'อธิบดีกรมปศุสัตว์'เดินหน้าแผนฟื้นฟู-เปิดเกณฑ์เยียวยา เร่งช่วยเหลือเกษตรกร 9 จังหวัดใต้

'อธิบดีกรมปศุสัตว์'เดินหน้าแผนฟื้นฟู-เปิดเกณฑ์เยียวยา เร่งช่วยเหลือเกษตรกร 9 จังหวัดใต้

วันศุกร์ ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 11.30 น.

"อธิบดีกรมปศุสัตว์"เดินหน้าแผนฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรใต้ เปิดเกณฑ์เยียวยาความเสียหายปศุสัตว์ เร่งช่วยเหลือเกษตรกร 9 จังหวัดภาคใต้ แจกหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน-อพยพสัตว์-ส่งทีมสัตวแพทย์ลงพื้นที่

"อธิบดีกรมปศุสัตว์"เดินหน้าช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ 9 จังหวัดอย่างต่อเนื่อง พร้อมเร่งฟื้นฟูอาชีพหลังน้ำลด และเปิดหลักเกณฑ์การเยียวยาความเสียหายด้านปศุสัตว์ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2568


เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ได้รับข้อสั่งการจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เร่งช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ประสบอุทกภัยใน 9 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สตูล ปัตตานี สงขลา ตรัง และนราธิวาส โดยมีสัตว์เลี้ยงในพื้นที่น้ำท่วมรวมทั้งสิ้น 10,961,826 ตัว ประกอบด้วย โค 335,382 ตัว กระบือ 7,354 ตัว สุกร 265,146 ตัว แพะและแกะ 181,057 ตัว และสัตว์ปีก 10,172,887 ตัว ขณะที่แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์เสียหายรวม 7,721.60 ไร่

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบสัตว์ตายและสูญหาย 78,721 ตัว ใน 8 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง ตรัง นครศรีธรรมราช ปัตตานี สตูล สุราษฎร์ธานี นราธิวาส และสงขลา โดยในจำนวนนี้เป็นโค-กระบือ 1,439 ตัว สุกร 8 ตัว แพะ 98 ตัว แกะ 21 ตัว และสัตว์ปีก 77,155 ตัว

กรมปศุสัตว์ได้เร่งดำเนินมาตรการช่วยเหลือในเบื้องต้น ได้แก่ แจกจ่ายหญ้าอาหารสัตว์พระราชทานจำนวน 444,560 กิโลกรัม อพยพสัตว์เลี้ยงออกจากพื้นที่เสี่ยงรวม 56,373 ตัว สนับสนุนชุดส่งเสริมสุขภาพสัตว์ (แร่ธาตุ ยาปฏิชีวนะ วิตามิน) จำนวน 459 ชุด แจกจ่ายถุงยังชีพสัตว์ ส่งหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ดูแลรักษาสัตว์ในพื้นที่

ในส่วนของการเยียวยาความเสียหายด้านปศุสัตว์ ได้สั่งการให้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดและสำนักงานปศุสัตว์อำเภอเร่งสำรวจความเสียหายทันทีที่น้ำลดเพื่อจ่ายเงินชดเชยแก่เกษตรกรผู้เสียหาย โดยหลักเกณฑ์ได้กำหนดตามประเภทสัตว์เลี้ยงและจำแนกตามช่วงอายุและจำนวนสูงสุดที่ให้ความช่วยเหลือต่อรายดังนี้

- โค อายุ 2 ปีขึ้นไป อัตราชดเชยไม่เกิน 35,000 บาท/ตัว (ไม่เกิน 5 ตัว/ราย)

- กระบือ อายุ 2 ปีขึ้นไป อัตราไม่เกิน 39,000 บาท/ตัว (ไม่เกิน 5 ตัว/ราย)

- สุกร อายุ 30 วันขึ้นไป อัตราไม่เกิน 3,000 บาท/ตัว (ไม่เกิน 10 ตัว/ราย)

- แพะ/แกะ อายุ 30 วันขึ้นไป อัตราไม่เกิน 3,000 บาท/ตัว (ไม่เกิน 10 ตัว/ราย)

- สัตว์ปีก เช่น ไก่ เป็ด นกกระทา นกกระจอกเทศ อัตราช่วยเหลือแตกต่างกันตามช่วงอายุและประเภท โดยช่วยเหลือสูงสุด 300–1,000 ตัว/ราย

- แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ ชดเชยในอัตรา 1,980 บาท/ไร่ ไม่เกิน 30 ไร่/ราย

“ขอให้พี่น้องเกษตรกรชาวใต้มั่นใจว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เราจะอยู่เคียงข้างจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และเกษตรกรสามารถกลับมาประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง” อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าว

ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ขอให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบมั่นใจว่า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยสามารถแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด หรือผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top