ละเอียดยิบ เปิดพฤติการณ์ 'นานา ไรบีนา' ฉ้อโกงเหยื่อหลาย 10 ราย เสียหายกว่า 150 ล้าน

ละเอียดยิบ เปิดพฤติการณ์ 'นานา ไรบีนา' ฉ้อโกงเหยื่อหลาย 10 ราย เสียหายกว่า 150 ล้าน

วันพฤหัสบดี ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 14.54 น.

ตำรวจบก.ปอศ.หิ้ว นานา ไรบีนา ฝากขัง หลังตุ๋นเหยื่อหลายสิบรายร่วมลงทุนเสียหายกว่า 150ล้าน ค้านประกันความเสียหายสูง กลัวหนี

เมื่อช่วงสายวันที่ 4 ธันวาคม 2568 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองกํากับการ 4 กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (กก.4 บก.ปอศ.) ได้ควบคุมตัวนางไรบีนา อินทชัย หรือนานา  ไรบีนา อายุ 44 ปี  อดีตนักแสดงสาว และพิธีกรชื่อดังผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงทรัพย์ และ พ.ร.บ.กู้ยืมเงิน อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรก


โดยพนักงานสอบสวนระบุพฤติการณ์แห่งคดีสรุปว่า  เมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2565  ต่อเนื่องกัน  ผู้ต้องหานี้ได้ชักชวน นายเอ นามสมมติ ผู้กล่าวหากับพวกและพยานรวม 10 รายร่วมลงทุนในธุรกิจนําเงินปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลร่วมกับนางตาว นามสมมติ ให้ผลตอบแทน 4-7 % ต่อ เดือน มีตัวอย่างการผู้มาขอกู้ยืมเงินได้แสดงให้ผู้กล่าวหาดู เช่น คุณ บี  5 ล้านบาท มีระยะเวลาในการจ่าย ผลตอบแทน 14 ธันวาคม 200,000 บาท,14 มกราคม 200,000 บาท, 14 กุมภาพันธ์ 200,000 บาท,14 มีนาคม 200,000 บาท เป็นต้น  โดยผู้ต้องหา ได้เสนอแผนการลงทุนพร้อมผลตอบแทนในลักษณะดังกล่าวมายังผู้กล่าวหาจํานวน หลายครั้งปรากฏตามเอกสารที่ผู้กล่าวหามอบให้พนักงานสอบสวน จึงเชื่อว่ามีการทําธุรกิจจริง ผู้กล่าวหากับพวกจึงตัดสินใจร่วมลงทุน  โอนเงินผ่านบัญชี โดยมีชื่อผู้ต้องหาเป็นผู้เปิดบัญชี จำนวน 4 บัญชี  โดยผู้กล่าวหาได้ลงทุนไปในช่วงแรกของการลงทุนผู้กล่าวหาได้รับผลตอบแทนตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างจริงได้ลงทุนเพิ่มตามแผนการลงทุนที่ผู้ต้องหา ได้เสนอมาแต่ละครั้ง 

ต่อมาเมื่อประมาณเดือนมกราคม -กุมภาพันธ์ 2568 ผู้ต้องหาได้หยุดจ่ายผลตอบแทนพร้อมเงินต้น  ผู้กล่าวหาจึงได้ทวงถามผู้ต้องหา แจ้งว่า  ถูกหน่วยงานของรัฐอายัดบัญชีธนาคาร ทําให้ไม่สามารถจ่ายเงินผลตอบแทนและเงินลงทุนคืนให้ได้ จึงได้สอบถามว่าจะได้เงิน ผลตอบแทนตามกําหนดเมื่อไรเพราะล่วงเลยมาพอสมควรแล้ว ก็ไม่ได้ให้คําตอบที่แน่ชัด เพียงแต่ผู้ต้องหาบอกว่าประมาณเดือน ตุลาคม 2568 จะได้เงินคืนทั้งหมด และได้ออกเช็คธนาคารให้กับผู้กล่าวหากับพวก ปรากฏตามเอกสารที่ได้มอบให้ให้พนักงาน สอบสวน เพื่อชําระเงินต้นและผลตอบแทน ซึ่งเช็คบางฉบับผู้กล่าวหา ซึ่งธนาคารปฏิเสธการจ่าย โดยอ้างว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่าย 

กระทั่งประมาณเดือน กันยายน 2568 ผู้ต้องหาออกมาชี้แจงว่าไม่ได้มี การนําเงินของผู้กล่าวหาไปลงทุนในธุรกิจจริง แต่คนที่กล้างอ้างถึงนั้นมีตัวตนอยู่จริงแต่ไม่ได้มีการ นําเงินผู้กล่าวหาและบุคคลรายอื่นไปลงทุน ซึ่งแต่ละรายถูกหลอกลวงเช่นเดียวกับผู้กล่าวหาและได้นําเงินของผู้กล่าวหาไปใช้ เป็นประโยชน์ส่วนตน จึงขอเงินลงทุนคืน ภายหลังทราบว่าผู้ต้องหาไม่ได้ทําธุรกิจตามที่กล่าวอ้างจริง และมีบุคคลอื่นที่ถูกหลอกลวงเช่นเดียวกับผู้กล่าวหาเป็นจํานวนหลายสิบรายจึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงแน่แล้วจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์รวมค่าเสียหาย จำนวนเงิน 152,907,577 บาท

และจากการสอบสวนได้มีการหลอกลวงผู้กล่าวหาและพยานอีกจํานวนหลายรายในการปกปิดข้อเท็จจริงอัน ควรบอกให้แจ้งโดยมีพฤติการณ์ในการหลอกลวงเพื่อให้ได้ซึ่งทรัพย์สิน เช่น นําเงินไปลงทุนธุรกิจบริษัทเกี่ยวกับกีฬา ( บาสเกตบอล)โดยไม่มีการทําธุรกิจจริง และจะให้ผลตอบแทน 40 เปอร์เซ็นต์, หลอกลวงขายหุ้นร้านตัดผมโดยบริษัท เนเวอร์เซคัทซ์ จํากัด ซึ่งหุ้นดังกล่าว ไม่ใช่หุ้นของผู้ต้องหา แต่กลับอ้างว่า นํา เงินไปลงทุนหุ้นกับบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญและจะนําผลตอบแทนมา ให้ปลอมแปลงเอกสารหลักฐานการโอนเงินเพื่อให้ผู้กล่าวหาหลงเชื่อว่ามีการนําเงินไปลงทุนในธุรกิจสินเชื่อ, หลอกลงทุนทําธุรกิจร้านอาหารที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จากพยานหลักฐานดังกล่าวจึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ผู้ต้องหา ได้กระทําความผิดพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออํานาจศาลอาญาอนุมัติหมายจับที่จ.1795/2568 ลงวันที่ 2ธันวาคม2568

ต่อมาวันที่ 3 ธันวาคม 2568เจ้าหน้าที่ตํารวจจับกุมผู้ต้องหา ที่บ้านพัก ย่านคลองตันเหนือ เขตพระโขนง ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ.ดำเนินคดี

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ร่วมกู้ยืมเงินที่เป็น การฉ้อโกงประชาชน, ปลอมและใช้เอกสารปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐาน “ร่วมฉ้อโกงทรัพย์ ร่วมกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ปลอมและใช้เอกสาร ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” อันเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,264,268,341,พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 3,4,5,7,12 ฯ. 

ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

พนักงานสอบสวนยังทำการสอบสวนไม่เสร็จสิ้นเนื่องจากต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีก 10 ปาก และรอผลการตรวพิสูจน์ของกลาง, รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา จึงขอฝากขัง ผู้ต้องหาระหว่างการสอบสวนเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 4 – 15 ธันวาคม นี้

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากมูลค่าความเสียหายในคดีสูงและคดีอยู่ในความสนใจของประชาชนเนื่องจากผู้ต้องหาเป็น บุคคลที่มีชื่อเสียง,มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์เพิ่มเติม ประกอบกับมีผู้เสียหายมาแจ้งคว่มดำเนินคดีเพิ่มเติม เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและไม่ได้รับการชดใช้ค่าเสียหาย

ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top