ชาวช้างทั่วประเทศ พร้อมช้าง 11 เชือก ถวายพระเกียรติสุดหัวใจ ถวายอาลัย'สมเด็จพระพันปีหลวง'

ชาวช้างทั่วประเทศ พร้อมช้าง 11 เชือก ถวายพระเกียรติสุดหัวใจ ถวายอาลัย'สมเด็จพระพันปีหลวง'

วันพฤหัสบดี ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 12.48 น.

ชาวช้างทั่วประเทศ พร้อมช้าง 11 เชือก ถวายพระเกียรติสุดหัวใจ ถวายอาลัย"สมเด็จพระพันปีหลวง" พร้อมสืบสานพระราชดำริพัฒนาสายพันธุ์ช้างนิสัยดี เลี้ยงดูช้างให้ดี

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 สำนักพระราชวัง รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 21.00 น.โดยมีข้าราชบริพารหน่วยราชการในพระองค์ เจ้าหน้าที่สํานักพระราชวัง จิตอาสา 904 และเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและความเรียบร้อย รวมถึงให้คำแนะนำอำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการที่นั่งวิลแชร์และประชาชนตลอดเส้นทาง เพื่อให้การเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ และมีบริการ "ชัตเตอร์ บัส" รับ - ส่งบริเวณทางออกหน้าประตูเทวาภิรมย์ ไปยังท้องสนามหลวงด้วย


สำหรับบรรยากาศวันนี้ ได้มีประชาชนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดพร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดสุภาพสีดำไว้ทุกข์เดินทางมาเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ เบื้องหน้าพระโกศอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ มีคณะบุคคลจากจังหวัดต่างๆ อาทิ จังหวัด ภูเก็ต, มหาสารคาม, มุกดาหาร, แม่ฮ่องสอน, บริษัท บีทีเอส กร๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน), ธนาคารออมสิน สายงานบริการสาขา 1, บริษัท ไทย สมายล์ บัสทจำกัด, สำนักงานคณะกรรมการอิสลาม ประจำกรุงเทพมหานคร, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี, มูลนิธิส่งเสริมอัจฉริยภาพทางคณิตศาสตร์, เครือเจริญโภคภัณฑ์ กลุ่มที่ 1, กรมจเรทหารเรือ , กรมสื่อสารทหารเรือ, กรมการเงินทหารเรือ , กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ เป็นต้น เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ และวางพวงมาลาถวายราชสักการะ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ด้วยความอาลัยและสำนึกในพระมหากรุณาธิเป็นล้นพ้นที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อส่งเสริมช่วยเหลือพสกนิกรให้มีอาชีพมีรายได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ มี ราชสกุลนวรัตน์ ราชสกุลนันทวัน ราชสกุลพรหเมศ ราชสกุลจรูญโรจน์ ราชสกุลสายสนั่น ราชสกุลบริพัตร  ราชสกุลจักรพงษ์ ราชสกุลจุฑาธุช ราชสกุลยุคล ราชสกุลกิติยากร ราชสกุลรพีพัฒน์ ราชสกุลประวิตร ราชสกุลจิรประวัติ ราชสกุลอาภากร ราชสกุลฉัตรชัย ราชสกุลเพ็ญพัฒน์ ราชสกุลวุฒิชัย ราชสกุลสุริยง ราชสกุลรังสิต ราชสกุศักดิเดชน ภาณุพันธุ์ ร่วมในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.09 น. กลุ่มคชสารคู่แผ่นดิน และตัวแทนผู้เลี้ยงช้างทั่วประเทศ กว่า 500 คน นำช้าง 11 เชือก จากหมู่บ้านช้างเพนียดหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาตั้งขบวนที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน จากนั้นได้เคลื่อนขบวนนำโดย "ช้างพลายสยาม" เดินมายังหน้าประตูมณีนพรัตน์ เพื่อกราบถวายบังคมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

โดยก่อนที่จะกราบถวายบังคมพระบรมศพสมเด็จพระพันปีหลวง ช้างทั้ง 11 เชือก พร้อมคณะ ได้ถวายบังคมพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ดังไปทั่วบริเวณ และช้างได้ส่งเสียงร้องถวายอาลัยสมเด็จพระพันปีหลวง

ด้าน นายอิทธิพันธ์ ขาวละมัย ผู้จัดการวังช้างอยุธยาแลเพนียด กล่าวว่า วันนี้ผู้เลี้ยงช้างทั้งประเทศ นำช้าง 11 เชือกเดินทางมากราบถวายความอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องจากว่าพวกเราได้เคยถวายงานในภาพยนตร์ เรื่อง พระนเรศวร พระสุริโยทัย และการแสดงยุทธหัตถีหลายครั้ง และพระองค์ได้ทรงพระกรุณาเมตตาทั้งช้างป่าและช้างบ้าน ในโครงการปล่อยช้างคืนป่า และโครงการดูแลทั้งช้างป่าช้างบ้าน และเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่วังช้างอยุธยาได้ถวายงานพระองค์ ในเรื่อง การนำช้างยุทธหัตถี และได้กราบเบื้องพระยุคลบาท พระองค์ทรงพระเมตตาพระราชทานพร และมีรับสั่งในเรื่องของการพัฒนาสายพันธุ์ช้าง และฝึกช้างให้ดี

"วันนี้ วังช้างอยุธยาได้ทำดีที่สุด และก็ได้เชิญพี่น้องชาวช้าง คือเจ้าของปางช้างทั่วประเทศเดินทางมากราบถวายอาลัย เป็นการรวมใจภักดิ์ถวายสมเด็จพระพันปีหลวง ครั้งนี้เดินทางมาด้วยน้ำพักน้ำแรง เพราะทุกคนระลึกถึงพระมหากรุณาธิกคุณที่พระองค์ทรงมีต่อพวกเรา ให้มีกำลังใจมาถึงทุกวันนี้ เพราะพระองค์ทรงเมตตาต่อชาวช้าง พระฉายาลักษณ์ที่ถือมาวันนี้ เป็นภาพพระราชกรณียกิจที่พระองค์พระราชทานอาหารช้าง และกิจกรรมมากมาย  เราภาคภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย และอยู่ใต้ร่มพระบารมี และได้มีพี่น้องชาติพันธุ์จากชายขอบ และโรงเรียนวัดสระแก้ว ลูกเสือชาวบ้าน พี่น้องชาวอยุธยา รวม 500 คน พร้อมใจกันมาและร่วมร้องเพลงปี่ใน เป็นเพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่งแสดงถึงความเป็นไทย และน้อมรำลึกถึงพระองค์"

"พวกเราดีใจที่สุด ขอเป็นตัวแทนชาวช้างขอถวายอาลัยแม่ของแผ่นดิน แม้เราสูญเสียพระองค์ไปแล้ว พวกเราก็จะเข้มแข็งและขอปฏิญาณทำความดี สร้างงานให้ช้าง และสร้างอาชีพต่อไป ซึ่งทางรัฐบาลก็ได้เตรียมสนับสนุนความเป็นมาตรฐานของควาญช้าง มาตรฐานอาชีพ มาตรฐานปางช้างทั่วประเทศ วันนี้เรารวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน เราจะสืบสานปณิธานของพระองค์ในเรื่อง การพัฒนาสายพันธุ์ช้าง เลี้ยงดูช้างให้ดี และสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทย ช้างไทยงดงามที่สุดในภาพยนตร์ เรื่อง พระนเรศวร และ สุริโยทัย และในเรื่องของการอนุรักษ์ช้างป่า วันนี้ชาวช้างระลึกถึงพระองค์ แล้วจะเห็นได้ว่าช้างก็มีความปีติ เมื่อได้ยินเสียงกลองและได้มายืนบนสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์เขาก็ทำดีที่สุด เป็นตัวแทนชาวช้างถวายพระเกียรติสุดหัวใจ" นายอิทธิพันธ์ กล่าว

ขณะที่ นางร่มทองทราย มีพันธ์ุ เจ้าของวังช้างอยุธยา กล่าวว่า วันนี้พวกเรามาน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระพันปีหลวง เพราะพระองค์ทรงช่วยเหลือชาวช้างไว้อย่างมากมาย พระองค์ทรงบอก ทรงเตือนว่าควรจะทำแบบไหน วันนี้ชาวช้างทั้งประเทศ ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน บนดอย ก็มากันหมด เพื่อมาน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระพันปีหลวง

"สำหรับช้าง 11 เชือกที่เดินทางมาวันนี้ เชือกแรกชื่อพลายสยาม เป็นพ่อพันธุ์ชั้นดี นิสัยดีมาก เข้ากับคนได้ดี นอกจากน้ ยังมีพลายกิ่งแก้ว พลายบิ๊ก พลายมรกต พลายมโหรี พลายงาทอง พลายยูโร พลายเยี่ยมฟ้า พลายศรีอัยรา พลายศรีมงคล พลายจันเจ้า พระองค์มีพระราชดำริว่าให้สืบสายพันธุ์แต่ช้างที่ดี พ่อดี แม่ดี เอามาผสมพันธุ์ เพื่อให้ช้างอยู่กับนักท่องเที่ยว และอยู่กับคนไทยทั้งประเทศ มาเที่ยวประเทศไทยต้องเจอช้างนิสัยดี จึงให้ควานช้างมีตะขอไว้เป็นสัญลักษณ์ของควานช้างเท่านั้น ถ้าช้างดีแล้วไม่จำเป็นต้องใช้ตะขอ" นางร่มทองทราย กล่าว

นางสาวสรัญญา พรโชติชัย อาชีพค้าขาย ชาวชาติพันธุ์มูเซอแดง อ.ปามะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เดินทางมาโดยรถบัสกับคณะตั้งแต่เช้าวันที่ 26 พฤศจิกายน มาถึงกรุงเทพฯ เช้าวันนี้ เพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพสมเด็จพระพันปีหลวง กล่าวว่า วันที่ทราบข่าวว่าเสด็จสวรรคต รู้สึกตกใจและเสียใจมาก วันนี้ ตนและตัวแทนชาวแม่ฮ่องสอน ตั้งใจเดินทางมาถวายบังคมพระบรมศพด้วยความอาลัยยิ่ง พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อเราเผ่ามูเซอแดงมาก ได้เสด็จฯ มาด้วยพระองค์เองเพื่อพระราชทานอาชีพทอผ้า เย็บผ้า เย็บชุดประจำเผ่าให้พวกเรา ทำให้มีรายได้และมีชีวิตที่ดีขึ้น แม้ตนจะเป็นรุ่นลูกไม่ได้เฝ้าฯ รับเสด็จ แต่อาชีพที่พระองค์พระราชทานมาให้รุ่นแม่ของตนก็สร้างให้ชีวิตและครอบครัวให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสามารถเลี้ยงตัวเองได้

- 006

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top