สานพลัง 3 มหาลัย! เปิด ‘สูตรสำเร็จ’ รับมืออุทกภัย-ยกระดับชุดความรู้สู้ภัยพิบัติ

สานพลัง 3 มหาลัย! เปิด ‘สูตรสำเร็จ’ รับมืออุทกภัย-ยกระดับชุดความรู้สู้ภัยพิบัติ

วันอังคาร ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 12.59 น.

สานพลัง 3 มหาวิทยาลัย! มอ.ปัตตานี-มรภ.ยะลา-มนร. เปิด ‘สูตรสำเร็จ’ รับมืออุทกภัย 3 จังหวัดชายแดนใต้ ยกระดับชุดความรู้สู้ภัยพิบัติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายมหาวิทยาลัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (มอ.ปัตตานี), มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา (มรภ.ยะลา) และ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ (มนร.) ได้เปิดเผยถึง ‘สูตรสำเร็จ’ ในการรับมือภัยพิบัติน้ำท่วมด้วยการบูรณาการความรู้และกำลังคนอย่างเป็นระบบ


ผศ.ดร.อรุณีวรรณ บัวเนี่ยว รองอธิการบดี ฝ่ายวิจัยและพันธกิจสังคม มอ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ทั้ง 3 มหาวิทยาลัยได้หลอมรวมข้อมูลความรู้จากงานวิจัย พัฒนาเป็น แพลตฟอร์มบูรณาการเพื่อการพัฒนาพื้นที่ โดยได้รับการสนับสนุนทุนจาก บพท. (กระทรวง อว.) และเชื่อมโยงความร่วมมือกับทุกภาคีเครือข่าย ทั้งราชการ เอกชน และภาคประชาสังคม

‘ภายใต้แพลตฟอร์มบูรณาการฯ เรามีกำลังคนทั้งคณาจารย์ นักศึกษา และบุคลากรของ 3 มหาวิทยาลัย ในการทำงานร่วมกันถึง 30,000 คน โดยที่เกือบทุกคนเป็นผู้มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ รู้จักพื้นที่ ตลอดจนวิถีชีวิตคนพื้นที่อย่างดี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งของความสำเร็จในการรับมือภัยพิบัติน้ำท่วม’ ผศ.ดร.อรุณีวรรณ กล่าว

ปัจจัยสำคัญของความสำเร็จคือการทำงานแบบ จิตอาสา และมีการจัดระบบระเบียบการทำงานออกเป็น 8 ทีม รับผิดชอบแต่ละด้านอย่างชัดเจน ได้แก่ ทีมข้อมูลสถานการณ์น้ำ, ทีมข้อมูลสถานการณ์พื้นที่, ทีมรับบริจาค, ทีมปฏิบัติการพื้นที่, ทีมครัวเฉพาะกิจ, ทีมสื่อสารและประสานงาน, ทีมเทคโนโลยีภัยพิบัติ, และทีมวิเคราะห์ประเมินผลกระทบจากสถานการณ์

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรับมือภัยพิบัติน้ำท่วมปี 2568 ของจังหวัดปัตตานี มอ.ปัตตานี ได้ประสานความร่วมมือกับ นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เพื่อเปิด ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการแก้ปัญหาน้ำท่วมแบบเรียลไทม์

ผศ.ดร.เกสรี ลัดเลีย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและวิชาการ มรภ.ยะลา กล่าวเสริมถึงข้อค้นพบสำคัญจากการปฏิบัติงานจริงว่า แพลตฟอร์มบูรณาการฯ ยังช่วยแก้ไขโจทย์เพิ่มเติมในประเด็นการ บริบาลผู้ป่วย และ การผดุงครรภ์ ในช่วงเกิดภัยพิบัติให้ลุล่วงไปด้วย

รศ.ดร.วสันต์ พลาศัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มนร. กล่าวสรุปว่า การขับเคลื่อนงานด้วยชุดความรู้จากการวิจัย และการสร้างการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกเทศมนตรีเป็นกลไกหลัก ทำให้การรับมือภัยพิบัติน้ำท่วมในทั้ง 3 จังหวัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และควบคุมความเสียหายให้อยู่ในวงจำกัด

พร้อมกันนี้ ได้เสนอแนวคิดว่า ‘ปัตตานีโมเดล-ยะลาโมเดล หรือ นราธิวาสโมเดล’ ควรเป็นปัจจัยสนับสนุนให้หน่วยงานระดับนโยบาย ผลักดันให้งานป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติ เป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจสำคัญของมหาวิทยาลัย เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่มีความพร้อมทั้งความรู้ วัสดุอุปกรณ์ และกำลังบุคลากร

///////-026

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top