สุรินทร์วิกฤต! ประกาศ 6 อำเภอ ‘เขตสาธารณภัย’ หลังโค-กระบือป่วย ดับพุ่งกว่า 900 ตัว จากโรคปากเท้าเปื่อยและปรสิตเม็ดเลือด

วันที่ 4 ธันวาคม 2568 นายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดสุรินทร์ (ก.ช.ภ.จ.สร.) เพื่อพิจารณาประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและเขตการให้ความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน

การประชุมครั้งนี้ เกิดขึ้นจากสถานการณ์โรคระบาดสัตว์ในโค-กระบือในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งรวมถึง โรคปากและเท้าเปื่อย และโรคปรสิตเม็ดเลือด (ได้แก่ โรคแอนาพลาสมา และ/หรือ โรคไทเลเรีย) โดยสถานการณ์โรคระบาดสัตว์ดังกล่าวส่งผลให้มีโค-กระบือป่วยและตายไปแล้วกว่า 900 ตัว นับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สร้างความเสียหายอย่างหนักแก่เกษตรกร ทั้งด้านต้นทุน การสูญเสียทรัพย์สิน รายได้ และกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจของครัวเรือน

จังหวัดสุรินทร์จึงมีมติประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และเขตการให้ความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสุรินทร์, อำเภอสังขะ, อำเภอกาบเชิง, อำเภอศรีณรงค์, อำเภอลำดวน และอำเภอปราสาท รวม 59 ตำบล 433 หมู่บ้าน 1 ชุมชน พร้อมทั้งให้มีการเฝ้าระวังทั่วทั้งจังหวัด

นายสัตวแพทย์ อภิชัย นาคีสังข์ ปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จากจำนวนโค-กระบือในจังหวัดกว่า 600,000 ตัว มีสัตว์ล้มตายไปแล้วกว่า 900 ตัว โดยทางสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์พร้อมเจ้าหน้าที่ทุกอำเภอ และเจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์ ได้ระดมกำลังลงพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยทำการฉีดพ่นยาป้องกันการระบาดให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์อย่างทั่วถึง ซึ่งช่วยให้การระบาดลดลงอย่างมาก ถือว่ากำลังคลี่คลายเป็นอย่างมาก และมั่นใจว่าไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ การระบาดจะลดลงจนเป็นรูปธรรม ขณะนี้เวชภัณฑ์ยาได้ทยอยมาแจกจ่ายให้กับทีมงานและเกษตรกร เพื่อควบคุม ป้องกัน และลดอัตราการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด

ในส่วนของการช่วยเหลือเยียวยาแก่เกษตรกรที่สัตว์เลี้ยงเสียชีวิตนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการในระดับจังหวัด โดยปศุสัตว์จังหวัดฯ ได้ขอแจ้งให้พี่น้องเกษตรกรทุกครัวเรือนที่มีสัตว์เลี้ยงเป็นโรคปากเท้าเปื่อยและปรสิตในเม็ดเลือด ให้ถ่ายรูปเก็บหลักฐานทุกอย่าง

นอกจากนี้ ปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ ยังเตือนอีกว่า สัตว์ที่ล้มตายนั้นห้ามนำมารับประทานอย่างเด็ดขาด และให้กลบฝังอย่างดี โดยแจ้งให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่แต่ละตำบลเป็นผู้เข้ามาตรวจสอบด้วย โดยจังหวัดจะเร่งดำเนินการเรื่องการช่วยเหลือชดเชยให้แก่เกษตรกรเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ล้มตายให้เร็วที่สุด

////////-026