วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ชาวเชียงรายจี้ MRC ยกประเด็นสารปนเปื้อนน้ำกก-สาย-รวก-โขงเป็นวาระด่วน-ตรวจคุณภาพแม่น้ำโขงตลอดสาย-นักวิชาการแนะใช้มาตรฐานน้ำเดียวกัน-แลกเปลี่ยนข่าวสาร 6 ประเทศ
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 ที่โรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท จ.เชียงราย ได้มีการประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง(Mekong River Commission: MRC)ครั้งที่ 32 โดยมี นส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน ซึ่งมีผู้แทนจากประเทศลาว กัมพูชา และเวียดนาม เข้าร่วมโดยผู้แทนบางประเทศประชุมผ่านระบบออนไลน์ นอกจากนี้ยังมี นส.รัชดา ธนาดิเรก ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนางพัชรวีร์ สุวรรณิก รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำ(สนทช.)เข้าร่วมด้วย
ก่อนการประชุมผู้แทนเครือข่ายชาวบ้านปกป้องแม่น้ำกก สาย รวกและโขง นักวิชาการและนักสิ่งแวดล้อม ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ น.ส.รัชดา เพื่อขอให้เร่งแก้ปัญหาสารพิษปนเปื้อนในแม่น้ำ โดยเนื้อหาในหนังสือระบุว่า ประเด็นเร่งด่วนที่สุด คือ ปัญหามลพิษข้ามพรมแดน จากการทำเหมืองแร่นอกกฎหมายที่ต้นน้ำในรัฐฉาน เมียนมา ซึ่งส่งผลให้มีการปนเปื้อนในแม่น้ำ สารโลหะหนักเกินค่ามาตรฐานของไทยและ WHO ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย ลงไปจนถึงแม่น้ำโขง ที่พรมแดนไทยลาว จ.เชียงราย ตรงข้ามแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว และ ไปจนถึงแม่น้ำโขงพรมแดนไทยลาว ที่ จ.เลย ตรงข้ามแขวงเวียงจันทน์ จังหวัดบึงกาฬ ตรงข้ามแขวงบอลิคำไซ และจ.นครพนม ตรงข้ามแขวงคำม่วน
หนังสือระบุว่า ในข้อมูลในขณะนี้ปรากฎว่าเหมืองแร่แรร์เอิร์ท แร่ทองคำ แมงกานีส และอื่นๆ เกิดขึ้นนับร้อยแห่งบนภูเขาที่ต้นน้ำ และในลำน้ำสาขาต่างๆ ซึ่งไม่มีมาตรการจัดการสิ่งแวดล้อม ทำให้สารพิษ โลหะหนัก มลพิษทั้งหมดไหลลงสู่แม่น้ำโขง ร่างแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีของ MRC ที่กำลังเข้าสู่การพิจารณาของคณะมนตรีในวันนี้ ยังไม่พบว่ามีการพิจารณาข้อเท็จจริงใหม่ ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนที่สุด คือปัญหามลพิษข้ามพรมแดนจากหมืองแร่ที่ไม่มีการควบคุมในลุ่มน้ำโขงตอนบน
เครือข่ายประชาชนฯ ใคร่เรียนว่า MRC ควรยกระดับและให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์ที่ 2 ว่าด้วย Enhancing Data, Monitoring, and Predictive Capabilities for Decision Support และ Advancing Coordinated และยุทธศาสตร์ที่ 3 ว่าด้วย River Basin Management Operations เพื่อร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนมลพิษ ที่เกิดขึ้นในลุ่มน้ำโขง ผลกระทบดังกำลังกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนในการใช้น้ำ การประมง เศรษฐกิจ ความมั่นคงทางอาหาร สุขภาพของประชาชน public health ของประชาชนหลายสิบล้านคนในภูมิภาค
“พวกเราเห็นว่า MRC ควรยกประเด็นนี้ให้เป็น วาระเร่งด่วนฉุกเฉินด้านของรัฐบาลภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และขอเรียนข้อที่ควรดำเนินการเร่งด่วนดังนี้ รัฐบาลทั้ง 4 ประเทศ รวมถึง เมียนมา และจีน และประเทศที่เกี่ยวข้องกับ Global Supply Chain ต้องยกวาระเรื่องมลพิษข้ามพรมแดนจากการทำเหมืองแร่ เป็นเรื่องเร่งด่วน และต้องเสนอให้มีการเจรจา ให้มีการทำเหมืองแร่ที่รับผิดชอบ ลดผลกระทบ และยุติแหล่งมลพิษ เสนอให้มีแผนเร่งด่วนใน MRC Strategic Plan 2026-2030 เฉพาะด้านว่าด้วยเรื่อง การติดตามเฝ้าระวังและเตือนภัยกรณีมลพิษข้ามพรมแดนแม่น้ำโขงและลำน้ำสาขา ดำเนินการตรวจคุณภาพน้ำ ตลอดลุ่มน้ำโขงเพื่อให้ประชาชนทราบความเสี่ยงของการปนเปื้อนสารโลหะหนักและแจ้งเตือนให้ประชาชนทั้ง 4 ประเทศได้ติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังความปลอดภัยทางด้านสุขภาพ หวังว่า MRC จะตระหนักถึงความเร่งด่วนของสถานการณ์มลพิษข้ามพรมแดนในปัจจุบัน รวมถึงการสร้างสิ่งแวดล้อมที่สะอาดปลอดภัย เพื่อลูกหลานของแม่น้ำโขงในอนาคตดังที่ว่า "Meeting the Needs, Keeping the Balance" และ “Empowering the Next Generation"”หนังสือระบุในตอนท้าย
นางรักษ์ดาว พริทชาร์ด ตัวแทนประชาชนปกป้องแม่น้ำกก-สาย-รวก-โขง กล่าวว่า การแสดงออกอย่างเข้มแข็งของประชาสังคมที่ไม่ยอมรับชะตากรรมที่ถูกกระทำจากการปล่อยสารพิษจากการทำเหมืองแร่ที่ไม่ถูกกฎหมายข้ามพรมแดน และส่งผลกระทบประชาชนที่อยู่ตอนล่างและสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติอย่างหนัก เรายังมีความหวังว่าประเทศไทยในฐานะที่เป็นด่านแรกและเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะมนตรีแม่น้ำโขงครั้งนี้นำข้อเสนอจากพวกเราเครือข่ายประชาชนที่ถือว่าเป็นปัญหาเร่งด่วนทางด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนจะทำหน้าที่ในการปกป้องและแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมตามปฏิญญาแม่น้ำโขงที่ได้ตกลงกันตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นมา อยากให้เขาทำหน้าที่ในแง่การวิจัยที่สามารถใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงในระดับนานาชาติได้
อริศรา เหล็กคำ นักวิชาการจากสำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า MRC ก่อตั้งมาร่วม 30 ปีแล้ว สถานการณ์เปลี่ยนแปลงและซับซ้อนมากกว่าเดิม กรณีเรื่องมาตรฐานการตรวจคุณภาพน้ำ จะต้องคิดใหม่ เราจะวิเคราะห์ว่า กิจกรรมปัญหามันเกิดขึ้นจากกิจกรรมที่ดินที่ส่งผลกระทบต่อแม่น้ำและต้องตรวจคุณภาพน้ำขึ้นไปถึงระดับแม่น้ำโขงตอนบนในเขตที่เรียกว่าแม่น้ำลานช้างซึ่งเป็นพื้นที่ตอนบนด้วยและยินดีที่ทางตัวแทนมารับเรื่อง และอยากเห็นแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวที่จะทำร่วมกันและอยากเห็นทิศทางตรวจวัดคุณภาพน้ำที่เป็นมาตรฐานเดียวกันและศูนย์ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันในระหว่าง 6 ประเทศทั้งจีน เมียนมา ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี