แสงดวงไฟกระสุนพุ่งแหวกท้องฟ้า ยิงกดดันแนวรบตามหลักยุทธวิธีทางการทหารของไทย หลังเขมรเคลื่อนกำลังประชิดช่องกร่างและปราสาทตาเมือนธม ก่อนหยุดในเวลา 22.30 น. ของวันที่ 8 ธันวาคม รอดูเขมรจะมาในรูปแบบไหนต่ออีก

9 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนด้าน อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เวลา16.00 น มีข้อมูลว่า พบทหารกัมพูชาตั้งปืนใหญ่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 บริเวณพื้นที่ตรงข้ามช่องกร่าง หันกระบอกปืนเล็งพิกัดเข้ามาทางฝั่งไทย วิถีเล็งคือแนวพื้นทึ่อำเภอพนมดงรักและโรงพยาบาลพนมดงรัก จึงได้มีการแจ้งเตือนผู้นำหมู่บ้านให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวเข้าบังเกอร์หลุมหลบภัยอยู่ตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัย

ขณะที่บรรยากาศช่วงค่ำ ชุด ชรบ.พื้นที่ได้แบ่งกำลังออกตรวจสอบดูแลความเรียบร้อยให้กับชาวบ้านที่อพยพออกไปอยู่ยังศูนย์พักพิง เพื่อเช็คว่ามีบ้านหลังที่ลืมปิดล็อคบ้านหรือลืมล็อครถ ป้องกันเหตุลักขโมยทรัพย์สินชาวบ้าน โดยมีการออกตรวจตราทุก 2 ชั่วโมง ท่ามกลางเสียงปืนใหญ่ของไทยที่ยิงกดดันแนวรบตามหลักยุทธวิธีทางการทหารอย่างต่อเนื่อง หลังพบว่ามีการเคลื่อนไหวของกองกำลังทหารฝั่งกัมพูชาพร้อมยุทโธปกรณ์ตั้งแต่ช่วงบ่าย สามารถมองเห็นแสงกระสุนพุ่งแหวกบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนเดือนหงายอย่างชัดเจน

โดยมีชาวบ้านที่อยู่ดูแลช่วยชุด ชรบ.ส่งเสียงเชียร์ทุกครั้งที่แสงไฟลูกกระสุนพุ่งผ่านไปยังเป้าหมาย พื้นที่ที่มีการเปิดฉากแนวรบกัน ทั้งช่องกร่าง พื้นที่ตำบลบักได และพื้นที่ติดกับปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก ก่อนที่การยิงกดดันแนวรบตามหลักยุทธวิธีทางการทหารของไทยจะหยุดในเวลา 22.30 น. ซึ่งสถานการณ์ก็ยังไม่น่าไว้วางใจ ต้องดูท่าทีว่าทหารฝั่งกัมพูชา จะมาในรูปแบบไหนอีก ทั้งนี้ยังไม่พบมีรายงานความเสียหายและสูญเสียในพื้นที่