เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ธ.ค.2568 ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงไทม์ไลน์สถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชา ระบุว่า ตั้งแต่ช่วงเที่ยงของเมื่อวานที่ผ่านมา เวลา 12.00 น. กองกำลังฝ่ายไทยสามารถ ยึดคืนพื้นที่ปราสาทตาควาย ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในอธิปไตยของประเทศไทยมาโดยตลอด

ปัจจุบัน กองทัพบกยังคงปฏิบัติการทางทหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมพื้นที่โดยรอบให้ได้อย่างสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์

ต่อมาในช่วงเวลา 19.00 น. ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในดินแดนของไทย โดยเฉพาะบริเวณ ช่องกลาง ส่งผลให้กำลังพลของไทยเสียชีวิต 1 นาย จากกองพันที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 ถือเป็นการสูญเสียกำลังพลวีรชนอีกหนึ่งนาย

โดยยอดรวมกำลังพลที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะในขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตจากการปะทะ 16 นาย และเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่อีก 1 นาย รวมเป็น 17 นาย

และในช่วงเช้าวันนี้ เวลา 06.47 น. ฝ่ายกัมพูชายังคงเปิดฉากโจมตีเข้ามาในดินแดนของไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องตอบโต้ เพื่อปกป้องอธิปไตยและผลักดันฝ่ายตรงข้ามออกจากพื้นที่

ขณะเดียวกัน โฆษกกระทรวงกลาโหมยังเปิดเผยความคืบหน้าการปฏิบัติการของ กองทัพเรือ ซึ่งยังคงดำเนินการทั้งทางบกและทางเรือในพื้นที่หลัก บริเวณ บ้านสำราญ และเกาะยอ จังหวัดเกาะกง โดยสถานการณ์มีพัฒนาการในทิศทางที่ดี และจะมีการรายงานรายละเอียดเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป

พร้อมกันนี้ กองทัพเรือขอขอบคุณพี่น้องประชาชนในจังหวัดตราด ที่ให้ความร่วมมืออย่างเคร่งครัดในช่วงการประกาศ เคอร์ฟิว ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ป้องกันเหตุวินาศกรรม และสกัดกั้นการแทรกซึมของฝ่ายตรงข้าม

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวถือว่ามีประสิทธิภาพ โดยสามารถควบคุมสถานการณ์และจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ในช่วงที่ผ่านมา

“กองทัพไทยยังคงปฏิบัติภารกิจอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาอธิปไตย ความปลอดภัยของประชาชน และความสงบเรียบร้อยของประเทศเป็นสำคัญ” โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว

ทางด้านกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการตามแผนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการบริหารจัดการ ศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งในช่วงแรกมีศูนย์พักพิงกว่า 1,000 แห่ง และมีประชาชนเข้าพักมากกว่า 250,000 คน แม้จะพบปัญหาในระยะเริ่มต้น แต่จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมกันแก้ไขและปรับปรุงการบริหารจัดการอย่างใกล้ชิด

รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวย้ำว่า กระทรวงมหาดไทย พร้อมดูแลอย่างเต็มที่ หากประชาชนยังพบปัญหาหรือข้อขัดข้อง สามารถแจ้งต่อผู้อำนวยการศูนย์พักพิง นายอำเภอ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ได้โดยตรง

นอกจากนี้ ยังได้ให้ความสำคัญกับความห่วงใยของประชาชนเกี่ยวกับ ปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยง ที่ไม่ได้อพยพมาด้วย โดยจังหวัดและอำเภอได้ประสานงานกับกรมปศุสัตว์ จัดเตรียมอาหารสัตว์อย่างเป็นระบบ พร้อมกระจายความช่วยเหลือผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร และชุดรักษาความปลอดภัยในพื้นที่

ขณะเดียวกัน ในส่วนของ บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชน ได้มีการจัดกำลังอาสาสมัคร ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแผนลาดตระเวนดูแลความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุและรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่

นายชัยรัตน์ กล่าวอีกว่า กระทรวงมหาดไทย จะเดินหน้าบริหารจัดการศูนย์พักพิง และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างเต็มกำลัง พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันก้าวผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยความเข้มแข็งและสงบเรียบร้อย