กทม. –สถานทูตเครือรัฐออสเตรเลียร่วมเปิดสนามเด็กเล่นแห่งใหม่ในสวนลุมพินี

กทม. –สถานทูตเครือรัฐออสเตรเลียร่วมเปิดสนามเด็กเล่นแห่งใหม่ในสวนลุมพินี

วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 12.44 น.

กทม. ร่วมสถานทูตเครือรัฐออสเตรเลีย เปิดสนามเด็กเล่นแห่งใหม่ในสวนลุมพินี วันผู้พิการสากล ตอกย้ำเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน

 


วันที่ 3 ธ.ค.68 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ดร.แอนเจลา แมคโดนัลด์ (H.E. Ms. Angela Macdonald PSM)  เอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย ร่วมเปิดสนามเด็กเล่นแห่งใหม่ในสวนลุมพินี เพื่อส่งเสริมการเล่นของเด็กส่งต่อความสุขที่ได้เล่น ออกกำลังกาย กระตุ้นความสามารถของกล้ามเนื้อทุกมัด และเสริมสร้างความแข็งแรงร่างกาย และจิตใจของเด็ก ๆ ณ สนามเด็กเล่น บริเวณประตู 2 สวนลุมพินี นับเป็นสนามเด็กเล่นแห่งแรกในสวนสาธารณะในกรุงเทพฯ ที่รองรับการใช้งานสำหรับผู้ใช้รถเข็น โดยพิธีเปิดในวันนี้ตรงกับวันผู้พิการสากลซึ่งมุ่งส่งเสริมสิทธิและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้พิการ มีผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และผู้เกี่ยวข้องร่วมพิธีเปิด ณ สวนลุมพินี เขตปทุมวัน

 

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “เวลาใครมาสวนลุมก็มักจะนึกถึงการออกกำลังกายของผู้ใหญ่ เช่น การเดิน วิ่ง รำไทเก็ก แต่วันนี้เรามีสนามเด็กเล่นที่ออกแบบเพื่อการเล่นและเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กโดยเฉพาะ ก็ขอขอบคุณทางสถานเอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทยด้วยที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของเด็ก ๆ และช่วยทำให้ตรงนี้ได้เป็นสถานที่สำคัญ และได้เล่นสนุกของเด็ก ๆ”

 

นอกจากนี้ วันนี้ยังถือเป็นวัน “คนพิการสากล” (International day of persons with disabilities) ซึ่งองค์การสหประชาชาติ (United Nations) ได้กำหนดให้วันที่ 3 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันคนพิการสากล ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 เพื่อส่งเสริม ความเข้าใจในประเด็นปัญหาความพิการ และระดมการสนับสนุน เพื่อศักดิ์ศรี สิทธิ และความเป็นอยู่ที่ดีของคนพิการ ซึ่งวันดังกล่าวมี วัตถุประสงค์เพื่อให้คนในสังคมตระหนักถึงความสำคัญของการยอมรับ และให้โอกาสคนพิการในการเข้าร่วมในทุกด้านของชีวิต อย่างเท่าเทียม โดยสนามเด็กเล่นนี้ยินดีต้อนรับทุกคน เพื่อให้เมืองเป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน

 

ดร.แอนเจลา แมคโดนัลด์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย กล่าวว่า “สนามเด็กเล่นเพื่อชุมชนแห่งนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างออสเตรเลียและไทย และมอบพื้นที่แห่งความสนุกสนานและปลอดภัยสำหรับเด็กที่มีสภาวะความสามารถแตกต่างกันให้มาร่วมเล่นกันได้ เราขอขอบคุณ Leka Studio สำหรับความคิดการออกแบบที่สร้างสรรค์ที่ชูให้เห็นความโดดเด่นของสัตว์ป่าออสเตรเลียเพื่อช่วยสร้างเสริมจินตนาการและการเคลื่อนไหว”

 

สนามเด็กเล่นแห่งใหม่นี้ สนับสนุนโดยสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ตั้งอยู่ภายในสวนลุมพินี อยู่ใกล้ทางออกประตูสอง(หอนาฬิกา) แยกวิทยุและถนนพระรามสี่ เป็นสนามฯแห่งแรกที่รองรับการใช้งานสำหรับผู้ใช้รถเข็น ซึ่งออกแบบโดย Leka Studio ตามแนวคิดสร้างสรรค์ที่ชูให้เห็นความโดดเด่นของสัตว์ป่าออสเตรเลียเพื่อช่วยสร้างเสริมจินตนาการและการเคลื่อนไหว มีทั้งกิจกรรมเล่นแบบโต้ตอบและกิจกรรมที่ใช้แรงกายสำหรับเด็ก พร้อมพื้นรองรับแรงกระแทกสีสันสดใส  เด็กๆ จะได้สัมผัส บรรยากาศเครื่องเล่นสุดท้าทาย ที่สามารถเลียนแบบเป็นจิงโจ้โดยกระโดดบนเครื่องเล่นสปริง ปีนป่ายเหมือนหมีโคอะล่า และสำรวจเครื่องเล่นดนตรีเหมือนนกอีมู แห่งแรกในสวนสาธารณะ กทม.

 

ทั้งนี้ ในปี 2568นี้ เป็นปีครบรอบ 100 ปีสวนลุมพินีกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการการปรับปรุงภายในสวนทั้งหมด มีการปรับปรุงถนน ห้องน้ำ ติดไฟส่องสว่าง และปรับปรุงลุมพินีสถาน รวมถึงอาคารบันเทิงบริเวณกลางสวน และ บริเวณศาลาภิรมย์ภักดี หรือศาลาแปดเหลี่ยม ซ่อมแซมรั้วและหอนาฬิกา และก่อสร้าง Hawker Center เป็นศูนย์อาหารบริเวณประตู 5  รวมถึงทำทางเชื่อมไปสวนเบญจกิติ คือสะพานเขียว และโครงการก่อสร้างทางเชื่อมจากสะพานเขียวเข้ามาภายในสวนลุมพินี อยู่ระหว่างดำเนินการ จะเป็นการเชื่อม 2 สวนเข้าด้วยกัน โดยจะมีการปรับปรุงพื้นที่เป็น Dog Park ด้วย

036

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top