'กนอ.'เปิดโครงการยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างต้นแบบโมเดลสุขภาพแรงงานไทยอย่างยั่งยืน

'กนอ.'เปิดโครงการยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างต้นแบบโมเดลสุขภาพแรงงานไทยอย่างยั่งยืน

วันศุกร์ ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 14.30 น.

กนอ. ผนึก แอสตร้าเซนเนก้า-กสร.-สปส.เปิดโครงการยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างต้นแบบโมเดลสุขภาพแรงงานไทยอย่างยั่งยืน จัดกิจกรรม 'ตรวจป(ล)อดภัย ด้วยนวัตกรรม AI' ลดเสี่ยงโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง-มะเร็งปอด 

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม จับมือ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) และสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน เปิดตัว “โครงการด้านสังคมเพื่อส่งเสริมสุขภาพและสวัสดิภาพของบุคลากรในเขตนิคมอุตสาหกรรม” พร้อมด้วยกิจกรรม “ตรวจป(ล)อดภัย ด้วยนวัตกรรม AI” เดินสายนำเทคโนโลยี AI มาช่วยในการตรวจคัดกรองสุขภาพปอดให้แก่บุคลากรในนิคมอุตสาหกรรมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย มุ่งค้นหาความผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ลดความรุนแรงของโรค และยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานอย่างยั่งยืน 


องค์การอนามัยโลก (WHO) เน้นความสำคัญของสุขภาพปอด ที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สำหรับประเทศไทย โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) และมะเร็งปอดเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่พบมากและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ทั้งที่สามารถป้องกันและรักษาให้หายขาดได้หากตรวจพบเร็วและรักษาทันทีด้วยวิธีที่เหมาะสม โดยมลภาวะทางอากาศและสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่น ควัน หรือสารเคมีในที่ทำงาน ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่การเกิดโรคปอดโดยตรง ข้อมูลปัจจุบันยังชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง โดยพบว่าผู้ป่วยมะเร็งปอดกว่า 70% ได้รับการวินิจฉัยในระยะสุดท้าย ส่งผลให้การรักษาให้หายขาดเป็นไปได้ยากและต้องใช้วิธีการที่ซับซ้อน 

ในขณะที่ “แรงงาน” คือ พลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ “สุขภาพที่ดีของแรงงาน” คือ รากฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน การตรวจคัดกรองปอดเชิงรุกแก่แรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ใน “โครงการด้านสังคมเพื่อส่งเสริมสุขภาพและสวัสดิภาพของบุคลากรในเขตนิคมอุตสาหกรรม” จึงมีส่วนสำคัญต่อทั้งชีวิตแรงงานและเศรษฐกิจภาพรวม ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน ผ่านการตรวจคัดกรอง การลดปัจจัยเสี่ยงโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและมะเร็งปอด และการให้ความรู้ด้านสุขภาพปอด ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการสร้างต้นแบบโมเดลสุขภาพแรงงานไทยอย่างยั่งยืน 

พลตำรวจโท อิทธิพร โพธิ์ทอง ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายสุชาติ ชมกลิ่น) เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการด้านสังคมเพื่อส่งเสริมสุขภาพและสวัสดิภาพของบุคลากรในเขตนิคมอุตสาหกรรม ที่จัดขึ้น ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี โดยระบุว่า “การพัฒนาประเทศในยุคปัจจุบัน ต้องอาศัยการบูรณาการระหว่าง “อุตสาหกรรม สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม” อย่างสมดุล สุขภาพของแรงงานในนิคมอุตสาหกรรมถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจที่มีความเชื่อมโยงกับสภาพแวดล้อม การที่ภาครัฐและเอกชนร่วมกันนำเทคโนโลยี AI-assisted Chest X-ray มาใช้คัดกรองเชิงรุก จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงการจัดการสิ่งแวดล้อมกับการคุ้มครองสุขภาพแรงงานให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม” 

ด้าน นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า “กนอ. มุ่งขับเคลื่อนนิคมอุตสาหกรรมไทยสู่การเป็นพื้นที่เศรษฐกิจชั้นนำ ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิต ตามแนวทางการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco-Industrial Town) ข้อมูลจากการตรวจคัดกรองด้วย AI ในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘ความร่วมมือเชิงระบบ’ ที่ช่วยให้ กนอ.และหน่วยงานพันธมิตรมีฐานข้อมูลสุขภาพแรงงานเชิงประจักษ์ เพื่อนำไปสู่การกำหนดนโยบายและแนวทางการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ โดย กนอ. ตั้งเป้าขยายผลการดำเนินงานสู่นิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับระบบสุขภาพแรงงานไทย ซึ่งจะช่วยยกระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อนิคมอุตสาหกรรมไทยในระยะยาว” 

ขณะที่ นางโสมรสา พงษ์เพิ่มพฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการและสื่อสารองค์กร  บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แอสตร้าเซนเนก้า มุ่งมั่นใช้วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมเพื่อยกระดับสุขภาพของผู้คน และสร้างระบบสุขภาพที่เข้มแข็งและยั่งยืนให้กับประเทศไทย การดำเนิน ‘โครงการด้านสังคมส่งเสริมสุขภาพและสวัสดิภาพของบุคลากรในเขตนิคมอุตสาหกรรม’ แสดงให้เห็นพลังของการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และพันธมิตรด้านเทคโนโลยีสุขภาพ ที่มุ่งมั่นให้แรงงานไทยได้เข้าถึงการตรวจสุขภาพเชิงป้องกันและคัดกรองโรคระบบทางเดินหายใจตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตด้วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและมะเร็งปอด แอสตร้าเซนเนก้า พร้อมเป็นพันธมิตรระยะยาวกับทุกภาคส่วนในการยกระดับการดูแลสุขภาพที่เน้นการป้องกันและผู้ป่วยควรได้รับการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น (Transform Care) ซึ่งการดำเนินงานในครั้งนี้ นับเป็นหนึ่งในโครงการริเริ่มภายใต้เครือข่ายความร่วมมือด้านนวัตกรรมสุขภาพระดับโลกของแอสตร้าเซนเนก้า เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ในโครงการ A.Catalyst Network” 

สำหรับ “โครงการด้านสังคมเพื่อส่งเสริมสุขภาพและสวัสดิภาพของบุคลากรในเขตนิคมอุตสาหกรรม ประกอบด้วย กิจกรรม “ตรวจป(ล)อดภัย ด้วยนวัตกรรม AI” และ กิจกรรม “ตรวจป(ล)อดภัย รู้ไว รักษาได้” เป็นกิจกรรมนำร่องดำเนินงานร่วมกับ 3 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงแรงงาน ในนิคมอุตสาหกรรมพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา มีเป้าหมายให้บริการตรวจคัดกรองแรงงานรวม 5,000 คน ภายในระยะเวลา 2 เดือน (ธันวาคม 2568 - มกราคม 2569) ผ่านการคัดกรองเบื้องต้นด้วยแบบสอบถามความเสี่ยงด้านโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ผสานกับการตรวจเอกซเรย์ทรวงอกด้วย AI-Assisted Chest X-Ray นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) เทคโนโลยี Inspectra CXR จากบริษัท เพอร์เซปตรา (Perceptra) สตาร์ทอัพเทคโนโลยีสุขภาพสัญชาติไทย ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานระดับสากล และถูกนำไปใช้แล้วในโรงพยาบาลกว่า 470 แห่งทั่วประเทศ สามารถช่วยแพทย์อ่านภาพเอกซเรย์ทรวงอก ซึ่งสามารถตรวจหาความผิดปกติที่เกี่ยวกับโรคปอดได้ 8 ประเภท มีความแม่นยำโดยรวม 98.9% และช่วยลดเวลาในการอ่านผลเบื้องต้นของแพทย์ได้ถึง 70% เพิ่มโอกาสค้นพบโรคในระยะเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ  

ภายในงานยังได้จัดเสวนา หัวข้อ “ตรวจป(ล)อดภัย รู้ไว รักษาได้” โดยผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ นพ.วรชัย แสงทองพินิจ อายุรแพทย์ สาขาโรคปอด ระบบทางเดินหายใจ แผนกอายุรกรรม โรงพยาบาลชลบุรี  ดร. พญ.ประกายทิพ สุศิลปรัตน์ แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และรองประธานกรรมการมูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง และคุณสุพิชญา พู่พิสุทธิ์ ผู้ก่อตั้ง และ CEO ของ Perceptra  โดยมีคุณแคน อติรุจ กิตติพัฒนะ ดำเนินรายการเสวนา เพื่อให้ความรู้ด้านสุขภาพและเฝ้าระวังโรคปอด แก่บุคลากรในนิคมอุตสาหกรรม 
 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top