4 ธันวาคม 2568 เวลา 15.30 น.  น.อ.แมนรัตน์ บุญสวัสดิ์ ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม (ผบ.นรข.เขตฯ) ร่วมกับ กองบังคับการควบคุมที่ 1,กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237,กองร้อยทหารพรานที่ 2103 แถลงการณ์ตรวจยึดยาบ้าประมาณ 42,000 เม็ด พร้อมผู้ต้องหา 1 คน เหตุเกิดบริเวณริมแม่น้ำโขง บ้านเหล่าสวนกล้วย หมู่ 4 ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

กล่าวคือ ว่าที่ ร.อ.เพชรนคร ผิวขำ หัวหน้าสถานีเรือบ้านแพง (หน.สน.เรือบ้านแพง) รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน ข้ามมาส่งในพื้นที่บ้านเหล่าสวนกล้วย จึงประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ จัดชุดซุ่มเฝ้าเลียบฝั่งแม่น้ำโขง กระทั่งเวลาหกโมงเช้าวันที่ 4 ธันวาคม 68 พบเรือกีบซึ่งเป็นเรือหางยาวหาปลาของคนลุ่มน้ำโขง แล่นมาจากตรงข้าม ระหว่างนั้นมีชาย 3 คนเดินมายืนรออยู่ที่บันไดทางขึ้นลงท่าน้ำ เมื่อเรือเข้าเทียบฝั่งชายคนขับได้ยื่นกระสอบสีขาวให้ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น

ชายทั้งสามโยนกระสอบทิ้ง วิ่งหนีกันคนละทิศละทาง ส่วนชายขับเรือก็เร่งเครื่องกลับไปยังฝั่ง สปป.ลาว เจ้าหน้าที่วิ่งไล่สามารถตะครุบตัวได้ 1 คน ส่วนอีก 2 คนอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปตรวจสอบที่ สน.เรือบ้านแพง

ทราบต่อมาว่าชื่อนายสุดใจ บุญเทียม หรือเปี้ย อายุ 54 ปี เป็นชาวบ้านเหล่าสวนกล้วยโดยให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากท้าวไพ ชาวบ้านโพนค้อ เมืองหินปูน แขวงคำม่วน สปป.ลาว ในราคา 1 หมื่นบาท ให้ทำหน้าที่นำกระสอบบรรจุยาบ้าไปวางไว้ริมถนนทางหลวงชนบท หมายเลข นพ.3023 สายบ้านไชยบุรี-บ้านปากห้วยม่วง ตนจึงติดต่อเพื่อนคือนายต๋องกับนายชัช ชาวบ้านท่าหนามแก้ว ต.หนองเทา ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดกันมาร่วมงานด้วย คุยกันไว้ว่าถ้าส่งยาเสร็จแล้ว จะไปกินลาบก้อยฉลองกัน แต่แผนต้องล่มสลายเพราะทำงานไม่สำเร็จ

นายสุดใจหรือลุงเปี้ย อ้างว่าเพิ่งรับงานเป็นครั้งแรก เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน ดำเนินตามกฎหมายต่อไป