อ.หาดใหญ่ เมื่อปี 2553 ที่มีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 428 มม.) มีน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 0.50 - 2.50 เมตร นอกจากนี้ ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก สายรอง รวมทั้งคลองสายต่างๆ ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ อาทิ คลองวาด คลองอู่ตะเภา คลองต่ำ คลองหวะ รวมถึง คลองภูมินาถดำริ (คลองระบาย ร.1) ที่เป็นคลองขุดระบายน้ำสายใหม่ ที่ใช้ผันน้ำจากคลองอู่ตะเภาไปลงทะเลสาบสงขลาได้เร็วขึ้น มีศักยภาพในการระบายน้ำได้ 1,200 ลบ.ม./วินาที ช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ได้เป็นอย่างมาก ขณะนี้ยังคงมีฝนตกในพื้นที่ แต่มีแนวโน้มลดลง หากไม่มีฝนเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3 - 5 วัน
กรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 32 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 14 ชุด เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ ปริมาณฝนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สูงเกินกว่าศักยภาพการออกแบบของคลองภูมินาถดำริ (คลองระบาย ร.1) แต่ด้วยความสามารถในการระบายน้ำ 1,200 ลบ.ม./วินาที และมีสถานีสูบน้ำบางหยีศักยภาพ 90 ลบ.ม./วินาที ที่ปลายคลอง ยังมีส่วนสำคัญช่วยลดน้ำที่จะไหลเข้าสู่เขต อ.หาดใหญ่ ซึ่งหากไม่มีคลอง ร.1 สถานการณ์น้ำที่ อ.หาดใหญ่ อาจรุนแรงกว่าที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างมาก
เมื่อน้ำในคลองไม่ล้นตลิ่งแล้ว กรมชลประทานจะระดมเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำต่อไป
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี