สธ.เตือนฝุ่นพิษ กระทบ15จว.ค่าพุ่งสีแดง

สธ.เตือนฝุ่นพิษ กระทบ15จว.ค่าพุ่งสีแดง

วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

สธ.เตือนฝุ่นพิษ

กระทบ15จว.ค่าพุ่งสีแดง

 

ก.สาธารณสุข เตือนประชาชน-กลุ่มเสี่ยง งดกิจกรรมกลางแจ้ง เผยค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งสูง พบ 15 จังหวัดทั่วไทยเกินค่ามาตรฐานระดับสีแดงเป็นอันตรายต่อสุขภาพ คาดกระทบจนถึงต้นปี 2569


เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 นายพัฒนา พร้อมพัฒน์รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือฝุ่นPM2.5 จะเพิ่มสูงขึ้นช่วงปลายปี2568 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2569 ซึ่งข้อมูลสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA พบว่า ช่วงนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เริ่มสูงขึ้นในหลายพื้นที่ โดยตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในหลายจังหวัดมีค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ (มากกว่า 37.6 มคก./ลบ.ม.) และเพิ่มเป็นระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ (มากกว่า 75 มคก./ลบ.ม.ขึ้นไป) เมื่อวันที่ 1ธันวาคมที่ผ่านมาในพื้นที่ กทม.และอีก 4 จังหวัด

ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ มี 15 จังหวัดที่ค่าฝุ่นอยู่ระดับสีแดง ได้แก่ สมุทรสาคร นนทบุรี นครปฐม กทม.สมุทรปราการ ปทุมธานี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง ราชบุรี จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี สมุทรสงคราม และเพชรบุรี โดยค่าฝุ่นรายชั่วโมงของ กทม.สูงสุดอยู่ที่เขตหนองแขม 102.5 มคก./ลบ.ม. และยังมีอีก 25 จังหวัดที่ค่าฝุ่นสูงในระดับสีส้ม จึงขอให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ที่อาจเจ็บป่วยหรือได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากฝุ่น PM2.5 รุนแรงกว่าประชาชนทั่วไป ตรวจสอบคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ผ่านแอปพลิเคชั่น Air4Thai, AirBKK, Life D หรือเช็คฝุ่น และปฏิบัติตนตามคำแนะนำตามค่าสีฝุ่น

นายพัฒนากล่าวต่อว่า การปฏิบัติตัวเมื่อค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีส้ม กลุ่มเสี่ยงให้จำกัดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือออกกำลังกายที่ใช้แรงมากหากจำเป็นต้องออกนอกอาคารให้สวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นทุกครั้งสังเกตอาการผิดปกติ โดยประเมินอาการและรับคำแนะนำเบื้องต้นผ่าน 4HealthPM2.5 หรือคลินิกมลพิษออนไลน์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์อยู่ในอาคารหรือห้องปลอดฝุ่นผู้ที่มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็น และลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่นในบ้าน แต่หากค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีแดง ขอให้ประชาชนทุกคนงดกิจกรรมกลางแจ้ง

นายพัฒนากล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุขเตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์ ได้แก่ 1.การสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ โดยติดตามสถานการณ์และประชาสัมพันธ์เชิงรุก เน้นการสื่อสารและแจ้งเตือนผ่านระบบดิจิทัล เช่น Platform หมอพร้อม, SMART อสม.2.การลดและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง โดยเฝ้าระวังและติดตามผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจาก PM2.5 จัดทำห้องปลอดฝุ่นในสถานบริการและพื้นที่เสี่ยง และสนับสนุน “มุ้งสู้ฝุ่น” รวมถึงพิจารณาใช้มาตรการ Work From Home สำหรับกลุ่มเปราะบางเมื่อค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

3.การจัดบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข โดยขยายเครือข่ายบริการดูแลสุขภาพให้ครอบคลุม ทั้งคลินิกมลพิษทางอากาศ คลินิกเวชกรรมสิ่งแวดล้อม ให้คำปรึกษาคลินิกมลพิษออนไลน์ จัดระบบนัดหมายคลินิกมลพิษผ่านระบบหมอพร้อม และจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่/ทีมปฏิบัติการดูแลสุขภาพกลุ่มเปราะบาง เช่น ชุมชน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานดูแลผู้สูงอายุ โรงเรียนประจำ เป็นต้น และ 4.เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ โดยหากสถานการณ์รุนแรงให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินในทุกระดับ และส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ใช้ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ในการควบคุมต้นกำเนิดฝุ่น

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top